ASTVผู้จัดการรายวัน - ซัสโก้ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต6-7%จากปีก่อนที่ทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้เดิม 1.4 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้ยอดขายน้ำมันลดลงก็ตาม เผยสนใจลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 5-6 เมกะวัตต์ รอรัฐเปิดรับซื้อไฟรอบใหม่ยื่นขอไลเซ่นส์ ระบุเป็นธุรกิจพลังงานเหมือนกัน
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน )(SUSCO) เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้อยู่ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6-7 % และกำไรสุทธิจะเติบโตในสัดส่วนใกล้เคียงรายได้ โดยจะเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิม เพิ่มยอดขายน้ำมันสำเร็จรูปในสถานีบริการซัสโก้และส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสถานีบริการน้ำมันในต่างจังหวัดโดยเฉพาะภาคใต้อีก 4-5 แห่งจากปัจจุบันที่สถานีบริการน้ำมันอยู่ 145 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งการเพิ่มสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV)อีก7-8 แห่ง แต่ทั้งนี้คงขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐและปตท.ด้วย คงต้องรอความชัดเจนในเรื่องนี้อีก 2-3 เดือนข้างหน้าว่ารัฐยังคงนโยบายที่จะให้มีการปรับขึ้นราคาNGVเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปตท.ยังชะลอให้คู่ค้าขยายสถานีบริการNGV เพิ่มเติมอยู่
นอกจากนี้ บริษัทฯมีนโยบายจะปรับปรุงภาพลักษณ์ปั๊มน้ำมันซัสโก้ให้ดูสดใส สว่างขึ้นทุกปั๊มภายใน 4-5ปีนี้ โดยปีนี้จะใช้เงินลงทุน 40-50 ล้านบาทเพื่อรีโนเวทปั๊มซัสโก้จำนวน 20-30 แห่งทั่วประเทศ คาดว่าจะเริ่มเห็นรูปโฉมปั๊มใหม่ได้ในช่วงไตรมาส 2 นี้ เพื่อกระตุ้นยอดขายน้ำมัน ที่ปัจจุบันปั๊มซัสโก้มียอดขายเฉลี่ย1 แสนกว่าลิตรต่อเดือนต่อแห่ง
สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2554 เป็นไปตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ โดยมีรายได้จากการขายรวม 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเดิมบริษัทฯคาดว่ารายได้จะปรับลดลงเหลือเพียง 1.2-1.3 หมื่นล้านบาทจากผลกระทบน้ำท่วมทำให้ยอดการขายน้ำมันหดตัวลง แต่ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมายอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการเพิ่มสูงขึ้นทำให้ชดเชยยอดขายที่หายไปก่อนหน้านี้ได้ ขณะที่กำไรสุทธิปี 2554 ถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯมาเมื่อปี 2521 โดยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2554 บริษัทฯมีกำไร 105 ล้านบาทสูงกว่ากำไรทั้งปี 2553 ที่ 79 ล้านบาท
นายชัยฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ในฐานะที่ซัสโก้เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน ดังนั้นบริษัทฯไม่ได้ปิดโอกาสที่จะรุกธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลต่างๆ ยอมรับว่าที่ผ่านมา ก็มีนักลงทุนหลายรายเจรจาเรื่องดังกล่าวอยู่ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ
ทั้งนี้คงต้องรอนโยบายรัฐในการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มเติมก่อน โดยบริษัทฯสนใจลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด5-6 เมกะวัตต์ โดยจะยื่นขอใบอนุญาตการขายไฟฟ้าทันทีหากมีการเปิดรับซื้อไฟฟ้าแสงอาทิตย์รอบใหม่ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังลมและชีวมวลนั้นบริษัทฯยังไม่สนใจลงทุน
ส่วนการรุกธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 2558 นั้น บริษัทฯมองว่ายังมีความเสี่ยงในการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอยู่ แม้ว่ายอดการใช้น้ำมันในประเทศเหล่านี้จะขยายตัวในอัตราที่สูงก็ตาม แต่บริษัทฯยังเน้นการเป็นผู้ส่งออกน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ลาวและกัมพูชาเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ปิโอกาสการโตในธุรกิจนี้ หากมีพันธมิตรท้องถิ่นชักชวนก็พร้อมที่จะศึกษาความเป็นไปได้เพื่อลงทุนต่อไปในอนาคต
