“นิพนธ์ กันชาติ” เจ้าของยาบ้าพันล้าน สารภาพรับรายการสั่งซื้อจากแม่สาย ใช้รถตู้ลำเลียงและบรรจุยาเสพติด โดยจะเป็นคนทำหน้าที่นำไปส่งให้ “พ.ต.” เผย มีเพื่อนชื่อ “ตี๋” ชักชวนให้ทำ แต่ตอนนี้อยู่ในคุก ขณะที่ ผบ.ตร.เผย กองทัพบกไฟเขียวล็อกตัว “พ.ต.” ร่วมแก๊งดำเนินคดี ชี้ เหตุเป็นความผิดส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับกองทัพ
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทน ผบช.ภ.1 แถลงการจับกุม นายนิพนธ์ กันชาติ หรือ แดง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 714 ถนนไฮเวย์ลำปาง-งาว ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 11/2555 และหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ จ.55/2555 ลงวันที่ 20 ม.ค.2555 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเทภ 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางเงินสด 305,500 บาท แหวนเพชร 3 วง กระเป๋าหนังและเสื้อคลุมหนัง โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 55/496 หมู่บ้านพฤกษ์ลดา 1 หมู่ 6 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้เข้าตรวจสอบรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ซึ่งประสบอุบัติเหตุบริเวณถนนมอเตอร์เวย์บางปะอิน-บางนา มุ่งหน้าธัญบุรี ต.คลอง 4 อ.คลองหลวง เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยคนขับรถคันเกิดเหตุได้หลบหนีไปด้วยท่าทางมีพิรุธ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถพบยาไอซ์ สมุดจดบันทึก และเอกสารจำนวนหนึ่งระบุชื่อของนายนิพนธ์ จากนั้นจึงมีการขยายผลนำหมายศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 3 หมู่บ้านสัมมากร รังสิต-นครนายก คลอง 2 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี ซึ่งพบว่า มี นางจริญญา หาญณรงค์ หรือ ลูกตาล อดีตรองนางสาวไทย เป็นเจ้าของ และได้ให้ นายนิพนธ์ เช่าในราคาเดือนละ 2.7 หมื่นบาท จากการตรวจค้นในบ้าน เจ้าหน้าที่พบยาบ้าถึง 3,864,000 เม็ด ยาไอซ์ 81 กิโลกรัม มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท รถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียนกงจักร 9028 จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ต่อมา นางจริญญา ได้ให้ปากคำกับตำรวจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเร่งติดตามตัว นายนิพนธ์ ซึ่งพบความเคลื่อนไหว ว่า หลบหนีไปอาศัยอยู่กับ น.ส.จีรารัตน์ อินทรัตน์ อายุ 25 ปี แฟนสาว ที่อาคารรัชดาออคิด คอนโดมิเนียม แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.จึงเข้าตรวจค้นพบยาไอซ์ 42 กรัม ก่อนจับกุม น.ส.จีรารัตน์ ไว้ดำเนินคดี หลังจากนั้น ชุดสืบสวน บช.ภ.1 สืบทราบว่า นายนิพนธ์ หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่บ้านพักในหมู่บ้านพฤกษ์ลดา 1 หมู่ 6 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเฝ้าติดตาม กระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมกับติดตามของกลางทั้งหมดไว้ได้
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน นายนิพนธ์ ให้การรับสารภาพ และมีการพาดพิงถึงข้าราชการ โดยเป็นนายทหาร ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนปรึกษากับทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.แล้ว ซึ่งท่านก็ยินดีให้ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน เพราะทุกหน่วยไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือทหาร ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอชื่นชมการทำงานของตำรวจภูธรภาค 1 ที่มีความละเอียดรอบคอบในการทำงานครั้งนี้ หลังจากนี้จะนำตัว นายนิพนธ์ ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน นายนิพนธ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกค้ายาเสพติดจริง โดยรับรายการสั่งซื้อจากทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งใช้รถตู้ 2 คัน เป็นยานพาหนะในการลำเลียงและบรรจุยาเสพติด ซึ่งตนรับหน้าที่นำไปส่งให้กับ พ.ต.ปิยะณัฐ เกษจำรัส สังกัดกองพันทหารช่าง ค่ายบรมไตรโลกนาถ กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งจะมีเงินค่าเดินทางให้ นอกจากนี้ หากทาง พ.ต.ปิยะณัฐ ได้รับออเดอร์จากทางแม่สาย ก็จะขับรถจาก จ.พิษณุโลก ผ่าน จ.อุตรดิตถ์ จ.แพร่ จนถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปรับยาเสพติดแล้วขับกลับมาทางเดิม มาส่งให้ตนที่รออยู่ที่ จ.อยุธยา ก่อนจะขับรถตู้นำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านในหมู่บ้านสัมมากร
