ASTVผู้จัดการรายวัน-"นารายณ์"มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 55 เติบโต หนุนอสังหาฯไปโลด เผยหลังน้ำท่วมทุนนอกยังมั่นใจตลาดคอนโดฯไทยพร้อมลงทุนต่อ ด้านแผนลงทุนปีนี้ลุยจัดสรรทั้งแนวราบ-สูง รวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 2500 ล้านบาท
นายเจนต์ชัย ลิ้มวัฒนะกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท นารายณ์ พร็อพเพอตี้ จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2555 ยังมีแนวโน้มเติบโตดี พิจารณาได้จากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในระดับค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของความไม่สงบทางการเมืองหากเกิดความรุนแรงก็จะส่งผลกระทบในภาพรวมได้ แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาไทยมีปัญหาด้านการเมืองอย่างต่อเนื่องแต่เศรษฐกิจก็ยังสามารถเติบโตได้จึงเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรง ส่วนภาวะเศรษฐกิจโกลกชะลอตัวนั้นหากไม่ชะลอตัวรุนแรงก็เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบ
ส่วนภาวะน้ำท่วมแม้ว่าจะส่งผลให้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯชะลอตัว แต่หากแยกเป็นรายเซกเมนท์แล้วจะพบว่า น้ำท่วมกับส่งผลดีต่อตลาดคอนโดฯทำให้คนหันมาซื้อเพิ่มขึ้น ส่วนบ้านแนวราบอาจได้รับผลกรนะทบในระยะสั้นไปจนถึงกลางปี หลังจากนั้นจะกลับมาเติบโตได้อีก
สำหรับผู้ร่วมทุนต่างชาติ กลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์ อยาลา สัญชาติฟิลิปปินส์ แต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ยังแสดงความเชื่อมั่นในตลาดคอนโดฯของไทยและพร้อมที่จะลงทุนต่อเนื่องในสัดส่วน 49% หรือมีวงเงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท แม้ว่าจะเกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาและมีความกังวลว่าจะเกิดขึ้นซ้ำอีก โดยให้เหตุผลว่าพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยมีความแข็งแกร่ง ซึ่งอยาลาจะเลือกร่วมทุนเฉพาะโครงการคอนโดฯ ซึ่งมีความเสี่ยงจากปัญหาน้ำท่วมน้อยมาก
“แม้ว่าแนวโน้มตลาดจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ก็อาจมีปัจจัยเสี่ยงเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการลงทุนของบริษัทจะต้องมีความระมัดระวังอย่างมาก โดยจะกระจายการลงทุนโครงการแนวสูงประมาณ 60-70% ของพอร์ต ที่เหลือเป็นโครงการแนวราบประมาณ 30-40% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการของตลาด จากเดิมที่บริษัทจะพัฒนาโครงการแนวสูงเกือบ 90% ของพอร์ต เป็นโครงการแนวราบเพียง 10% เท่านั้น” นายเจนต์ชัยกล่าว
นายเจนต์ชัย กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้จะเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาทแบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ เกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย โครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการและทาวน์เฮาส์อีก 2 โครงการ ปัจจุบันได้ซื้อที่ดินเข้ามาแล้ว 2 แปลง ว่างมัดจำไว้ 1 แปลง ส่วนอีก 1 แปลงอยู่ระหว่างการเจรจา พร้อมกับตั้งงบประมาณในการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาในอนาคตอีกจำนวน 1,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 2,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ในมือแล้ว 4,000-5,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปีนี้บางส่วน ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้เปิดตัวโครงการทาวน์โฮม 4 ชั้นแบรนด์ “ฟลอรา แมรีโกลด์ ราคาเริ่มต้น 13-16 ล้านบาท บนถนนสาธุประดิษฐ์ มูลค่าโครงการ 670 ล้านบาท เพียง 1 เดือนมียอดจองแล้ว 90%
ล่าสุดในวันที่ 111-12 กุมภาพันธ์นี้เตรียมเปิดตัวโครงการเดอะพาร์คแลนด์ ศรีนครินทร์ เลคไซด์ ทาวเวอร์ บี คอนโดฯขนาด 35-60.5 ตร.ม. จำนวน 349 ยูนิต ออกแบบพิเศษให้มีหน้ากว้าง 7.5 เมตรเพื่อให้ห้องชุดได้รับแสงทุกห้อง ราคาเริ่มต้น 1.43 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวอย่าง พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ รับส่วนลด 50,000 บาท จองเพียง 5,000 บาท ทำสัญญา 5,000 บาท สำหรับโครงการเดอะ พาร์คแลนด์ ศรีนครินทร์ เลคไซด์ ทาวเวอร์เอ จำนวน 484 ยูนิต ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 95% ส่วนงานก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอน
นายเจนต์ชัย กล่าวต่อว่า ทำเลบางนา ศรีนครินทร์มีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟฟ้า BTS และเมกะบางนา ส่งผลให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพื่อต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและปล่อยเช่า พิจารณาได้จากการรับบริหารเช่าห้องชุดให้แก่ลูกค้าซึ้งปัจจุบันมีจำนวน 200 ห้อง จากทั้งหมด 1,200 ห้อง และยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ลูกค้าปล่อยเช่าเอง อัตราค่าเช่าตั้งแต่ 9,000-15,000 บาท/เดือน ทั้งในรูปห้องเปล่า และห้องที่ตกแต่งแล้วเสร็จ