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน )(SUSCO) เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้อยู่ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6-7 % และกำไรสุทธิจะเติบโตในสัดส่วนใกล้เคียงรายได้ โดยจะเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิม เพิ่มยอดขายน้ำมันสำเร็จรูปในสถานีบริการซัสโก้และส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสถานีบริการน้ำมันในต่างจังหวัดโดยเฉพาะภาคใต้อีก 4-5 แห่งจากปัจจุบันที่สถานีบริการน้ำมันอยู่ 145 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งการเพิ่มสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV)อีก7-8 แห่ง แต่ทั้งนี้คงขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐและปตท.ด้วย คงต้องรอความชัดเจนในเรื่องนี้อีก 2-3 เดือนข้างหน้าว่ารัฐยังคงนโยบายที่จะให้มีการปรับขึ้นราคาNGVเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปตท.ยังชะลอให้คู่ค้าขยายสถานีบริการNGV เพิ่มเติมอยู่
นอกจากนี้ บริษัทฯมีนโยบายจะปรับปรุงภาพลักษณ์ปั๊มน้ำมันซัสโก้ให้ดูสดใส สว่างขึ้นทุกปั๊มภายใน 4-5ปีนี้ โดยปีนี้จะใช้เงินลงทุน 40-50 ล้านบาทเพื่อรีโนเวทปั๊มซัสโก้จำนวน 20-30 แห่งทั่วประเทศ คาดว่าจะเริ่มเห็นรูปโฉมปั๊มใหม่ได้ในช่วงไตรมาส 2 นี้ เพื่อกระตุ้นยอดขายน้ำมัน ที่ปัจจุบันปั๊มซัสโก้มียอดขายเฉลี่ย1 แสนกว่าลิตรต่อเดือนต่อแห่ง
สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2554 เป็นไปตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ โดยมีรายได้จากการขายรวม 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเดิมบริษัทฯคาดว่ารายได้จะปรับลดลงเหลือเพียง 1.2-1.3 หมื่นล้านบาทจากผลกระทบน้ำท่วมทำให้ยอดการขายน้ำมันหดตัวลง แต่ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมายอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการเพิ่มสูงขึ้นทำให้ชดเชยยอดขายที่หายไปก่อนหน้านี้ได้ ขณะที่กำไรสุทธิปี 2554 ถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯมาเมื่อปี 2521 โดยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2554 บริษัทฯมีกำไร 105 ล้านบาทสูงกว่ากำไรทั้งปี 2553 ที่ 79 ล้านบาท
นายชัยฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ในฐานะที่ซัสโก้เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน ดังนั้นบริษัทฯไม่ได้ปิดโอกาสที่จะรุกธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลต่างๆ ยอมรับว่าที่ผ่านมา ก็มีนักลงทุนหลายรายเจรจาเรื่องดังกล่าวอยู่ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ
ทั้งนี้คงต้องรอนโยบายรัฐในการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มเติมก่อน โดยบริษัทฯสนใจลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด5-6 เมกะวัตต์ โดยจะยื่นขอใบอนุญาตการขายไฟฟ้าทันทีหากมีการเปิดรับซื้อไฟฟ้าแสงอาทิตย์รอบใหม่ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังลมและชีวมวลนั้นบริษัทฯยังไม่สนใจลงทุน
ส่วนการรุกธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 2558 นั้น บริษัทฯมองว่ายังมีความเสี่ยงในการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอยู่ แม้ว่ายอดการใช้น้ำมันในประเทศเหล่านี้จะขยายตัวในอัตราที่สูงก็ตาม แต่บริษัทฯยังเน้นการเป็นผู้ส่งออกน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ลาวและกัมพูชาเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ปิโอกาสการโตในธุรกิจนี้ หากมีพันธมิตรท้องถิ่นชักชวนก็พร้อมที่จะศึกษาความเป็นไปได้เพื่อลงทุนต่อไปในอนาคต