ASTV ผู้จัดการายวัน - “เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ” ประกาศแผนธุรกิจผงาดรับปีมังกร มองหาเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ ต่อยอดลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ชี้อุตสาหกรรมถ่านหินยังมีแนวโน้มสดใส แถมราคามีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสัญญาณการเติบโตจากจีนและอินเดีย “ขจรพงศ์” ตั้งเป้ายอดขายถ่านหินปีนี้ไว้ที่ 3.2 ล้านตันต่อปี หรือเติบโตประมาณ 100% จากปี54
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่าจากแนวโน้มอุตสาหกรรมถ่านหินในปี 2555 ที่คาดว่าจะมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะถ่านหิน เป็นพลังงานทดแทนน้ำมันเตาและแก็ส LPG,NGV ที่ราคามีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งอาจยังมีปัญหาความกังวลเรื่องความปลอดภัยจากเหตุการณ์ซึนามิในประเทศญี่ปุ่น จึงถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาขายถ่านหินซึ่งมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งแนวโน้มของดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นจากการนำเข้าถ่านหินเพื่อทดแทนกำลังการผลิตจากประเทศจีนและอินเดีย จึงส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ EARTH โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้าปริมาณการจำหน่ายถ่านหินไว้ที่ 3.2 ล้านตันต่อปี คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 100% จากปี 2554 ที่ผ่านมา ส่วนรายได้ก็คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกัน
“ความต้องการถ่านหินได้เพิ่มปริมาณมากขึ้นทุกปี ขณะเดียวกันราคาขายมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันปริมาณถ่านหินที่ออกสู่ตลาดยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เข้ามาโดยเฉพาะในประเทศจีนและประเทศอินเดียที่มีการบริโภคถ่านหินเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งคุณสมบัติถ่านหินจากเหมืองของบริษัทตรงกับความต้องการพลังงานซึ่งใช้สำหรับโรงไฟฟ้าในประเทศจีนและอินเดีย ทำให้คาดว่าในปีมังกรทองนี้จะมีความต้องการเข้ามาอย่างมาก พร้อมกันคาดการณ์ว่าราคาขายถ่านหินจะปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับราคาประมาณ 65-70 เหรียญต่อตัน”
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ EARTH ยังคงมุ่งเน้นขุดเจาะถ่านหินในเหมืองของบริษัทที่ประเทศอินโดนีเซีย และจัดส่งลูกค้าให้ได้ตามเป้าหมายที่รับคำสั่งซื้อมาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็เตรียมข้อมูลและทีมงานในการหาเหมืองถ่านหินแห่งใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับคำสั่งซื้อลูกค้าจากประเทศอินเดีย และขยายฐานจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากการที่ EARTH มีเหมืองถ่านหินเป็นของบริษัทเอง นับเป็นโอกาสสูงในการเพิ่มกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ ซึ่งในเบื้องต้นมีลูกค้าประเภทโรงไฟฟ้าในประเทศจีนรายใหญ่ 5 อันดับแรก เข้ามาเป็นลูกค้าของบริษัทแล้ว 3 ราย ส่วนอีก 2 รายที่เหลือได้ติดต่อขอเจรจาเงื่อนไขต่างๆ แล้ว
ส่วนสภาวะการแข่งขันในปี 2555 ภาพรวมยังต่อเนื่องมาจากตลาดยังเป็นของผู้ขาย และถ่านหินยังเป็นพลังงานสะอาดที่มีต้นทุนต่ำ ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมหลายรายมีโครงการลดต้นทุนโดยเปลี่ยนเชื้อเพลิงเหลวมาเป็นถ่านหินบิทูมินัส
ขณะเดียวกันเพื่อการบริหารงานอย่างมีคุณภาพ EARTH จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาบุคลากรและการทำงานเป็นทีม บริหารความคาดหวังและความพึงพอใจของลูกค้า ลงลึกในรายละเอียดด้านการบริหารจัดการงานด้านต่างๆ เพราะหัวใจของธุรกิจจำหน่ายถ่านหิน คือ มีซัพพลายที่แน่นอนและต่อเนื่อง นั้นคือมีเหมืองเป็นของตัวเอง ดังนั้น การคุมระบบทำงานให้รัดกุมทุกขั้นตอน และบริหารต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้ EARTH ก้าวสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายถ่านหินอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำในอันดับต้นๆ ได้
