“ยิ่งลักษณ์” เผยประชุมอาเซียน ไทยได้ประโยชน์ โวเสถียรภาพทางการเมืองจะทำให้ไทยกลับมามีบทบบาทในเวทีอาเซียน มั่นใจแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน เดินหน้าสร้างถนนไฮเวย์ 4 เลน ย้ำจุดยืนปัญหาน้ำท่วม มุ่งดูแลพื้นที่เศรษฐกิจ ปกป้อง กทม.ชั้นใน เชื่อถนนพระราม 2 น้ำไม่ท่วม หรือท่วมไม่รุนแรง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โฟนอินจากอินโดนีเซีย ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เช้าวันนี้ (19 พ.ย.) โดยเล่าถึงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ว่าอาเซียนมีจุดมุ่งหมายชัดเจน ในการเชื่อมโยงภูมิภาค เพื่อส่งเสริมความสามารถการแข่งขันอาเซียน ซึ่งประเทศไทยจะสนับสนุนด้านต่างๆ และเชื่อว่าน่าจะได้รับประโยชน์ จากการหารือหรือประชุมดังกล่าว ซึ่งมีการหารือกับสหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ควบคู่กันไปด้วย
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งนี้ได้มีการหารือร่วมกับผู้นำประเทศต่างๆ ซึ่งไทยได้ย้ำถึงเสถียรภาพทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ที่จะทำให้ไทยกลับมามีบทบาทในเวทีอาเซียน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยได้ให้ข้อมูลแผนฟื้นฟูประเทศจากเหตุน้ำท่วม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเสนอให้อาเซียนเพิ่มเครื่องมือจัดการภัยพิบัติและการจัดการน้ำด้วย นอกจากนี้ยังได้แลกเปลี่ยนความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับความผันผวนเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาเซียนต้องเร่งสร้างการแข่งขันเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาคให้ทัดเทียมเวทีโลก
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ประเทศไทยได้ประโยชน์หลายเรื่อง อาทิ การเดินหน้าโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายในพม่า เชื่อมการขนส่งสินค้าท่าเรือฝั่งอันดามันกับท่าเรือแหลมฉบัง โครงการแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ ที่จะมีการสร้างถนนไฮเวย์ 4 เลนจากกุนหมิงลากตัดผ่านจังหวัดสำคัญ อาทิ อำเภอแม่สอด จ.พิษณุโลก จ.ขอนแก่น ซึ่งจะได้รับประโยชน์
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในโอกาสนี้ได้หารือกับผู้นำจีน ซึ่งสนใจลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงในประเทศไทย ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ส่งรายละเอียด MOU ให้จีนแล้วและถ้าจีนตกลง ไทยก็พร้อมเร่งการเจรจาได้ทันที
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศว่าปัญหามวลชน แนวกั้นบิ๊กแบ็ก คลองหกวาสายล่าง และแนวคลองมหาสวัสดิ์ นั้นได้หาข้อยุติได้แล้ว โดยอาศัยกระบวนการทางมหาดไทย ทำความชี้แจงกับประชาชน ยึดหลักการผ่อนปรน ซึ่งหลายจุดตกลงกันว่าจะปรับเป็นฝ่ายน้ำล้นแทน
อย่างไรก็ตาม แนวทางรัฐบาลจะรักษาพื้นที่เศรษฐกิจไว้ โดยเปิดทางให้ กทม.ระบายน้ำได้เต็มที่
ส่วนพระราม 2 นั้นจากข้อมูลล่าสุดคาดว่าน้ำจะไม่ท่วมแล้ว แต่ถ้าเกิดขึ้นก็จะไม่รุนแรง ขณะเดียวกันรัฐบาลจะให้แต่ละจังหวัดเร่งดูแลเยียวยา ทั้งกรณีผู้เสียชีวิต บ้านเรือนเสียหายซ่อมแซมสาธารณูประโภคเสร็จภายใน 15 วัน ส่วนการช่วยเหลือภาคเกษตร คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อย ที่มีหนี้คงค้างไม่เกิน 5 แสนบาท โดยระยะเวลาชำระหนี้ 3 ปี ซึ่งได้เปิดลงทะเบียนไปแล้วเมื่อ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา