ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ธปท.สำนักงานภาคใต้ชี้ปี 54 เป็นขาขึ้นของเศรษฐกิจใต้ “ปาล์ม-ยางพารา” ยังคงเป็นพระเอก ท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวสูง คาดปี 55 เศรษฐกิจยังคงขยายตัว แต่อาจชะลอลงบ้างตามภาวะเศรษฐกิจโลก
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายพฤทธิพงศ์ ศรีมาจันทร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคใต้ เปิดเผยถึงภาพรวมภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ ปี 2554 ว่า ปี 2554 นับเป็นปีทองของเศรษฐกิจภาคใต้ ทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมมีการขยายตัวดีตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตปาล์มและยางพารา ขณะเดียวกันราคาสินค้าเกษตรก็เพิ่มขึ้นทุกชนิด ทำให้รายได้ในภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ การท่องเที่ยว การส่งออก และอสังหาริมทรัพย์ก็ขยายตัวในเกณฑ์ดีเช่นเดียวกัน ส่งผลให้เงินฝาก สินเชื่อ และการใช้จ่ายอื่นๆ สูงขึ้นตามไปด้วย
โดยพบว่า ดัชนีผลผลิตพืชผลเกษตรเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 9.2 โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 32.1 เนื่องจากการขยายพื้นที่ปลูก และปาล์มน้ำมันในช่วงก่อนหน้าให้ผลผลิตเต็มที่ สัดส่วนต้นปาล์มพันธุ์ดีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นด้วยร้อยละ 2.5 โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม นอกจากนี้ การผลิตยางพาราแปรรูป และไม้ยางพาราแปรรูปก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แม้ว่าความต้องการซื้อจากตลาดยุโรปและอเมริกาจะลดลง แต่จีนซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ยังคงต้องการอย่างต่อเนื่อง
ภาพรวมมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรโดยรวมจึงเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 38.2 ทั้งนี้ สินค้าส่งออกที่สำคัญส่วนใหญ่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกยางพารา ไม้ยางพาราแปรรูป อาหารทะเลกระป๋อง และถุงมือยาง ส่วนการนำเข้ามีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 49.7 ตามมูลค่าการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตในภาคอุตสาหกรรม อาทิ แท่นขุดเจาะน้ำมัน
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวในภาคใต้ทั้งฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย รวมทั้งชายแดนภาคใต้ ก็ขยายตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากมั่นใจในความปลอดภัย และผลจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งการเพิ่มเที่ยวบินในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับเศรษฐกิจโดยรวมของเอเชียขยายตัวดี นักท่องเที่ยวจึงมีกำลังซื้อและเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยในปี 2554 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองภาคใต้ถึง 5.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 20.1
“สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 4.22 สูงขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 3.63 ตามราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล ส่วนราคาหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มก็เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ” นายพฤทธิพงศ์กล่าว
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจภาคใต้ในปี 2555 คาดว่าจะยังคงขยายตัว จากปัจจัยบวกทางพื้นฐานเศรษฐกิจและความต้องการสินค้าจากกลุ่มประเทศในเอเชียอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาสินค้าเกษตรยังอยู่ในระดับสูง ส่วนการท่องเที่ยวจะขยายตัวจากการทำตลาดใหม่ และการเพิ่มเที่ยวบินจากต่างประเทศมายังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สภาพอากาศที่แปรปรวน และผลกระทบของอุทกภัยในภาคกลาง ซึ่งทำให้ขาดแคลนสินค้าบางประเภท เช่น รถยนต์ ในช่วงต้นปี อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอลงจากปี 2554 ส่วนเงินเฟ้อคาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงจากการปรับตัวของค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องต่อต้นทุนของผู้ประกอบการและส่งผ่านมายังราคาสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและสนับสนุนรายได้ของภาครัฐก็จะเป็นแรงผลักดันให้มีความต้องการมากขึ้นด้วย