นายก ส.อีเวนต์แนะแนวทางรับมือ AEC พร้อมผลักดันสร้างบุคลากรสู้ต่างชาติ ฟันธงอีเวนต์ไทย ศักยภาพดีที่สุดในอาเซียน
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในนามนายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน หรือ EMA มองว่า ภาพรวมตลาดอีเวนต์ในประเทศไทยปีนี้น่าจะมีมูลค่าถึง 14,000 ล้านบาท โตจากปีก่อน 10% ขณะที่ปีก่อนติดลบ 5% จากเหตุการณ์ทางการเมือง และปัญหาน้ำท่วม จึงทำให้ดูเหมือนปีนี้เติบโตค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ ยังพบด้วยว่าขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดอีเวนต์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำราคาได้ดี โดยกลุ่มแกรมมี่ถือเป็นกลุ่มบริษัทที่มีการจัดงานอีเวนต์มากที่สุดในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ไทยเป็นประเทศที่มีการจัดงานอีเวนต์มากที่สุดในอาเซียน ถึงแม้ว่าเซกเมนต์ไมซ์จะน้อยกว่าสิงคโปร์ก็ตาม แต่ขนาดของการจัดงานไมซ์ของไทยมีขนาดใหญ่กว่าสิงคโปร์ ส่วนในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ตลาดอีเวนต์ยังโตต่อเนื่อง เนื่องจากกลุ่มประเทศเหล่านี้มีความต้องการสินค้าต่างๆ สูง ส่งผลให้ธุรกิจอีเวนต์เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
ทั้งนี้ มองว่าไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูงสุด แต่ไทยเองต้องสร้างความพร้อมใช้ความได้เปรียบเพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาด AEC อย่างแท้จริง โดยจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้
เริ่มตั้งแต่การเข้าไปเจาะตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ เข้าสู่การจัดงานแบบรีจีนอลแคมเปญหรือแคมเปญระดับภาคพื้น ที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างความพร้อมทางด้านบุคลากร ขณะเดียวกัน ภาครัฐเองควรมีส่วนช่วยอีกทางด้วย เช่น การให้สิทธิพิเศษสำหรับบริษัทที่จะเข้าไปทำตลาดต่างประเทศ เช่น การยกเว้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะนำไปใช้ต่อในต่างประเทศ จากปัจจุบันภาษีนำเข้าอุปกรณ์ด้านการจัดงานนั้นมีตั้งแต่ 5-30%
ทั้งนี้ มองว่าประเทศที่ไทยมีโอกาสเข้าไปทำตลาดมากที่สุด คือ พม่า, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจอีเวนต์ของไทยจะเข้าไปบุกอาเซียน จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลของประเทศนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ภาษา, วัฒนธรรม, ความเชื่อ, ศาสนา และสังคม
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในนามนายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน หรือ EMA มองว่า ภาพรวมตลาดอีเวนต์ในประเทศไทยปีนี้น่าจะมีมูลค่าถึง 14,000 ล้านบาท โตจากปีก่อน 10% ขณะที่ปีก่อนติดลบ 5% จากเหตุการณ์ทางการเมือง และปัญหาน้ำท่วม จึงทำให้ดูเหมือนปีนี้เติบโตค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ ยังพบด้วยว่าขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดอีเวนต์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำราคาได้ดี โดยกลุ่มแกรมมี่ถือเป็นกลุ่มบริษัทที่มีการจัดงานอีเวนต์มากที่สุดในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ไทยเป็นประเทศที่มีการจัดงานอีเวนต์มากที่สุดในอาเซียน ถึงแม้ว่าเซกเมนต์ไมซ์จะน้อยกว่าสิงคโปร์ก็ตาม แต่ขนาดของการจัดงานไมซ์ของไทยมีขนาดใหญ่กว่าสิงคโปร์ ส่วนในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ตลาดอีเวนต์ยังโตต่อเนื่อง เนื่องจากกลุ่มประเทศเหล่านี้มีความต้องการสินค้าต่างๆ สูง ส่งผลให้ธุรกิจอีเวนต์เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
ทั้งนี้ มองว่าไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูงสุด แต่ไทยเองต้องสร้างความพร้อมใช้ความได้เปรียบเพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาด AEC อย่างแท้จริง โดยจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้
เริ่มตั้งแต่การเข้าไปเจาะตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ เข้าสู่การจัดงานแบบรีจีนอลแคมเปญหรือแคมเปญระดับภาคพื้น ที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างความพร้อมทางด้านบุคลากร ขณะเดียวกัน ภาครัฐเองควรมีส่วนช่วยอีกทางด้วย เช่น การให้สิทธิพิเศษสำหรับบริษัทที่จะเข้าไปทำตลาดต่างประเทศ เช่น การยกเว้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะนำไปใช้ต่อในต่างประเทศ จากปัจจุบันภาษีนำเข้าอุปกรณ์ด้านการจัดงานนั้นมีตั้งแต่ 5-30%
ทั้งนี้ มองว่าประเทศที่ไทยมีโอกาสเข้าไปทำตลาดมากที่สุด คือ พม่า, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจอีเวนต์ของไทยจะเข้าไปบุกอาเซียน จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลของประเทศนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ภาษา, วัฒนธรรม, ความเชื่อ, ศาสนา และสังคม