xs
xsm
sm
md
lg

อิงวิจัยค้านเลิกใช้แร่ใยหิน กระทบศก.-ค่าใช้จ่ายสูง4.6แสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ค้านยกเลิกใช้แร่ใยหินเป็นส่วนประกอบการผลิตกระเบื้อง หลังผลวิจัยระบุชัดผลกระทบเป็นวงกว้าง หากเลิกใช้สารไครโซไทล์ ผู้บริโภคอ่วม!ค่าใช้จ่ายรวมทั่วประเทศ 4.64 แสนล้าน ชงรัฐฯตั้งคณะทำงานศึกษาผลได้-เสีย ก่อนยกเลิก ด้าน DRT ระบุยังไม่ถูกกระทบ เหตุไม่ได้เปลี่ยนไลน์ผลิต เพราะต้นทุนผลิตสูง แต่คุณภาพใช้งานต่ำ แจงหากรัฐเลิกจริง พร้อมเปลี่ยนไลน์ผลิต

นางสาวอิงเหว่ย ฮวง หัวหน้าภาค Business Economics School of Management มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่า ได้จัดทำงานวิจัย ผลกระทบทางสังคม และเศรษฐกิจ กรณีการยกเลิกการใช้สารไครโซไทล์ (หรือแร่ใยหิน)เป็นส่วนผสมในการผลิตกระเบื้องมุงหลังคา และส่วนประกอบวัสดุก่อสร้างในที่อยู่อาศัย สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้พิจารณาเรื่องการนำเข้าและใช้สารไครโซไทล์ ในวันที่ 12 เมษายน 2554 และได้มีมติเห็นชอบในหลักการข้อเสนอของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช. 2554) ในการยกเลิกการใช้สินค้าที่มีสารไครโซไทล์

จากการศึกษาพบว่าผลิตภัณฑ์กระเบื้องมุงหลังคาที่ไม่มีส่วนผสมของสารไครโซไทล์หรือกระเบื้องปลอดใยหินไครโซไทล์ มีคุณภาพและความคงทนต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารไครโซไทล์ และยังมีอายุการใช้งานที่ 2-8ปี ซึ่งสั้นกว่ากระเบื้องที่มีส่วนผสมของสารไครโซไทล์ซึ่งมีอายุใช้งานกว่า20 ปี ทำให้ผลิตภัณฑ์ทดแทนอาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นกว่า 10 เท่า

นอกจากนี้ ยังพบว่าการยกเลิกการนำเข้าสารไครโซไทล์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ยังก่อให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม คนงาน และผู้บริโภค โดยผลการศึกษาพบว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4.64 แสนล้านบาท รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับครัวเรือน อุตสาหกรรมฟาร์มเลี้ยงสุกร กลุ่มโรงเรียน และ กลุ่มโรงพยาบาล

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ จึงเสนอให้รัฐบาล จัดตั้งคณะทำงานในการศึกษาผลได้ผลเสีย ทั้งในด้านคุณภาพการใช้งาน และการผลกระทบต่อสุขภาพผู้ใช้ให้ชัดเจน ก่อนประกาศยกเลิกการใช้สารไครโซไทล์ 3 ข้อ คือ 1.ควรศึกษาผลกระทบเชิงเศรษฐกิจจากการยกเลิก 2. ผู้รับภาระจากการยกเลิกเป็นใคร รัฐบาลได้เข้ามาช่วยเหลืออย่างไร และ3. มีความจำเป็นต้องยกเลิกหรือไม่ในเมือไม่มีผลการวิจัยที่ชี้ชัดว่าสารไครโซไทล์เป็นสาเหตุสำคัญในการก่อสร้างเกิดโรคมะเร็งในปอด

“สำหรับค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนและติดตั้งกระเบื้องปลอดใยหินแตกต่างกันตามความคงทนและอายุการใช้งาน ตัวเลขอายุการใช้งานมีค่าระหว่าง 2 – 8 ปี โดยตัวเลขดังกล่าวได้จากการสัมภาษณ์ ในการรื้อถอนและติดตั้งกระเบื้องมุงหลังคาพื้นที่ 1.4 พันล้านตารางเมตรในเวลา 15ปี ค่าใช้จ่าย ทั้งหมดคิดเป็นมูลค่าถึง 2.741 ล้านล้านบาท ในกรณีที่กระเบื้องปลอดใยหินมีอายุการใช้งานแค่ 2 ปีและในกรณีที่กระเบื้องปลอดใยหินมีอายุการใช้งาน 8 ปี ค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะอยู่ที่ 685 พันล้านบาท”

ด้านนายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า ปัจจุบันรายได้ของบริษัทมาจาก2ส่วนคือกลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้องหลังคา 60% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ วัสดุสังเคาะห์ทดแทนไม้40% คาดว่าในช่วง1-2ปีจากนี้สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะขยับมามีสัดส่วนเท่ากันคือ 50%ทั้ง2กลุ่ม โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 3,000 ล้านบาทเศษ ส่วนปี2555นี้ ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เติบโตจากปีก่อนหน้า10% เนื่องจากมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นจากไลน์การผลิตที่ NT 10 ซึ่งเริ่มเดินไลน์การผลิตในปีที่แล้ว

" มติของครม.ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯคิดว่ายังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่มีผลบังคับใช้ ทำให้ยังคงใช้ไลน์การผลิตเดิม แต่หากต้องปรับเปลี่ยน จะมีผลถึงต้นทุน ต่อไลน์ประมาณ 50 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีต้นทุนสูงตามไปด้วย คุณภาพการใช้งานก็ต่ำกว่ากระเบื้องที่มีส่วนผสมของสารไครโซไทล์ด้วยซ้ำ"
กำลังโหลดความคิดเห็น