ASTVผู้จัดการรายวัน- "เหมราชฯ" ไล่จีบนักลงทุนโซนน้ำท่วมย้ายฐานการลงทุนเข้านิคมเหมราชฯ พร้อมตั้งงบลงทุน 7,000 ล้านบาท พัฒนาที่ดิน-ลงทุนโรงไฟฟ้า-สร้างโรงงงาน เล็งผุดคอนโดฯเพิ่ม ส่วนโครงการทาวน์โฮม พระราม 3 เลื่อนไปเปิดไตรมาส 2 รอดูมาตรการภาครัฐบริหารจัดการน้ำ ระบุปี 55 ตั้งเป้ารายได้โต 40%
นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ HEMRAJ กล่าวถึงแผนการลงทุนในปี 55 ว่า ได้ตั้งงบลงทุน จำนวน 7,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มี 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบใช้พัฒนาที่ดินนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 2,000 ล้านบาท ลงทุนโรงไฟฟ้า 1,500 ล้านบาท ลงทุนสร้างโรงงานสำเร็จรูปและโครงการโลจิสติกส์ พาร์ค 1,500 ล้านบาท และกันเงินไว้ซื้อที่ดินอีก 2,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเติมอีก ส่วนโครงการทาวน์โฮม ย่านพระราม 3 คงต้องเลื่อนออกไปในช่วง 2 ปีนี้ เพราะต้องการรอดูแผนป้องกันน้ำท่วมจากรัฐบาลเสียก่อน
"ทางเหมราชฯ ได้มีการเจรจากับนักลงทุนที่ต้องการจะย้ายจากนิคมอุตสาหกรรมที่ประสบภัยน้ำท่วมเข้ามายังนิคมฯของเรา ซึ่งการลงทุนของญี่ปุ่นยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากครึ่งหลังปี 54 โดยเฉพาะญี่ปุ่นมองไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่คาดว่าจะมีการผลิตไปถึง 2.5-3.0 ล้านคัน ในอีก 5 ปีข้างหน้า น่าจะทำให้ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมยังเติบโตต่อเนื่อง"
สำหรับเป้าหมายรายได้ในปี 55 คาดว่าจะเติบโต 40% จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทมียอดค้างการโอนที่ดินที่จะยกยอดมาในปีนี้กว่า 900 ไร่ มีมูลค่า 2,000 ล้านบาท ขณะที่คาดการณ์ว่าจะมียอดขายที่ดินใหม่เพิ่ม 1,500 ไร่ จากปีก่อนที่มียอดขาย 1,670 ไร่ ทั้งนี้ในเดือนม.ค.55 ได้ปรับขึ้นราคาขายแล้วราว 5-10%
ประกอบกับ รายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคในปีนี้น่าจะเติบโตราว 20% ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทมีการลงทุนด้านพลังงานต่อเนื่อง ทั้งโรงไฟฟ้า Gheco-One กำลังการผลิต 660 MW มูลค่าโครงการ 40,000 ล้านบาท จะเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าในเดือน เม.ย.55 และโรงไฟฟ้า SPP ระบบโคเจนเนเรชั่นอีก 7 โครงการในนิคมอุตสาหกรรม 4 แห่งที่เริ่มทยอยเปิดดำเนินการในปี 2556-59
รวมทั้งยังมีโครงการบริษัท โกลว์ เหมราช วินด์ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการลงทุนด้านพลัง งานทดแทน พร้อมคาดว่าในช่วง 5 ปีเริ่มปี 57 สัดส่วนรายได้จากสาธารณูปโภคจะปรับสัดส่วนเป็น 40% จาก 35% จากการรับรู้โรงไฟฟ้าที่เริ่มในปีนี้
นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ HEMRAJ กล่าวถึงแผนการลงทุนในปี 55 ว่า ได้ตั้งงบลงทุน จำนวน 7,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มี 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบใช้พัฒนาที่ดินนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 2,000 ล้านบาท ลงทุนโรงไฟฟ้า 1,500 ล้านบาท ลงทุนสร้างโรงงานสำเร็จรูปและโครงการโลจิสติกส์ พาร์ค 1,500 ล้านบาท และกันเงินไว้ซื้อที่ดินอีก 2,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเติมอีก ส่วนโครงการทาวน์โฮม ย่านพระราม 3 คงต้องเลื่อนออกไปในช่วง 2 ปีนี้ เพราะต้องการรอดูแผนป้องกันน้ำท่วมจากรัฐบาลเสียก่อน
"ทางเหมราชฯ ได้มีการเจรจากับนักลงทุนที่ต้องการจะย้ายจากนิคมอุตสาหกรรมที่ประสบภัยน้ำท่วมเข้ามายังนิคมฯของเรา ซึ่งการลงทุนของญี่ปุ่นยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากครึ่งหลังปี 54 โดยเฉพาะญี่ปุ่นมองไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่คาดว่าจะมีการผลิตไปถึง 2.5-3.0 ล้านคัน ในอีก 5 ปีข้างหน้า น่าจะทำให้ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมยังเติบโตต่อเนื่อง"
สำหรับเป้าหมายรายได้ในปี 55 คาดว่าจะเติบโต 40% จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทมียอดค้างการโอนที่ดินที่จะยกยอดมาในปีนี้กว่า 900 ไร่ มีมูลค่า 2,000 ล้านบาท ขณะที่คาดการณ์ว่าจะมียอดขายที่ดินใหม่เพิ่ม 1,500 ไร่ จากปีก่อนที่มียอดขาย 1,670 ไร่ ทั้งนี้ในเดือนม.ค.55 ได้ปรับขึ้นราคาขายแล้วราว 5-10%
ประกอบกับ รายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคในปีนี้น่าจะเติบโตราว 20% ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทมีการลงทุนด้านพลังงานต่อเนื่อง ทั้งโรงไฟฟ้า Gheco-One กำลังการผลิต 660 MW มูลค่าโครงการ 40,000 ล้านบาท จะเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าในเดือน เม.ย.55 และโรงไฟฟ้า SPP ระบบโคเจนเนเรชั่นอีก 7 โครงการในนิคมอุตสาหกรรม 4 แห่งที่เริ่มทยอยเปิดดำเนินการในปี 2556-59
รวมทั้งยังมีโครงการบริษัท โกลว์ เหมราช วินด์ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการลงทุนด้านพลัง งานทดแทน พร้อมคาดว่าในช่วง 5 ปีเริ่มปี 57 สัดส่วนรายได้จากสาธารณูปโภคจะปรับสัดส่วนเป็น 40% จาก 35% จากการรับรู้โรงไฟฟ้าที่เริ่มในปีนี้
