ASTVผู้จัดการรายวัน - จับมือขวาคนสนิท"นิพนธ์"ร่วมแก๊งยาพันล้าน เปิดเต็นท์รถฟอกเงิน ด้าน”"พันตรี"เอี่ยวค้ายานรก เข้ารายงานตัวยอมรับค่าจ้าง1ล.ขนยา ศาลอนุมัติหมายจับ 2 ทหารช่างพัวพันยาเสพติด
วันนี้( 26 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง จตร.ฯช่วยราชการ ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร รอง ผบช.ภ.1 ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายธัชกร หรือโจ๊ก ช่อสัตยธรรม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ซอยรามคำแหง 54 (มหาสิน) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เป็นเครือข่ายยาเสพติดของนายนิพนธ์ หรือแดง กัณชาติ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมของกลาง รถยนต์จำนวน 19 คัน เจสกี 1 คัน อาวุธปืน ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน จำนวน 7 นัด และยาไอซ์ จำนวน 500 กรัม สามารถจับกุมตัวได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.1 สืบทราบว่านายธัชกร หรือโจ๊ก เป็นเครือข่ายและเป็นผู้ช่วยเหลือของนายนิพนธ์ในการหลบหนีคดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามพบตัวนายธัชกรฯ อยู่ที่ลานจอดรถภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพ จึงได้ควบคุมตัวไว้ และได้ตรวจค้นรถยนต์ ทะเบียน ญน - 7065 กทม.ที่นายธัชกรขับมา จากการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าวบรรจุอยู่ในด้านหลังเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวตามอำนาจบัตรของเจ้าพนักงานปปส.เพื่อทำการสืบสวนขยายผล
พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า นายธัชกร รับสารภาพว่ายังมียาไอซ์อีกจำนวนหนึ่งของตนซุกอยู่ในรถยนต์และที่บ้านพัก จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปทำการตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว ซึ่งจอดอยู่บนถนน ภายในหมู่บ้านมาริสา ซ.6 ถนนสุเหร่า คลอง 1 แขวงและเขตบางชัน กทม.พบยาไอซ์จำนวน 0.5 กก. และได้ทำการตรวจยึดรถยนต์อีกจำนวน 19 คัน โดยนายธัชกรให้การรับสารภาพว่าเงินที่ได้จากการซื้อขายยาเสพติดทั้งหมดได้นำมาทำธุรกิจเปิดเต็นท์รถและซื้อขายรถยนต์นำมาใช้ในการกระทำความผิดโดยเปิดขายเต็นท์รถมาแล้ว 2 ปี และรู้จักกับนายนิพนธ์ที่ทำธุรกิจเต็นท์รถโดยนายนิพนธ์จะเป็นคนที่ชี้แนะในการทำธุรกิจเต็นท์รถตนจะมีหน้าที่แพ็คยาเสพติดที่นายนิพนธ์มาฝากไว้ ทั้งนี้ทางปปง.ก็จะตรวจสอบและยึดทรัพย์สินเกี่ยวกับการฟอกเงินในคดีรถยนต์ทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
****"พ.ต. Wรับค่าจ้าง1ล.ขนยา
พล.ต.ต. ชัยวัฒน์ โชติมา ผู้บัญชาการกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ขณะนี้ พ.ต.ปิยะณัฐ เกตุจำรัส นายทหารสังกัดกองพันทหารช่าง กองทัพภาคที่ 3 ค่ายบรมไตรโลกนาถ ที่มีส่วนเกี่ยวพันกับคดียาเสพติดเครือข่าย นายนิพนธ์ กันชาติ ได้เข้ารายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานในการส่งตัวมาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
ที่กรมทหารช่างที่ 3 ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 6 เจ้าหน้าที่ ปปส.ตชด. กอ.รมน ข่าวกรองทหารจำนวนหลายนาย เดินทางไปรับตัว พ.ต.ปิยะณัฐ เจตน์จำรัส นายทหารสังกัดหน่วยทหารช่าง กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งมีส่วนพัวพันกับขบวนการเครือข่ายค้ายาเสพติดพันล้านบาท ตามคำให้การซัดทอดของนายนิพนธ์ กันชาติ พ่อค้ายาเสพติด และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลพร้อมนำตัวไปสอบสวนขยายผลทันที
ผลการสอบสวนเบื้องต้น พ.ต.ปิยะณัฐให้การรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างขนยาเสพติด จาก จ.เชียงรายไป กทม.ในราคา 1 ล้านบาทโดยทำหน้าที่เป็นคนขับรถ
