เมื่อเวลา12.30 น. วานนี้(1 ก.พ.55)ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับเงินเดือนข้าราชการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า การเพิ่มรายได้เป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลควรทำ ขณะที่รัฐบาลในอดีตตอนที่มีปัญหาค่าครองชีพสูง ก็จะเพิ่มเงินค่าครองชีพ แต่ตอนพรรคเพื่อไทยหาเสียงได้ บอกว่าจะขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ทำให้เข้าใจว่าหมายถึง “เงินเดือน” และเป็นการกำหนดบรรทัดฐานในการขึ้นเงินเดือนภาคเอกชนด้วย แต่เมื่อทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( กพ.) เสนอให้มีการปรับฐานเงินเดือนเพื่อให้วุฒิปริญญาตรีได้เงินเดือน 15,000 บาท ในการประชุม ครม. ยังไม่อนุมัติ เพียงแต่เพิ่มเงินค่าครองชีพขึ้น
“จริงอยู่ที่เงินช่วยเหลือ หรือเงินเพิ่มนั้นก็จะทำให้มีเงินกลับบ้านไป 15,000 แต่ฐานเงินเดือนยังไม่ขึ้น ซึ่งก็จะไม่ค่อยตรง และแน่นอนในส่วนภาคเอกชนก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นอกจากนั้นผมยังต้องไปดูว่า กรณีต่ำ กว่าปริญญาตรีเขาได้เงินเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แต่ในการประชุมครม.เงาจะเข้าไปดูรายละเอียดกรณีนี้ด้วยและผมยังเป็นห่วงว่าจะทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก โดยเฉพาะกรณีการขึ้นค่าแรงที่รัฐบาลประกาศจะขึ้นในเดือนเมษายนนี้ เพราะการขึ้นค่าแรงมีเงื่อนไขว่า เมื่อขึ้นค่าแรงถึง 300บาทแล้ว จะไม่มีการขึ้นค่าแรงไปอีก 2 ปี ดังนั้นจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนที่เพิ่งเข้าทำงานกับคนที่ทำงานมานานพอสมควรแต่ค่าจ้างอยู่ที่300 บาท หรือ 15,000 บาทแล้วทำให้อาจไม่ได้ขยับขึ้นได้
เมื่อถามว่า มีประกาศของกระทรวงพาณิชย์ในการควบคุมราคาข้าวแกงไม่ให้มีราคาเกิน 25 บาทใน 10 เมนูนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะขณะนี้ปัญหาค่าครองชีพเป็นปัญหาใหญ่ โดยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รมว.พาณิชย์เงา ได้นำผลสำรวจเรื่องค่าครองชีพ มาหารือ
“ผมดูเรื่องนี้ด้วยความสนใจที่ว่าจะมีการประกาศควบคุมให้ลงมาเหลือ 25 บาท ซึ่งต้องไปดูว่าต้นทุนเป็นอย่างไร และในทางปฏิบัตินั้น คนขายจะทำอย่างไร ก็อาจจะ 25 บาท แต่ได้อาหารลดลงครึ่งหนึ่งก็เป็นไปได้ คงต้องไปฟังจากบรรดาพ่อค้าแม่ขายเหมือนกันว่า เขาอยู่ได้หรือไม่ รัฐบาลต้องย้อนกลับไปคุมเรื่องต้นทุนให้ได้ด้วย เช่น ต้นทุนตัวหนึ่งที่มีการเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลในขณะนี้ คือ แก๊สหุงต้ม เนื่องจากรัฐบาลระบุว่า จะตรึงไปอีกแค่ 1 ปี ซึ่งถ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็จะยิ่งเป็นปัญหาซ้ำเติมเข้าไปอีก ส่วนแก๊สในการขนส่งก็กำลังทยอยขึ้นอยู่แล้ว น้ำมันก็แพงขึ้น จะทำอย่างไร ”นายอภิสิทธิ์กล่าว
ก่อนหน้านั้นกรมการค้าภายใน เตรียมเสนอการกำหนดราคาแนะนำอาหารจานด่วนทั่วประเทศให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เบื้องต้นมีราคาแนะนำ 10 เมนู เช่น ข้าวกระเพราหมู ข้าวกระเพราไก่ ข้าวราดไข่พะโล้ ในราคาไม่เกิน 25 บาทต่อจาน ส่วนข้าวราดไข่เจียวกำหนดจำหน่ายไม่เกิน 15 บาทต่อจาน