นายเจนต์ชัย ลิ้มวัฒนะกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท นารายณ์ พร็อพเพอตี้ จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2555 ยังมีแนวโน้มเติบโตดี พิจารณาได้จากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในระดับค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของความไม่สงบทางการเมืองหากเกิดความรุนแรงก็จะส่งผลกระทบในภาพรวมได้ แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาไทยมีปัญหาด้านการเมืองอย่างต่อเนื่องแต่เศรษฐกิจก็ยังสามารถเติบโตได้จึงเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรง ส่วนภาวะเศรษฐกิจโกลกชะลอตัวนั้นหากไม่ชะลอตัวรุนแรงก็เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบ
ส่วนภาวะน้ำท่วมแม้ว่าจะส่งผลให้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯชะลอตัว แต่หากแยกเป็นรายเซกเมนท์แล้วจะพบว่า น้ำท่วมกับส่งผลดีต่อตลาดคอนโดฯทำให้คนหันมาซื้อเพิ่มขึ้น ส่วนบ้านแนวราบอาจได้รับผลกรนะทบในระยะสั้นไปจนถึงกลางปี หลังจากนั้นจะกลับมาเติบโตได้อีก
สำหรับผู้ร่วมทุนต่างชาติ กลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์ อยาลา สัญชาติฟิลิปปินส์ แต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ยังแสดงความเชื่อมั่นในตลาดคอนโดฯของไทยและพร้อมที่จะลงทุนต่อเนื่องในสัดส่วน 49% หรือมีวงเงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท แม้ว่าจะเกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาและมีความกังวลว่าจะเกิดขึ้นซ้ำอีก โดยให้เหตุผลว่าพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยมีความแข็งแกร่ง ซึ่งอยาลาจะเลือกร่วมทุนเฉพาะโครงการคอนโดฯ ซึ่งมีความเสี่ยงจากปัญหาน้ำท่วมน้อยมาก
“แม้ว่าแนวโน้มตลาดจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ก็อาจมีปัจจัยเสี่ยงเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการลงทุนของบริษัทจะต้องมีความระมัดระวังอย่างมาก โดยจะกระจายการลงทุนโครงการแนวสูงประมาณ 60-70% ของพอร์ต ที่เหลือเป็นโครงการแนวราบประมาณ 30-40% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการของตลาด จากเดิมที่บริษัทจะพัฒนาโครงการแนวสูงเกือบ 90% ของพอร์ต เป็นโครงการแนวราบเพียง 10% เท่านั้น” นายเจนต์ชัยกล่าว
นายเจนต์ชัย กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้จะเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาทแบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ เกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย โครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการและทาวน์เฮาส์อีก 2 โครงการ ปัจจุบันได้ซื้อที่ดินเข้ามาแล้ว 2 แปลง ว่างมัดจำไว้ 1 แปลง ส่วนอีก 1 แปลงอยู่ระหว่างการเจรจา พร้อมกับตั้งงบประมาณในการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาในอนาคตอีกจำนวน 1,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 2,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ในมือแล้ว 4,000-5,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปีนี้บางส่วน ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้เปิดตัวโครงการทาวน์โฮม 4 ชั้นแบรนด์ “ฟลอรา แมรีโกลด์ ราคาเริ่มต้น 13-16 ล้านบาท บนถนนสาธุประดิษฐ์ มูลค่าโครงการ 670 ล้านบาท เพียง 1 เดือนมียอดจองแล้ว 90%
ล่าสุดในวันที่ 111-12 กุมภาพันธ์นี้เตรียมเปิดตัวโครงการเดอะพาร์คแลนด์ ศรีนครินทร์ เลคไซด์ ทาวเวอร์ บี คอนโดฯขนาด 35-60.5 ตร.ม. จำนวน 349 ยูนิต ออกแบบพิเศษให้มีหน้ากว้าง 7.5 เมตรเพื่อให้ห้องชุดได้รับแสงทุกห้อง ราคาเริ่มต้น 1.43 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวอย่าง พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ รับส่วนลด 50,000 บาท จองเพียง 5,000 บาท ทำสัญญา 5,000 บาท สำหรับโครงการเดอะ พาร์คแลนด์ ศรีนครินทร์ เลคไซด์ ทาวเวอร์เอ จำนวน 484 ยูนิต ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 95% ส่วนงานก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอน
นายเจนต์ชัย กล่าวต่อว่า ทำเลบางนา ศรีนครินทร์มีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟฟ้า BTS และเมกะบางนา ส่งผลให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพื่อต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและปล่อยเช่า พิจารณาได้จากการรับบริหารเช่าห้องชุดให้แก่ลูกค้าซึ้งปัจจุบันมีจำนวน 200 ห้อง จากทั้งหมด 1,200 ห้อง และยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ลูกค้าปล่อยเช่าเอง อัตราค่าเช่าตั้งแต่ 9,000-15,000 บาท/เดือน ทั้งในรูปห้องเปล่า และห้องที่ตกแต่งแล้วเสร็จ