xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณ ชินวัตร วรเจตน์ ภาคีรัตน์ กับความแตกแยกในธรรมศาสตร์

เผยแพร่:   โดย: สุทธิพงษ์ ปรัชญพฤทธิ์

สุทธิพงษ์ ปรัชญพฤทธิ์
http://twitter.com/indexthai2
indexthai2@gmail.com

คนไทยแตกแยกกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คนในครอบครัวแตกแยก ญาติพี่น้องแตกแยก คนในแต่ละจังหวัดแตกแยก พระในวัดแตกแยก คนในสถาบันการศึกษาแตกแยก แตกแยกกันทั้งประเทศ ธรรมศาสตร์ที่เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งหนึ่งที่เพาะบ่มศาสตร์ศิลป์แทบทุกสาขาแก่คนของชาติ ก็แตกแยกทางความคิดที่รุนแรงอย่างที่ไม่น่าจะเป็น คณาจารย์แตกแยก นักศึกษาแตกแยก เกิดขั้วนิติราษฎร์และขั้วสยามประชาภิวัฒน์ อะไรที่ทำให้เกิดความเห็นที่แตกต่างรุนแรงเช่นนี้

เรื่องต่างๆ ไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่มีต้นเหตุจากกิเลสของคน

ใครครองสื่อคนนั้นครองโลก ใครมีเงินคนนั้นใช้ผีโม่แป้งได้ ทักษิณมีครบถ้วน มีวาจา (สื่อ) มีเงิน มีอำนาจ ที่ใช้ไปเพื่อผลประโยชน์ตน โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความเสียหายและความเดือดร้อนต่อประเทศชาติประชาชนอย่างไร เป็นมิจฉาทิฐิ

รายการนายกฯ พบประชาชนทุกเช้าวันเสาร์ เป็นรูปแบบหาเสียงแบบฝันเฟื่อง พูดถึงความมั่งคั่งของประเทศและคนในชาติ มีแต่วาจา แต่การกระทำเป็นคนละเรื่อง ปัญหาของประเทศไม่ได้รับการแก้ไข สินทรัพย์ของประเทศตกเป็นของต่างชาติมากขึ้น มีการแก้กฎหมายให้ต่างชาติเพิ่มการถือครองธุรกิจโทรคมนาคม แล้วก็ขายทรัพย์สินของตนคือชินคอร์ป ซึ่งเป็นทรัพย์สินของชาติด้วย ให้เทมาเส็กแห่งสิงคโปร์ ทำให้สมบัติของประเทศตกเป็นของต่างชาติ เขามั่งคั่งคนเดียว มีทรัพย์กว่า 4 แสนล้านบาท http://bit.ly/xdHzmf มีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวhttp://yfrog.com/z/jjvatcjเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีก็มีเครื่องบินประจำตำแหน่ง http://yfrog.com/z/0sg9imp เกินความจำเป็น ประเทศชาติประชาชนไม่ได้มั่งคั่งขึ้นแต่อย่างใด แต่ยากจนลง เงินเฟ้อสูงขึ้น

เขาเป็นคนที่ชอบใช้วาจามาก แต่มันเป็นมิจฉาวาจา แม้จะหลบหนีคดีอาญาอยู่ต่างประเทศ เขาก็ไม่ละเลยที่จะโฟนอินหรือโฟนลิงก์มาในรูปแบบ “ปลุกระดมและชวนเชื่อคนในชาติ” เขาเฝ้าพร่ำพูดถึงความห่วงใยคนไทย ห่วงใยเด็กไทย ห่วงใยประเทศชาติ และย้ำบอกว่าใครและฝ่ายไหนบ้างที่ทำความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ เขาเบี่ยงเบนเรื่องที่เขาฉ้อฉลที่ทำไว้กับประเทศชาติ ทำให้เห็นว่าเขาเป็นผู้นำที่ดี ที่เก่ง ที่ฉลาด ที่ประเทศไทยเคยมีมาก่อน