*** “ประยุทธ์”ลั่นใครเอี่ยวฟันไม่เลี้ยง
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นทหาร หรือใครก็ตามที่อยู่ในกองทัพมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแจ้งมาที่กองทัพได้ กองทัพจะดำเนินการหาบุคคลคนที่กระทำผิดส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนตามกฎหมาย หากมีความผิดจริงจะต้องดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวอย่างถึงที่สุด โดยยืนยันว่า กองทัพ จะไม่เลี้ยงหรือให้ความช่วยเหลือผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด
พล.ท.ปิติภาคย์ ป้อมนาค อดีตนายทหารสังกัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาญาจักร(กอ.รมน.)ผู้ที่ออกบัตรให้นายนิพนธ์ไม่มีอำนาจในเรื่องนี้ และบัตรดังกล่าวทั้งหมดต่อไปนี้ใช้อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ตนได้ยินเรื่องนี้มานนานแล้ว และ พล.ท.ปิติภาคย์ก็เกษียณไปหลายปีแล้วแต่บัตรพวกนี้ยังอยู่ ส่วนทาง พล.ท.ปิติภาคย์ จะมีความผิดหรือไม่ ก็ต้องไปดูว่าบัตรที่ออกมานั้นถูกต้องหรือไม่ ท่านอาจจะไม่รู้ก็ได้ก็ต้องสอบสวนกันไป
***ศาลอนุมัติหมายจับ 2 ทหารช่างพัวพันยาเสพติด
ศาลอาญารัชดา อนุมัติหมายจับเลขที่ จ 17/2555 จ 18/2555 ให้จับกุม พ.ต.ปิยะณัฐ เจตน์จำรัส และ จ.ส.อ.วีนัส สีใจ นายทหารสังกัดกองพันทหารช่างที่ 302 กองทัพภาคที่ 3 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ทั้ง 2 มีพฤติกรรมพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ภาคเหนือ และจากคำให้การของนายนิพนธ์ กันชาติ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่เครือข่ายขุนส่า ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เมื่อวานที่ผ่านมา ได้ให้การซัดทอดว่า ตนเองไปรับยาเสพติดจำนวนมาก มาจาก พ.ต.ปิยะณัฐ และ จ.ส.อ.วีนัส โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด อยู่ระหว่างการนำเฮลิคอปเตอร์ไปรับตัว พ.ต.ปิยะณัฐ มาดำเนินการสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ส่วน จ.ส.อ.วีนัส นั้น ทราบว่าได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้( 26 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง จตร.ฯช่วยราชการ ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร รอง ผบช.ภ.1 ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายธัชกร หรือโจ๊ก ช่อสัตยธรรม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ซอยรามคำแหง 54 (มหาสิน) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เป็นเครือข่ายยาเสพติดของนายนิพนธ์ หรือแดง กัณชาติ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมของกลาง รถยนต์จำนวน 19 คัน เจสกี 1 คัน อาวุธปืน ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน จำนวน 7 นัด และยาไอซ์ จำนวน 500 กรัม สามารถจับกุมตัวได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.1 สืบทราบว่านายธัชกร หรือโจ๊ก เป็นเครือข่ายและเป็นผู้ช่วยเหลือของนายนิพนธ์ในการหลบหนีคดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามพบตัวนายธัชกรฯ อยู่ที่ลานจอดรถภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพ จึงได้ควบคุมตัวไว้ และได้ตรวจค้นรถยนต์ ทะเบียน ญน - 7065 กทม.ที่นายธัชกรขับมา จากการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าวบรรจุอยู่ในด้านหลังเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวตามอำนาจบัตรของเจ้าพนักงานปปส.เพื่อทำการสืบสวนขยายผล
พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า นายธัชกร รับสารภาพว่ายังมียาไอซ์อีกจำนวนหนึ่งของตนซุกอยู่ในรถยนต์และที่บ้านพัก จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปทำการตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว ซึ่งจอดอยู่บนถนน ภายในหมู่บ้านมาริสา ซ.6 ถนนสุเหร่า คลอง 1 แขวงและเขตบางชัน กทม.พบยาไอซ์จำนวน 0.5 กก. และได้ทำการตรวจยึดรถยนต์อีกจำนวน 19 คัน โดยนายธัชกรให้การรับสารภาพว่าเงินที่ได้จากการซื้อขายยาเสพติดทั้งหมดได้นำมาทำธุรกิจเปิดเต็นท์รถและซื้อขายรถยนต์นำมาใช้ในการกระทำความผิดโดยเปิดขายเต็นท์รถมาแล้ว 2 ปี และรู้จักกับนายนิพนธ์ที่ทำธุรกิจเต็นท์รถโดยนายนิพนธ์จะเป็นคนที่ชี้แนะในการทำธุรกิจเต็นท์รถตนจะมีหน้าที่แพ็คยาเสพติดที่นายนิพนธ์มาฝากไว้ ทั้งนี้ทางปปง.ก็จะตรวจสอบและยึดทรัพย์สินเกี่ยวกับการฟอกเงินในคดีรถยนต์ทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
****"พ.ต. Wรับค่าจ้าง1ล.ขนยา
พล.ต.ต. ชัยวัฒน์ โชติมา ผู้บัญชาการกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ขณะนี้ พ.ต.ปิยะณัฐ เกตุจำรัส นายทหารสังกัดกองพันทหารช่าง กองทัพภาคที่ 3 ค่ายบรมไตรโลกนาถ ที่มีส่วนเกี่ยวพันกับคดียาเสพติดเครือข่าย นายนิพนธ์ กันชาติ ได้เข้ารายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานในการส่งตัวมาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
ที่กรมทหารช่างที่ 3 ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 6 เจ้าหน้าที่ ปปส.ตชด. กอ.รมน ข่าวกรองทหารจำนวนหลายนาย เดินทางไปรับตัว พ.ต.ปิยะณัฐ เจตน์จำรัส นายทหารสังกัดหน่วยทหารช่าง กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งมีส่วนพัวพันกับขบวนการเครือข่ายค้ายาเสพติดพันล้านบาท ตามคำให้การซัดทอดของนายนิพนธ์ กันชาติ พ่อค้ายาเสพติด และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลพร้อมนำตัวไปสอบสวนขยายผลทันที
ผลการสอบสวนเบื้องต้น พ.ต.ปิยะณัฐให้การรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างขนยาเสพติด จาก จ.เชียงรายไป กทม.ในราคา 1 ล้านบาทโดยทำหน้าที่เป็นคนขับรถ
*** “ประยุทธ์”ลั่นใครเอี่ยวฟันไม่เลี้ยง
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นทหาร หรือใครก็ตามที่อยู่ในกองทัพมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแจ้งมาที่กองทัพได้ กองทัพจะดำเนินการหาบุคคลคนที่กระทำผิดส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนตามกฎหมาย หากมีความผิดจริงจะต้องดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวอย่างถึงที่สุด โดยยืนยันว่า กองทัพ จะไม่เลี้ยงหรือให้ความช่วยเหลือผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด
พล.ท.ปิติภาคย์ ป้อมนาค อดีตนายทหารสังกัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาญาจักร(กอ.รมน.)ผู้ที่ออกบัตรให้นายนิพนธ์ไม่มีอำนาจในเรื่องนี้ และบัตรดังกล่าวทั้งหมดต่อไปนี้ใช้อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ตนได้ยินเรื่องนี้มานนานแล้ว และ พล.ท.ปิติภาคย์ก็เกษียณไปหลายปีแล้วแต่บัตรพวกนี้ยังอยู่ ส่วนทาง พล.ท.ปิติภาคย์ จะมีความผิดหรือไม่ ก็ต้องไปดูว่าบัตรที่ออกมานั้นถูกต้องหรือไม่ ท่านอาจจะไม่รู้ก็ได้ก็ต้องสอบสวนกันไป
***ศาลอนุมัติหมายจับ 2 ทหารช่างพัวพันยาเสพติด
ศาลอาญารัชดา อนุมัติหมายจับเลขที่ จ 17/2555 จ 18/2555 ให้จับกุม พ.ต.ปิยะณัฐ เจตน์จำรัส และ จ.ส.อ.วีนัส สีใจ นายทหารสังกัดกองพันทหารช่างที่ 302 กองทัพภาคที่ 3 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ทั้ง 2 มีพฤติกรรมพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ภาคเหนือ และจากคำให้การของนายนิพนธ์ กันชาติ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่เครือข่ายขุนส่า ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เมื่อวานที่ผ่านมา ได้ให้การซัดทอดว่า ตนเองไปรับยาเสพติดจำนวนมาก มาจาก พ.ต.ปิยะณัฐ และ จ.ส.อ.วีนัส โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด อยู่ระหว่างการนำเฮลิคอปเตอร์ไปรับตัว พ.ต.ปิยะณัฐ มาดำเนินการสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ส่วน จ.ส.อ.วีนัส นั้น ทราบว่าได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป