ท่านผู้อ่านที่เคารพ วันนี้ขอโทษ ขอเลื่อนอีกทั้ง 2 เรื่อง คือ เรื่อง มาร์กซ์ เลเนิน เหมา กับ นิติราษฎร์ VS สยามประชาภิวัฒน์ เรื่องนี้ใครเข้าใจแอบใช้กลยุทธ์ของปรมาจารย์ทั้ง 3 ได้คล่องกว่า ก็ยังมีโอกาสชนะ แม้มวยจะเป็นรองตั้งหลายขุมก็ตาม ส่วนเรื่องที่ 2 สืบเนื่องมาจากเรื่อง ประชาชนห่วย รัฐบาลมันก็ห่วย ตั้งใจจะหาตัวอย่างที่เป็นจริงของไทยให้ และเปลี่ยนชื่อให้เห็นจริงเห็นจังว่า รัฐบาลจัญไร ย่อมเกิดเพราะประชาชนมันจัญไร คำว่ารัฐบาลที่นี่หมายถึงระบบปกครอง มิได้หมายความว่า รัฐบาลชิมไปบ่นไป รัฐบาลตู้เย็น หรือรัฐบาลงูจังโป
พอดีได้รับสัญญาณอันตรายมาจากต่างประเทศ จากมหาเกจิตลาดหุ้น ทำนายThe Next Massive Spike in Oil Prices น้ำมันโลกราคาจะพุ่งทยานสูงขี้น ด้วยความเป็นห่วงบ้านเมือง ผมจึงยิงเรื่องไปปรึกษาอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งผมซูฮกในความรู้เรื่องตลาดหุ้นและตลาดการเงินของท่านมาก มากกว่าใครๆ ในประเทศไทย บังเอิญท่านเป็นสัตวแพทย์ไม่เคยเข้าโรงเรียนเศรษฐศาสตร์ ไม่เคยทำงานแบงก์ชาติ หรือธนาคารพาณิชย์ คนโง่อวดฉลาดทั้งหลายในเมืองไทยจึงไม่ยอมฟังท่าน แต่ผมฟังคุณสุทธิพงษ์ ปรัชญพฤทธิ์ หรือ inexthai@gmail.com ซึ่งแท้ที่จริงก็คือ 1 ใน 4 ของเจ้าของคอลัมน์คิดถึงเมืองไทย ใน ASTVผู้จัดการ นี่เอง
คนนี้ถ้าตั้งได้ผมจะตั้งให้เป็นศาสตราจารย์มีเก้าอี้ในวิชาเศรษฐศาสตร์การคลัง คำว่า มีเก้าอี้แปลว่าเอาชื่อบุคคลสำคัญสูงส่งในวิชานั้นมาตั้งเป็นตำแหน่งศาสตราจารย์ คุณสุทธิพงษ์ก็ดีใจหาย รีบตอบมาทันทีว่าเราอย่ามัวไปบ้าเรื่องอื่นๆ อยู่เลย เรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องทุนนิยมกระดาษที่สูบเลือดสูบเนื้อ ครอบงำตลาดหุ้นอยู่ต่างหาก
คุณสุทธิพงษ์สอนมาว่าดังนี้ “ขออนุญาตวิจารณ์นะครับ เรื่องประเทศอเมริกามีแต่จะเดินหน้าเละลง 2 บทความนี้ เคยเขียนไว้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ผู้สนใจลอง google search ดูนะครับ “สองรูปแบบการโจมตีประเทศสหรัฐอเมริกา” “สหรัฐอเมริกาสมาชิกประเทศยากจนใหม่” แต่ผมก็ไม่เคยลดละที่จะนำเสนอในสิ่งผิดปกติของอเมริกาและของโลก ก็คิดแต่เรื่องทางทหาร น้ำมัน และบ่อน้ำมันกัน ผมเปรียบเทียบให้เห็น “สองรูปแบบการโจมตีประเทศสหรัฐอเมริกา”
1. การโจมตีตลาด Nasdaq ระหว่างปี 1999-2002 .. อเมริกาไม่รู้เรื่อง ..คนจะรู้เรื่องนี้ได้จะต้องมีข้อมูล ปี 2000 คือปีที่โลกทั้งโลกแพ้สงครามโลกครั้งที่ 3 (ตลาด Nasdaq และ Dollar พังทลาย) 2. การโจมตี WTC ในปี 2001 (11/9/2001) .. อเมริการู้ เพราะเห็นได้ด้วยตา..Nasdaq ระหว่างปี 1999-2002 .. http://yfrog.com/1354gp เกิดกลไกที่สามารถอธิบายอย่างเป็นระบบได้ ดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นสกุลเงินของโลก เมื่อดอลลาร์กระเทือน โลกก็กระเทือน
