xs
xsm
sm
md
lg

ซีเอ็มจัดทัพรับเออีซี อีเวนต์รายย่อยผุดอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ซีเอ็มโอปรับทัพ รีแบนด์ครั้งใหญ่ เท 150 ล้านบาท สร้างแกร่งรับมือเออีซี ชูความเป็น Infinite Creative Management มั่นใจใน 3 ปีจากนี้ รายได้โตเท่าตัว แตะ 2,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้วางเป้า 1,100 ล้านบาท โต 10% จากปีก่อน

นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของธุรกิจอีเว้นท์ที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองและภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ลักษณะงานอีเวนต์ขนาดต่ำกว่า 1 ล้านบาทมีสูงขึ้น บริษัทเล็กเกิดขึ้นมากและแข่งขันสูง ขณะเดียวกันกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ค เป็นอีกส่วนสำคัญในการจัดอีเวนต์ที่สำคัญในอีก 3 ปีข้างหน้าที่จะเป็นปีของการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC

ส่งผลให้ในปีนี้ทางบริษัทจะมีการปรับกลยุทธ์และรีแบนด์หน่วยธุรกิจเดิมที่มีอยู่ 5 หน่วยธุรกิจ คือ CM Expertise, CMC, cm art, CMEX และ cm mice สู่ความเป็น “Infinite Creative Management” ภายใต้งบการลงทุนรวมประมาณ 150 ล้านบาท ที่จะใช้กับแผนธุรกิจ 3 ปี เน้น 3 ส่วนหลัก คือ 1.เพิ่มหน่วยธุรกิจใหม่ 2. เพิ่มกิจการใหม่ในลักษณะร่วมทุน และ 3.ขยายตลาดไป AEC อย่างชัดเจน และ4.จัดสร้างBangkok Creative Playground     

โดยในส่วนของ 1.การเพิ่มหน่วยธุรกิจใหม่ ล่าสุดต้นปีที่ผ่านมาได้เพิ่ม 2 หน่วยธุรกิจ คือ1.ICM เป็นหน่วยธุรกิจที่ดูแลเกี่ยวกับการอินติเกรท ออฟ ครีเอทีฟ เมนเนจเม้นท์ กับสื่อใหม่ คือการรวมรวบพันธมิตรมาทำโปรเจกต์พิเศษร่วมกัน เช่น ภาพยนตร์ ที่จะเห็นในปีนี้ และ 2.Odyssey ดูแลด้าน รีเทล มาร์เก็ตติ้ง เอเจนซี่ คอมมูนิตี้
ดูแลการจัดอีเวนต์และบริหารศักยภาพพื้นที่ภายในคอมมูนิตี้มอลล์โดยเฉพาะ เนื่องจากมองเห็นการเติบโตของคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วน 2.แผนการเพิ่มกิจการใหม่ คาดว่าจะมีไม่เกิน 3 บริษัท ไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทในประเทศ จะเลือกบริษัทที่จะเข้ามาช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับซีเอ็มโอเป็นหลัก เช่น ด้านซอฟแวร์และด้านดีไซน์ โดยจะอยู่ในส่วนของกลุ่มธุรกิจด้านซัพพลาย เป็นต้น

3.มุ่งรับงานอีเวนต์ในประเทศอาเซียนมากขึ้น แบ่งออกเป็น 2 เฟส คือ เฟสแรกได้ทำการติดต่อกับทางกัมพูชาและเวียดนามแล้ว โดยเฟส2 จะเริ่มในปี 2556 มุ่งไปประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ในลักษณะของการเข้าไปรับงานอีเวนต์ต่างประเทศมากขึ้น จากลูกค้าในประเทศเป็นหลัก มั่นใจว่าจากปัจจุบันรายได้จากอีเวนต์ต่างประเทศอยู่ที่ 5% ภายใน 3 ปีจะเพิ่มเป็น20%

ขณะที่ธุรกิจอีเวนต์หลังเปิดตลาดการค้าเสรีอาเซียน น่าจะมีมูลค่าโตขึ้น 5 เท่าตัว หรือกว่า 50,000 ล้านบาท และ4. การจัดสร้าง Bangkok Creative Playground จะเป็นหน้าร้านสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาดุผลงานของบริษัท รวมถึงจะเป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ที่จะย้ายเข้าไปในปีหน้า ตั้งอยู่บริเวณ ซอยนวลจันทร์ บนที่ 12 ไร่ครึ่ง มูลค่าการลงทุน 200 ล้านบาท งบลงทุนส่วนใหญ่มาจากการขายออฟฟิศเดิม และที่เหลือมาจากงบรวม 150 ล้านบาทที่ตั้งไว้

นายเสริมคุณ กล่าวต่อว่า ธุรกิจอีเวนต์ถือเป็นธุรกิจที่อ่อนไหวต่อทุกสถานการณ์ ดังนั้นจึงต้องมองหารายได้ประจำที่จะช่วยลดความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น ขณะนี้กำลังมองในส่วนของธุรกิจรับบริหารสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ให้กับต่างประเทศ โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและตัดสินใจอยู่ หลังจากที่เคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งที่กัมพูชา
ส่วนการเป็นโปรโมเตอร์จัดงานอีเว้นท์ของตัวเองนั้น ที่ผ่านมามีอยู่หลายงาน บางงานประสบความสำเร็จ บางงานขาดทุน

ดังนั้นในปีนี้จึงโฟกัสเหลือเพียง 2 งานเท่านั้น เชื่อว่าทั้งปีนี้ บริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท มาจากกลุ่มธุรกิจด้านอีเวนต์ เมนเนจเม้นท์ ที่มีอยู่ 7 หน่วยธุรกิจ ประมาณ 75% และอีก 25% มาจากกลุ่มธุรกิจด้านซัพพลาย ที่มีอยู่ 3 บริษัท คือ The Eyes, PM center และ Expotech

ส่วนรายได้ในปีที่ผ่านมานั้น คาดว่าจะต่ำกว่าเป้า 1,000 ล้านบาท เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมเป็นหลัก ส่วนที่จะหายไปมากแค่ไหนนั้น ต้องรอดูยอดเงินจากงานบีโอไอแฟร์ 2010 ที่เราทำรายได้ไว้กว่า 270 ล้านบาทก่อนว่า ตัวเลขรายได้นี้จะตกมาอยู่ในไตรมาสสี่ของปีก่อน และไตรมาสหนึ่งของปีนี้เท่าไร
กำลังโหลดความคิดเห็น