“ยาเสพติดที่ขนมานั้น จะมี นายฐาปนันท์ หรือ เฉิน หรือ หนู ไม่ทราบนามสกุล มารับของอีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะมีลูกค้าติดต่อว่าจะนำไปจำหน่ายที่ไหน โดยผมจะได้เงินค่าจ้างจากการขนยาไอซ์ในราคากิโลกรัมละ 5,000 บาท ส่วนยาบ้าได้เม็ดละ 50 สตางค์ สำหรับล็อตนี้ก็จะได้เงินทั้งหมด 2.45 ล้านบาท เป็นค่าแรง ซึ่งที่ผ่านมาเคยทำมาแล้ว 7-8 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2549 แล้วหยุดทำไป 2 ปี ก่อนจะกลับมาทำใหม่ ซึ่งผมมีเพื่อน คือ นายพีระยุทธ แพทย์สกล หรือ ตี๋ ที่รู้จักกันจากการทำธุรกิจเต็นท์รถมือสอง ซึ่งเป็นผู้ที่มีเครดิตและได้รับความเชื่อถือจากเครือข่ายยาเสพติดฝั่งประเทศเพื่อน เป็นผู้ชักชวนให้ทำ แต่ตอนนี้เขาถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำ” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า ช่วงที่ขับรถยนต์ไปประสบอุบัติเหตุ ตนได้หอบกระเป๋าเอกสารและเงินสดหลบหนีมาด้วย โดยเดินเท้าออกมาประมาณ 500 เมตร แล้วหลบซ่อนตัวในพงหญ้าเพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่จะพบ ก่อนจะเดินต่ออีกกว่า 6 กิโลเมตร ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถติดต่อกับน้องชายได้ โดยเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ย่านลำลูกกา คลอง 4 แล้วหลบหนีอยู่ 2-3 วัน ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวในที่สุด โดยก่อนหน้านี้ ตนก็คิดจะเข้ามอบตัว แต่ยังกลัวความผิดอยู่ ส่วนเอกสารราชการต่างๆ เช่น บัตรที่ออกโดย กอ.รมน.นั้น ตนได้มาจากการเข้าอบรมซึ่งไม่เคยได้นำไปใช้แต่อย่างใด
นายนิพนธ์ กล่าวถึงกรณีที่ได้เช่าบ้านพักของนางจริญญา ว่า ไม่ได้รู้จักกันแต่อย่างใด และนางจริญญา ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด โดยตนต้องการหาบ้านเช่าเพื่อเก็บยาเสพติด ก่อนไปค้นเจอทางอินเทอร์เน็ตว่ามีบ้านหลังดังกล่าวลงโฆษณาไว้ จึงไปติดต่อเช่าบ้านเอง ซึ่งครั้งแรกก็ไม่ทราบว่า นางจริญญา เป็นอดีตรองนางสาวไทยและอดีตดารา
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทน ผบช.ภ.1 แถลงการจับกุม นายนิพนธ์ กันชาติ หรือ แดง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 714 ถนนไฮเวย์ลำปาง-งาว ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 11/2555 และหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ จ.55/2555 ลงวันที่ 20 ม.ค.2555 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเทภ 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางเงินสด 305,500 บาท แหวนเพชร 3 วง กระเป๋าหนังและเสื้อคลุมหนัง โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 55/496 หมู่บ้านพฤกษ์ลดา 1 หมู่ 6 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้เข้าตรวจสอบรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ซึ่งประสบอุบัติเหตุบริเวณถนนมอเตอร์เวย์บางปะอิน-บางนา มุ่งหน้าธัญบุรี ต.คลอง 4 อ.คลองหลวง เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยคนขับรถคันเกิดเหตุได้หลบหนีไปด้วยท่าทางมีพิรุธ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถพบยาไอซ์ สมุดจดบันทึก และเอกสารจำนวนหนึ่งระบุชื่อของนายนิพนธ์ จากนั้นจึงมีการขยายผลนำหมายศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 3 หมู่บ้านสัมมากร รังสิต-นครนายก คลอง 2 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี ซึ่งพบว่า มี นางจริญญา หาญณรงค์ หรือ ลูกตาล อดีตรองนางสาวไทย เป็นเจ้าของ และได้ให้ นายนิพนธ์ เช่าในราคาเดือนละ 2.7 หมื่นบาท จากการตรวจค้นในบ้าน เจ้าหน้าที่พบยาบ้าถึง 3,864,000 เม็ด ยาไอซ์ 81 กิโลกรัม มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท รถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียนกงจักร 9028 จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ต่อมา นางจริญญา ได้ให้ปากคำกับตำรวจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเร่งติดตามตัว นายนิพนธ์ ซึ่งพบความเคลื่อนไหว ว่า หลบหนีไปอาศัยอยู่กับ น.