โฆษก ทบ.ปัดคลังแสงนครสวรรค์บึ้ม พร้อมให้รวบ พ.ต.เอี่ยวค้ายา ชี้ตาควายแค่ปืนลั่น

โฆษก ทบ.ปัดคลังแสงพยุหะคีรี นครสวรรค์ บึ้ม ระบุแค่ไฟไหม้ลังไม้ ยันคุมเพลิงได้เสียหายเล็กน้อย เผย ทหารพร้อมให้ ตร.รวบ พ.ต.ทัพภาค 3 หลังถูกซัดทอดค้ายาบ้า แจงเสียงปืนปราสาทตาควาย ไม่ใช่เหตุปะทะ ที่แท้ทหารลาดตระเวนหกล้ม ทำปืนลั่นโดนขาสิบเอก


วันนี้ (25 ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 15.30 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงถึงกระแสข่าวระเบิดที่คลังแสง จ.นครสวรรค์ ระเบิด ว่า จากการสอบถาม พ.อ.ไพโรจน์ ยินดีรัตน์ หัวหน้าแผนกที่ 3 กองคลังแสง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ยืนยันว่า ไม่ใช่คลังแสงสรรพาวุธกองทัพบกระเบิดแต่อย่างใด เป็นแค่ลักษณะเปลวไฟไหม้ลุกลามไปยังลังไม้ โดยในลังไม่มีอาวุธอยู่ เป็นลังไม้ถูกคัดแยกออกไปไว้ที่ลานภายในหน่วย ซึ่งเป็นพื้นที่ว่าง และลังไม้ที่ไหม้ก็หมดสภาพจึงคัดแยกออกมาทำลาย ส่วนลังไม้ที่มีประโยชน์ก็คัดแยกออกมาไว้ใช้ในครั้งหน้า แต่ในลังมีสารเคมีฟอสฟอรัส เมื่อได้ปะทะกับอุณภูมิที่สูงขึ้นจากเปลวแดด จึงทำให้ทำไฟลุกลามประมาณ 100 กว่าลัง แต่ลามไปถึงตัวอาคาร แต่ก็สามารถควบคุมเพลิงได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการตื่นตระหนก เข้าใจผิดว่า เป็นการระเบิด แต่ความจริงไม่ใช่

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับความเสียหายเล็กน้อย เพราะเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้อย่างรวดเร็ว หลังจากขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงจากหน่วยข้างเคียง และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และไม่มีอาวุธเสียหายได้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้รับทราบแล้ว และไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ภายในหน่วยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว จึงได้นำลังไม้มาไว้ หากเกิดอุบัติเหตุจึงสามารรถควบคุมเพลิงไว้ได้ไม่ให้ขยายตัว เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ไม่ได้สั่งการเพิ่มเติมอะไร อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้พูดคุยกับหัวหน้าแผนก ทราบว่า ทางเจ้ากรมสรรรพาวุธ ได้รับทราบ และสั่งการให้ตรวจสอบลังไม้เกรงว่าจะมีวัตถุเคมีตกค้าง และจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาอีก

โฆษกกองทัพบก ยังแถลงข่าวภายหลังไปให้ข้อมูลกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับคดียาเสพติด ว่า ผบ.ทบ.ได้มอบหมายไปให้ข้อมูลกรณีที่ นายนิพันธ์ กันชาติ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ได้ให้การซักทอดว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ทบ.เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งนายทหารที่ถูกซักทอด คือ พ.ต.ปิยะณัฐ เจตน์จำรัส นายทหารสังกัดหน่วยทหารช่าง กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งเบื้องต้นตำรวจได้มีการประสานงานขอควบคุมตัว พ.ต.ปิยะณัฐ ไว้แล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ ทบ.ให้ความสำคัญ และ ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นของ ทบ.ตอบสนองงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งทหารจะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน จะต้องไม่มาทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ส่วนกรณีที่มีทหารถูกซักทอด อยากให้สังคมสบายใจว่าเป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคล และทหารก็พร้อมให้การสนับสนุนกับตำรวจเกี่ยวกับคดี

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนที่มีข่าวว่า พล.ท.ปิติภาคย์ ป้อมนาค อดีตนายทหารสังกัด กอ.รมน.ได้มีการออกบัตร กอ.รมน.ให้กับ นายนิพันธ์ นั้น เบื้องต้นทราบเป็นการออกบัตรให้กับ นายนิพันธ์ ที่เข้ารับการฝึกเป็นมวลชนของ กอ.รมน.เป็นเครือข่ายในเรื่องของการชี้แจงปรัญญาเศรษฐกิจพอเพียง และงานด้านอื่นๆ แต่ นายนิพันธ์ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับ กอ.รมน.แต่หากผลการสืบสวนของตำรวจ พบว่า มีการเกี่ยวข้องทาง กอ.รมน.ก็ยินดีที่จะให้ข้อมูล ส่วนเรื่องบัตรของ กอ.รมน.นั้น ไม่น่าจะมีผลอะไร เพราะ นายนิพันธ์ ไม่เคยหยิบบัตรของ กอ.รมน.มาใช้ประโยชน์แต่อย่างใด

พ.อ.สรรเสริญ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเหตุปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ว่า จากการสืบทราบเบื้องต้น พบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนในพื้นที่ โดยระหว่างการลาดตระเวนได้มีทหารคนหนึ่งหกล้ม ทำให้อาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม.ไปโดนที่ต้นขา ส.อ.วีระวัฒน์ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นผู้ตรวจการณ์หน้า กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 623 และได้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลค่ายวีระวัฒน์โยธินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเสียงปืนดังเพียงหนึ่งนัด และทางฝั่งกัมพูชายังไม่ได้ยินเสียงปืนดังกล่าวเลย จึงยืนยันว่าไม่ได้มีการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ตามที่เป็นข่าว