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษกรัฐมนตรีเงา ของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเงา เกี่ยวกับการปรับรายได้ข้าราชการ ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี 15,000 บาท ของรัฐบาลที่ถูกกว่า ผู้จบจากสายอาชีวะที่ได้รับเพียง 9,000 บาท โดยส่วนต่างมีเพียง 6,000 บาท จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาเงินส่วนต่างดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะส่งผลให้นักเรียนที่ศึกษาหันไปเรียนปริญญาตรีอย่างเดียว และทำให้ขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ด้านทักษะฝีมือ
“จริงอยู่ที่เงินช่วยเหลือ หรือเงินเพิ่มนั้นก็จะทำให้มีเงินกลับบ้านไป 15,000 แต่ฐานเงินเดือนยังไม่ขึ้น ซึ่งก็จะไม่ค่อยตรง และแน่นอนในส่วนภาคเอกชนก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นอกจากนั้นผมยังต้องไปดูว่า กรณีต่ำ กว่าปริญญาตรีเขาได้เงินเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แต่ในการประชุมครม.เงาจะเข้าไปดูรายละเอียดกรณีนี้ด้วยและผมยังเป็นห่วงว่าจะทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก โดยเฉพาะกรณีการขึ้นค่าแรงที่รัฐบาลประกาศจะขึ้นในเดือนเมษายนนี้ เพราะการขึ้นค่าแรงมีเงื่อนไขว่า เมื่อขึ้นค่าแรงถึง 300บาทแล้ว จะไม่มีการขึ้นค่าแรงไปอีก 2 ปี ดังนั้นจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนที่เพิ่งเข้าทำงานกับคนที่ทำงานมานานพอสมควรแต่ค่าจ้างอยู่ที่300 บาท หรือ 15,000 บาทแล้วทำให้อาจไม่ได้ขยับขึ้นได้
เมื่อถามว่า มีประกาศของกระทรวงพาณิชย์ในการควบคุมราคาข้าวแกงไม่ให้มีราคาเกิน 25 บาทใน 10 เมนูนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะขณะนี้ปัญหาค่าครองชีพเป็นปัญหาใหญ่ โดยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รมว.พาณิชย์เงา ได้นำผลสำรวจเรื่องค่าครองชีพ มาหารือ
“ผมดูเรื่องนี้ด้วยความสนใจที่ว่าจะมีการประกาศควบคุมให้ลงมาเหลือ 25 บาท ซึ่งต้องไปดูว่าต้นทุนเป็นอย่างไร และในทางปฏิบัตินั้น คนขายจะทำอย่างไร ก็อาจจะ 25 บาท แต่ได้อาหารลดลงครึ่งหนึ่งก็เป็นไปได้ คงต้องไปฟังจากบรรดาพ่อค้าแม่ขายเหมือนกันว่า เขาอยู่ได้หรือไม่ รัฐบาลต้องย้อนกลับไปคุมเรื่องต้นทุนให้ได้ด้วย เช่น ต้นทุนตัวหนึ่งที่มีการเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลในขณะนี้ คือ แก๊สหุงต้ม เนื่องจากรัฐบาลระบุว่า จะตรึงไปอีกแค่ 1 ปี ซึ่งถ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็จะยิ่งเป็นปัญหาซ้ำเติมเข้าไปอีก ส่วนแก๊สในการขนส่งก็กำลังทยอยขึ้นอยู่แล้ว น้ำมันก็แพงขึ้น จะทำอย่างไร ”นายอภิสิทธิ์กล่าว
ก่อนหน้านั้นกรมการค้าภายใน เตรียมเสนอการกำหนดราคาแนะนำอาหารจานด่วนทั่วประเทศให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เบื้องต้นมีราคาแนะนำ 10 เมนู เช่น ข้าวกระเพราหมู ข้าวกระเพราไก่ ข้าวราดไข่พะโล้ ในราคาไม่เกิน 25 บาทต่อจาน ส่วนข้าวราดไข่เจียวกำหนดจำหน่ายไม่เกิน 15 บาทต่อจาน
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษกรัฐมนตรีเงา ของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเงา เกี่ยวกับการปรับรายได้ข้าราชการ ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี 15,000 บาท ของรัฐบาลที่ถูกกว่า ผู้จบจากสายอาชีวะที่ได้รับเพียง 9,000 บาท โดยส่วนต่างมีเพียง 6,000 บาท จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาเงินส่วนต่างดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะส่งผลให้นักเรียนที่ศึกษาหันไปเรียนปริญญาตรีอย่างเดียว และทำให้ขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ด้านทักษะฝีมือ