ส.จีรารัตน์ อินทรัตน์ อายุ 25 ปี แฟนสาว ที่อาคารรัชดาออคิด คอนโดมิเนียม แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.จึงเข้าตรวจค้นพบยาไอซ์ 42 กรัม ก่อนจับกุม น.ส.จีรารัตน์ ไว้ดำเนินคดี หลังจากนั้น ชุดสืบสวน บช.ภ.1 สืบทราบว่า นายนิพนธ์ หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่บ้านพักในหมู่บ้านพฤกษ์ลดา 1 หมู่ 6 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเฝ้าติดตาม กระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมกับติดตามของกลางทั้งหมดไว้ได้
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน นายนิพนธ์ ให้การรับสารภาพ และมีการพาดพิงถึงข้าราชการ โดยเป็นนายทหาร ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนปรึกษากับทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.แล้ว ซึ่งท่านก็ยินดีให้ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน เพราะทุกหน่วยไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือทหาร ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอชื่นชมการทำงานของตำรวจภูธรภาค 1 ที่มีความละเอียดรอบคอบในการทำงานครั้งนี้ หลังจากนี้จะนำตัว นายนิพนธ์ ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน นายนิพนธ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกค้ายาเสพติดจริง โดยรับรายการสั่งซื้อจากทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งใช้รถตู้ 2 คัน เป็นยานพาหนะในการลำเลียงและบรรจุยาเสพติด ซึ่งตนรับหน้าที่นำไปส่งให้กับ พ.ต.ปิยะณัฐ เกษจำรัส สังกัดกองพันทหารช่าง ค่ายบรมไตรโลกนาถ กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งจะมีเงินค่าเดินทางให้ นอกจากนี้ หากทาง พ.ต.ปิยะณัฐ ได้รับออเดอร์จากทางแม่สาย ก็จะขับรถจาก จ.พิษณุโลก ผ่าน จ.อุตรดิตถ์ จ.แพร่ จนถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปรับยาเสพติดแล้วขับกลับมาทางเดิม มาส่งให้ตนที่รออยู่ที่ จ.อยุธยา ก่อนจะขับรถตู้นำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านในหมู่บ้านสัมมากร
“ยาเสพติดที่ขนมานั้น จะมี นายฐาปนันท์ หรือ เฉิน หรือ หนู ไม่ทราบนามสกุล มารับของอีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะมีลูกค้าติดต่อว่าจะนำไปจำหน่ายที่ไหน โดยผมจะได้เงินค่าจ้างจากการขนยาไอซ์ในราคากิโลกรัมละ 5,000 บาท ส่วนยาบ้าได้เม็ดละ 50 สตางค์ สำหรับล็อตนี้ก็จะได้เงินทั้งหมด 2.45 ล้านบาท เป็นค่าแรง ซึ่งที่ผ่านมาเคยทำมาแล้ว 7-8 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2549 แล้วหยุดทำไป 2 ปี ก่อนจะกลับมาทำใหม่ ซึ่งผมมีเพื่อน คือ นายพีระยุทธ แพทย์สกล หรือ ตี๋ ที่รู้จักกันจากการทำธุรกิจเต็นท์รถมือสอง ซึ่งเป็นผู้ที่มีเครดิตและได้รับความเชื่อถือจากเครือข่ายยาเสพติดฝั่งประเทศเพื่อน เป็นผู้ชักชวนให้ทำ แต่ตอนนี้เขาถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำ” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า ช่วงที่ขับรถยนต์ไปประสบอุบัติเหตุ ตนได้หอบกระเป๋าเอกสารและเงินสดหลบหนีมาด้วย โดยเดินเท้าออกมาประมาณ 500 เมตร แล้วหลบซ่อนตัวในพงหญ้าเพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่จะพบ ก่อนจะเดินต่ออีกกว่า 6 กิโลเมตร ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถติดต่อกับน้องชายได้ โดยเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ย่านลำลูกกา คลอง 4 แล้วหลบหนีอยู่ 2-3 วัน ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวในที่สุด โดยก่อนหน้านี้ ตนก็คิดจะเข้ามอบตัว แต่ยังกลัวความผิดอยู่ ส่วนเอกสารราชการต่างๆ เช่น บัตรที่ออกโดย กอ.รมน.นั้น ตนได้มาจากการเข้าอบรมซึ่งไม่เคยได้นำไปใช้แต่อย่างใด
นายนิพนธ์ กล่าวถึงกรณีที่ได้เช่าบ้านพักของนางจริญญา ว่า ไม่ได้รู้จักกันแต่อย่างใด และนางจริญญา ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด โดยตนต้องการหาบ้านเช่าเพื่อเก็บยาเสพติด ก่อนไปค้นเจอทางอินเทอร์เน็ตว่ามีบ้านหลังดังกล่าวลงโฆษณาไว้ จึงไปติดต่อเช่าบ้านเอง ซึ่งครั้งแรกก็ไม่ทราบว่า นางจริญญา เป็นอดีตรองนางสาวไทยและอดีตดารา