1) ทำให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐเสียหาย หรือมีค่าเล็กลง คนก็ไม่ถือเงินเหรียญสหรัฐ 2) ทำให้เงินไหลออกจากอเมริกาไปซื้อหุ้นทั่วโลก ทำให้ราคาหุ้นทั่วโลกสูงขึ้น ราคาหุ้นทั่วโลกเริ่มสูงขึ้น (ตั้งแต่ Nasdaq พังทลายในปี 2000) http://yfrog.com/0x21op และหุ้นโลกก็พังทลายลงในปี 2008 ถูกสวมรอยปั่นทั้งนั้น ไม่ว่าขึ้นหรือตก 3) ต้องใช้เงินเหรียญสหรัฐมากขึ้น ในการซื้อสินค้าและบริการที่ปริมาณเท่าเดิม..จึงทำให้เห็นว่าราคาสินค้าและบริการนั้นสูงขึ้น ราคาน้ำมันสูงขึ้น ราคาทองคำสูงขึ้น (ตั้งแต่ Nasdaq พังทลายในปี 2000) http://yfrog.com/04l6osp
ราคาน้ำมันสูงขึ้นก็คือเงินเฟ้อโลกสูงขึ้น เมื่อสิ่งผิดปกติในระบบเศรษฐกิจของโลกยังอยู่ ความเสื่อมก็จะเกิดกับโลกต่อไป (เริ่มต้นรุนแรงเมื่อปี 2000) สึนามิเกิดเฉพาะพื้นที่ เกิด 2-3 วันก็จบ น้ำท่วมประเทศ ท่วม 2-3 เดือนก็จบ หนี้ท่วมทั้งโลก ท่วมมาตั้งแต่ปี 2000 ไม่มีวันจบ ท่วมแล้วท่วมอีก ประเทศไทยเกิดหนี้กองโตมา 2 กองแล้ว (หนี้กองที่ 2 หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟู 1.392 ล้านล้านบาท) หนี้กองที่ 3 ก็จะเกิดขึ้น กองจะใหญ่กว่า 2 กองที่ผ่านมาอีก ก็จะเป็นแบบเดียวกันกับกรีซและอิตาลี โลกหุ้นขึ้นไปเชือด เมื่อหุ้นตกเงินบาทเสียหาย บอยคอตอิหร่านความตึงเครียดที่ช่องแคบเฮอร์มุซ จะมีปัญหากับราคาน้ำมัน ก็เป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันจะสูงขึ้น แต่ราคาน้ำมันสูงมาตั้งแต่ปี 2000 แล้ว (เพราะ Nasdaq และ Dollar พังทลาย) เรื่องเหล่านี้มันซ้อนกันอยู่
หากอเมริกายังวุ่นวายกับเรื่องชาวบ้าน ไม่ดูว่าระบบเศรษฐกิจของตนเองถูกโจมตีอย่างไร คนอเมริกันจะเดือดร้อนมากขึ้น เงินกำลังจะไหลออกจาก EURO กลับไปหา US$ ตลาดหุ้นอเมริกาสูงขึ้น เศรษฐกิจอเมริกาดีขึ้นก็เป็นอย่างนี้ ไหลไปไหลมา Hedge Fund มั่งคั่งมากขึ้นก็เป็นอย่างนี้ ไหลมาไหลไป Hedge Fund มั่งคั่งมากขึ้นชาวโลกเดือดร้อนอย่างเดียว ที่จริงคนซื้อกระดาษน้ำมัน (Futures) ร่ำรวยกว่าคนทำบ่อน้ำมัน ไม่เหนื่อยด้วย ประชุมที่ Davos เขาประชุมกันตั้งแต่ยังไม่มีหนี้ จนทุกวันนี้หนี้ท่วมโลก ก็ประชุมกันอยู่นั่นแหละ แล้วก็ออกมาแถลงข่าวกันแบ๊ะๆ ดักดานมาก..โลกเดือดร้อนมากขึ้น ด้วยความเคารพสุทธิพงษ์”
ปล. 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ พบว่าเงินไหลเข้าอาเซียนแรง จะทำให้เงินและหุ้นอาเซียนพุ่งขึ้น สงสัยอาจจะเตรียมไว้เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเมื่อใด ..พ่อก็ถล่มลงเมื่อนั้น.. เหมือนที่เกิดกับประชาคมยุโรป http://bit.ly/pBa4oZ
ผมอยากจะถามบรรดาแมงเม่าเมืองไทยทั้งหลายทั้งในและนอกตลาดหุ้น แต่ต้องเสียเงินซื้อน้ำมันรถแพงด้วยกันทั้งนั้นว่า