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่าจากแนวโน้มอุตสาหกรรมถ่านหินในปี 2555 ที่คาดว่าจะมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะถ่านหิน เป็นพลังงานทดแทนน้ำมันเตาและแก็ส LPG,NGV ที่ราคามีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งอาจยังมีปัญหาความกังวลเรื่องความปลอดภัยจากเหตุการณ์ซึนามิในประเทศญี่ปุ่น จึงถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาขายถ่านหินซึ่งมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งแนวโน้มของดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นจากการนำเข้าถ่านหินเพื่อทดแทนกำลังการผลิตจากประเทศจีนและอินเดีย จึงส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ EARTH โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้าปริมาณการจำหน่ายถ่านหินไว้ที่ 3.2 ล้านตันต่อปี คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 100% จากปี 2554 ที่ผ่านมา ส่วนรายได้ก็คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกัน
“ความต้องการถ่านหินได้เพิ่มปริมาณมากขึ้นทุกปี ขณะเดียวกันราคาขายมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันปริมาณถ่านหินที่ออกสู่ตลาดยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เข้ามาโดยเฉพาะในประเทศจีนและประเทศอินเดียที่มีการบริโภคถ่านหินเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งคุณสมบัติถ่านหินจากเหมืองของบริษัทตรงกับความต้องการพลังงานซึ่งใช้สำหรับโรงไฟฟ้าในประเทศจีนและอินเดีย ทำให้คาดว่าในปีมังกรทองนี้จะมีความต้องการเข้ามาอย่างมาก พร้อมกันคาดการณ์ว่าราคาขายถ่านหินจะปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับราคาประมาณ 65-70 เหรียญต่อตัน”
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ EARTH ยังคงมุ่งเน้นขุดเจาะถ่านหินในเหมืองของบริษัทที่ประเทศอินโดนีเซีย และจัดส่งลูกค้าให้ได้ตามเป้าหมายที่รับคำสั่งซื้อมาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็เตรียมข้อมูลและทีมงานในการหาเหมืองถ่านหินแห่งใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับคำสั่งซื้อลูกค้าจากประเทศอินเดีย และขยายฐานจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากการที่ EARTH มีเหมืองถ่านหินเป็นของบริษัทเอง นับเป็นโอกาสสูงในการเพิ่มกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ ซึ่งในเบื้องต้นมีลูกค้าประเภทโรงไฟฟ้าในประเทศจีนรายใหญ่ 5 อันดับแรก เข้ามาเป็นลูกค้าของบริษัทแล้ว 3 ราย ส่วนอีก 2 รายที่เหลือได้ติดต่อขอเจรจาเงื่อนไขต่างๆ แล้ว
ส่วนสภาวะการแข่งขันในปี 2555 ภาพรวมยังต่อเนื่องมาจากตลาดยังเป็นของผู้ขาย และถ่านหินยังเป็นพลังงานสะอาดที่มีต้นทุนต่ำ ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมหลายรายมีโครงการลดต้นทุนโดยเปลี่ยนเชื้อเพลิงเหลวมาเป็นถ่านหินบิทูมินัส
ขณะเดียวกันเพื่อการบริหารงานอย่างมีคุณภาพ EARTH จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาบุคลากรและการทำงานเป็นทีม บริหารความคาดหวังและความพึงพอใจของลูกค้า ลงลึกในรายละเอียดด้านการบริหารจัดการงานด้านต่างๆ เพราะหัวใจของธุรกิจจำหน่ายถ่านหิน คือ มีซัพพลายที่แน่นอนและต่อเนื่อง นั้นคือมีเหมืองเป็นของตัวเอง ดังนั้น การคุมระบบทำงานให้รัดกุมทุกขั้นตอน และบริหารต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้ EARTH ก้าวสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายถ่านหินอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำในอันดับต้นๆ ได้