เขาไม่เพียงจะรักห่วงใยและหวังดีแต่เด็กไทยเท่านั้น แต่เขารัก ห่วงใยและหวังดีต่อ “เด็กยูกันดา” ด้วย เขายังวิดีโอลิงก์เรื่องดังกล่าวมาเล่าบอกคนไทยด้วยความภาคภูมิใจ แต่คนไทยจะแยกออกหรือไม่ การอ้างว่ารักเด็ก มีอบายมุขซ่อนอยู่เบื้องหลัง กลับชื่นชมเขามากขึ้น http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000028649

วลีของทักษิณ “ปฏิวัติ-รัฐประหารทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ประเทศไทยถอยหลังไปหลายสิบปี” ทำให้แกนนำเสื้อแดงนำไปปลุกระดมต่ออย่างได้ผล ดิสเครดิตทหาร นำมาล้มปืน “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” เป็นการดิสเครดิตสถาบัน ทำให้คนรู้สึกไม่ดีต่อสถาบัน นำมาล้มเจ้า

เป็นเรื่องยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจและตามทันการนำเสนอของทักษิณ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ จะมีใครเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจที่ทักษิณนำเสนอก็ได้ แต่เชื่ออย่างเดียว วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ก็ไม่ได้มีอะไรต่างจากคนทั่วไป เพียงแต่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเท่านั้น ก็หลงใหลในทักษิณเหมือนคนทั่วไป

กว่า 10 ปีที่เขาใช้มิจฉาวาจากับคนไทย ผู้คนหลงใหลเขา เขาได้มวลชนเพิ่มมากขึ้น พรรคการเมืองของเขาชนะเลือกตั้งถล่มทลายทุกครั้ง คะแนนเสียงเลือกตั้งที่ได้ เกิดจากวาจาและทรัพย์ของทักษิณคนเดียว

“ปริญญาบัตรทางโลก” เป็นเรื่องที่โลกอุปโลกน์ขึ้น ไม่พาไปสู่วิมุตติ “ปัญญาบัตรทางธรรม” พาสู่มิมุตติ หากปริญญาบัตรทางโลกดี โลกคงไม่เดือดร้อนวุ่นวายเช่นนี้ กฎหมายที่นอกจากนายวรเจตน์และคนอื่นพยายามที่จะแก้ไข แก้แล้วแก้อีก ก็ให้สิ่งดีแก่สังคมไม่ได้ ‘กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์’ บิดาแห่งกฎหมายไทยกล่าวว่า กฎหมายนั้นอาจชั่วและไม่ยุติธรรมได้ : http://bit.ly/tDoQfZ

มีเรื่องมากมายที่ไม่เป็นธรรมและเป็นอันตรายมากต่อคนไทย 65 ล้านคน เช่น อบายมุขท่วมประเทศ คอร์รัปชันเต็มประเทศ การขายสมบัติชาติ การเสียอธิปไตยเหนือดินแดนไทย งบประมาณขาดดุลทุกปี หนี้สาธารณะเพิ่มตลอดเวลา หนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูที่เกิดจากการล้มละลายของประเทศ ที่วรเจตน์ ภาคีรัตน์ไม่มีความรู้ ก็ไม่ใช่ความผิดของวรเจตน์ ก็ไม่หวังที่จะให้วรเจตน์มาต่อสู้กับเรื่องเหล่านี้ได้

ผมไม่ตำหนิวรเจตน์ การแตกแยกและไม่เข้าใจกันของคนในชาติ เป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก เกิดจากกิเลสและเสนียดจัญไรของคนคนเดียว คนไทยลืมง่าย และไม่รู้ถึงสัมพันธ์ระหว่างปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย เรื่อง “ทักษิณ ชินวัตร วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ความแตกแยกในธรรมศาสตร์” เป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์ต่อกัน หรือเป็นเรื่องเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น