ท่านทราบบ้างไหมว่าาเวลาหุ้นขึ้นก็ดี น้ำมันขึ้นราคาก็ดี เงินของท่านไปตุงกระเป๋าใคร ถ้ามิใช่กลุ่มทุนนิยมสาธารณ์ซึ่งคุมทั้งตลาดหุ้น ทั้งเป็นหุ้นใหญ่โกงซื้อเวลาเขาเอา ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องนี้ควรขอให้สุทธิพงษ์เขียนให้ตาสว่างกันอีกที
พอดีได้รับสัญญาณอันตรายมาจากต่างประเทศ จากมหาเกจิตลาดหุ้น ทำนายThe Next Massive Spike in Oil Prices น้ำมันโลกราคาจะพุ่งทยานสูงขี้น ด้วยความเป็นห่วงบ้านเมือง ผมจึงยิงเรื่องไปปรึกษาอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งผมซูฮกในความรู้เรื่องตลาดหุ้นและตลาดการเงินของท่านมาก มากกว่าใครๆ ในประเทศไทย บังเอิญท่านเป็นสัตวแพทย์ไม่เคยเข้าโรงเรียนเศรษฐศาสตร์ ไม่เคยทำงานแบงก์ชาติ หรือธนาคารพาณิชย์ คนโง่อวดฉลาดทั้งหลายในเมืองไทยจึงไม่ยอมฟังท่าน แต่ผมฟังคุณสุทธิพงษ์ ปรัชญพฤทธิ์ หรือ inexthai@gmail.com ซึ่งแท้ที่จริงก็คือ 1 ใน 4 ของเจ้าของคอลัมน์คิดถึงเมืองไทย ใน ASTVผู้จัดการ นี่เอง
คนนี้ถ้าตั้งได้ผมจะตั้งให้เป็นศาสตราจารย์มีเก้าอี้ในวิชาเศรษฐศาสตร์การคลัง คำว่า มีเก้าอี้แปลว่าเอาชื่อบุคคลสำคัญสูงส่งในวิชานั้นมาตั้งเป็นตำแหน่งศาสตราจารย์ คุณสุทธิพงษ์ก็ดีใจหาย รีบตอบมาทันทีว่าเราอย่ามัวไปบ้าเรื่องอื่นๆ อยู่เลย เรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องทุนนิยมกระดาษที่สูบเลือดสูบเนื้อ ครอบงำตลาดหุ้นอยู่ต่างหาก
คุณสุทธิพงษ์สอนมาว่าดังนี้ “ขออนุญาตวิจารณ์นะครับ เรื่องประเทศอเมริกามีแต่จะเดินหน้าเละลง 2 บทความนี้ เคยเขียนไว้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ผู้สนใจลอง google search ดูนะครับ “สองรูปแบบการโจมตีประเทศสหรัฐอเมริกา” “สหรัฐอเมริกาสมาชิกประเทศยากจนใหม่” แต่ผมก็ไม่เคยลดละที่จะนำเสนอในสิ่งผิดปกติของอเมริกาและของโลก ก็คิดแต่เรื่องทางทหาร น้ำมัน และบ่อน้ำมันกัน ผมเปรียบเทียบให้เห็น “สองรูปแบบการโจมตีประเทศสหรัฐอเมริกา”
1. การโจมตีตลาด Nasdaq ระหว่างปี 1999-2002 .. อเมริกาไม่รู้เรื่อง ..คนจะรู้เรื่องนี้ได้จะต้องมีข้อมูล ปี 2000 คือปีที่โลกทั้งโลกแพ้สงครามโลกครั้งที่ 3 (ตลาด Nasdaq และ Dollar พังทลาย) 2. การโจมตี WTC ในปี 2001 (11/9/2001) .. อเมริการู้ เพราะเห็นได้ด้วยตา..Nasdaq ระหว่างปี 1999-2002 .. http://yfrog.com/1354gp เกิดกลไกที่สามารถอธิบายอย่างเป็นระบบได้ ดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นสกุลเงินของโลก เมื่อดอลลาร์กระเทือน โลกก็กระเทือน
1) ทำให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐเสียหาย หรือมีค่าเล็กลง คนก็ไม่ถือเงินเหรียญสหรัฐ 2) ทำให้เงินไหลออกจากอเมริกาไปซื้อหุ้นทั่วโลก ทำให้ราคาหุ้นทั่วโลกสูงขึ้น ราคาหุ้นทั่วโลกเริ่มสูงขึ้น (ตั้งแต่ Nasdaq พังทลายในปี 2000) http://yfrog.com/0x21op และหุ้นโลกก็พังทลายลงในปี 2008 ถูกสวมรอยปั่นทั้งนั้น ไม่ว่าขึ้นหรือตก 3) ต้องใช้เงินเหรียญสหรัฐมากขึ้น ในการซื้อสินค้าและบริการที่ปริมาณเท่าเดิม..จึงทำให้เห็นว่าราคาสินค้าและบริการนั้นสูงขึ้น ราคาน้ำมันสูงขึ้น ราคาทองคำสูงขึ้น (ตั้งแต่ Nasdaq พังทลายในปี 2000) http://yfrog.com/04l6osp
ราคาน้ำมันสูงขึ้นก็คือเงินเฟ้อโลกสูงขึ้น เมื่อสิ่งผิดปกติในระบบเศรษฐกิจของโลกยังอยู่ ความเสื่อมก็จะเกิดกับโลกต่อไป (เริ่มต้นรุนแรงเมื่อปี 2000) สึนามิเกิดเฉพาะพื้นที่ เกิด 2-3 วันก็จบ น้ำท่วมประเทศ ท่วม 2-3 เดือนก็จบ หนี้ท่วมทั้งโลก ท่วมมาตั้งแต่ปี 2000 ไม่มีวันจบ ท่วมแล้วท่วมอีก ประเทศไทยเกิดหนี้กองโตมา 2 กองแล้ว (หนี้กองที่ 2 หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟู 1.392 ล้านล้านบาท) หนี้กองที่ 3 ก็จะเกิดขึ้น กองจะใหญ่กว่า 2 กองที่ผ่านมาอีก ก็จะเป็นแบบเดียวกันกับกรีซและอิตาลี โลกหุ้นขึ้นไปเชือด เมื่อหุ้นตกเงินบาทเสียหาย บอยคอตอิหร่านความตึงเครียดที่ช่องแคบเฮอร์มุซ จะมีปัญหากับราคาน้ำมัน ก็เป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันจะสูงขึ้น แต่ราคาน้ำมันสูงมาตั้งแต่ปี 2000 แล้ว (เพราะ Nasdaq และ Dollar พังทลาย) เรื่องเหล่านี้มันซ้อนกันอยู่
หากอเมริกายังวุ่นวายกับเรื่องชาวบ้าน ไม่ดูว่าระบบเศรษฐกิจของตนเองถูกโจมตีอย่างไร คนอเมริกันจะเดือดร้อนมากขึ้น เงินกำลังจะไหลออกจาก EURO กลับไปหา US$ ตลาดหุ้นอเมริกาสูงขึ้น เศรษฐกิจอเมริกาดีขึ้นก็เป็นอย่างนี้ ไหลไปไหลมา Hedge Fund มั่งคั่งมากขึ้นก็เป็นอย่างนี้ ไหลมาไหลไป Hedge Fund มั่งคั่งมากขึ้นชาวโลกเดือดร้อนอย่างเดียว ที่จริงคนซื้อกระดาษน้ำมัน (Futures) ร่ำรวยกว่าคนทำบ่อน้ำมัน ไม่เหนื่อยด้วย ประชุมที่ Davos เขาประชุมกันตั้งแต่ยังไม่มีหนี้ จนทุกวันนี้หนี้ท่วมโลก ก็ประชุมกันอยู่นั่นแหละ แล้วก็ออกมาแถลงข่าวกันแบ๊ะๆ ดักดานมาก..โลกเดือดร้อนมากขึ้น ด้วยความเคารพสุทธิพงษ์”
ปล. 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ พบว่าเงินไหลเข้าอาเซียนแรง จะทำให้เงินและหุ้นอาเซียนพุ่งขึ้น สงสัยอาจจะเตรียมไว้เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเมื่อใด ..พ่อก็ถล่มลงเมื่อนั้น.. เหมือนที่เกิดกับประชาคมยุโรป http://bit.ly/pBa4oZ
ผมอยากจะถามบรรดาแมงเม่าเมืองไทยทั้งหลายทั้งในและนอกตลาดหุ้น แต่ต้องเสียเงินซื้อน้ำมันรถแพงด้วยกันทั้งนั้นว่า
ท่านทราบบ้างไหมว่าาเวลาหุ้นขึ้นก็ดี น้ำมันขึ้นราคาก็ดี เงินของท่านไปตุงกระเป๋าใคร ถ้ามิใช่กลุ่มทุนนิยมสาธารณ์ซึ่งคุมทั้งตลาดหุ้น ทั้งเป็นหุ้นใหญ่โกงซื้อเวลาเขาเอา ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องนี้ควรขอให้สุทธิพงษ์เขียนให้ตาสว่างกันอีกที
