พูดกันไปสนั่นทั่วแผงจตุจักร หลังการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่ดูแลโดย “ขวัญใจคนเสื้อแดง”พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคมว่า
กำลังมีการชุลมุนกันไปทั่วในการกลุ่มผู้ค้าจตุจักร เกี่ยวกับเรื่องการจัดสรรผลประโยชน์ใหม่ในขายสินค้าในตลาดนัดจตุจักร ที่เป็นแหล่งผลประโยชน์ใหญ่ ล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้มาดูแลหลังยึดคืนมาจากกรุงเทพมหานคร
เดิมทีก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรที่เรียกตัวเองว่า “สหกรณ์ผู้ค้าจตุจักร”ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อพล.ต.ท.ชัชจ์ถึงกระทรวงคมนาคมเมื่อ 18 มกราคม โดยระบุในหนังสือว่ากลุ่มผู้ค้าจตุจักรพลาซ่าถูกบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ได้รับสิทธิสัญญาเช่าที่ดินของร.ฟ.ท.เรียกเก็บอัตราเช่าโดยไม่เป็นธรรม และเรียกเก็บ “เงินใต้โต๊ะ”นอกจากค่าเช่า
จึงมีการยื่นเรื่องให้สอบผู้บริหารร.ฟ.ท.ที่ปล่อยให้บริษัทดังกล่าวทำสัญญาเช่ากับผู้ค้าเหลื่อมเวลา 2 เดือน คือบริษัทหมดสัญญาเช่ากับร.ฟ.ท.วันที่18 ตุลาคม 2554 แต่ทำสัญญาเช่ากับผู้ค้าถึงเดือนธันวาคม 2554 อีกทั้งมีการต่อสัญญาเช่าออกไปอีก 10 ปี ตั้งแต่ 19 ตุลาคม 2554 ถึง 18 ตุลาคม 2664 โดยไม่เปิดโอกาสให้เอกชนรายอื่น หรือสหกรณ์เข้าร่วมประกวดราคา
ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีหลายฝ่าย เช่นสหกรณ์ดังกล่าวยื่นข้อเสนอไปยังร.ฟ.ท.เพื่อทำสัญญาเช่าโดยตรง เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อน แต่ร.ฟ.ท.ไม่รับลูก แล้วกลับไปต่อสัญญากับบริษัทเอกชนดังกล่าว
ต่อมาเอกชนก็มาบอกว่า หากผู้ค้ารายไหนจะขายต่อไปในตลาดจตุจักรพลาซ่า ต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะแผงละ 1.2-1.5 แสนบาทโดยอ้างว่าเป็นค่าจองสิทธิพื้นที่ห้องคืนและไม่มีสิทธิเข้ามาทำการค้าอีกต่อไป ส่วนผู้ค้าที่จะจองสิทธิแล้วยังต้องจ่ายเงินค่าทำสัญญาอีกห้องละ 5 หมื่นบาท
ทำให้กลุ่มผู้ค้าที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มสหกรณ์ผู้ค้าจตุจักรพลาซ่า เดือดร้อนร่วม 100 ห้อง จึงร้องเรียนดังกล่าวไปถึง “เฮียชัชจ์” รมช.คมนาคม ของคนเสื้อแดง ที่ก็ไม่ผิดหวังเพราะ “เฮียชัชจ์” ก็เด้งรับบอกจะตั้งกรรมการสอบสวนให้หมด ใครผิดต้องโดนเล่นงาน
แต่อย่าไปหวังอะไรมากเลย ก็พูดกันไปแบบนั้นแหละ
เรื่องผลประโยชน์ในตลาดนัดจตุจักรและพื้นที่โดยรอบทั้งหมด ที่มีผลประโยชน์หลายร้อยล้านบาทต่อปี จนทำให้มีทั้งนักการเมือง-คนมีสี มีเงินเข้ากระเป๋าต่อปีจำนวนมาก เชื่อว่าถึงป่านนี้พวกบิ๊กทั้งหลายย่านเสาชิงช้าในซีกประชาธิปัตย์ คงบ่นอุบกันเป็นแถว ที่โดนฝ่ายเพื่อไทยแย่งหม้อข้าวชามใหญ่ไป
ผลประโยชน์ส่วนนี้ จึงทำให้เกิดพวก “เสธนอกรีต-ทหารนอกแถว”ที่ไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในแผงค้าจตุจักร โดยมีการแบ่งพื้นที่แยกโซนหากินกันเป็นล่ำเป็นสัน เป็นเขตอิทธิพลต่างฝ่ายต่างห้ามข้ามโซนมา ไม่งั้นมีเรื่อง
จึงเป็นที่มาของข่าวที่บอกไว้ตอนต้นว่า ตอนนี้ พวก “เครือข่ายคนเสื้อแดง”สายกรุงเทพมหานครและใกล้เคียงทั้งนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ อยุธยาฯ ต่างก็อยากเข้าไปมีส่วนในการจัดสรรประโยชน์-แบ่งพื้นที่แผงขายของในตลาดจตุจักร
คือมีทั้งพวกเสื้อแดงรากหญ้าที่อยากค้าขายมีรายได้มีแผงของตัวเองในจตุจักร ไปจนถึงพวกระดับแกนนำในแต่ละพื้นที่อำเภอ ซึ่งก็อยากได้แผงขายของเหมือนกันคืออาจไว้ขายเอง เอาไปเซ้ง หรือเอาไปให้พรรคพวกแล้วเก็บผลประโยชน์อีกที
ผลก็คือทำให้คนพวกนี้ พยายามวิ่งเข้าหาแกนนำเสื้อแดงทั้งสายส.ส.และสายนปช. บางส่วนเพื่อเชื่อมต่อไปให้ถึง ผู้มีอำนาจตัดสินใจในพรรคเพื่อไทยเพื่อให้เชื่อมต่อไปยังคนในกระทรวงคมนาคม จากนั้นก็เชื่อมต่อไปยังร.ฟ.ท.
เชื่อมกันเป็นท่อ ๆ จากนายก. ไปถึงนาย ข. แล้วผ่านไปยังนาย ค.แต่จะได้หรือไม่ แล้วต้องดูแลตอบแทนให้เป็นค่าสินน้ำใจหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด บางรายหากขอพื้นที่ซึ่งไม่ใช่ทำเลทองก็อาจได้ง่ายหน่อย มีความหวัง
เหตุที่เข้าไปฮุบไม่ค่อยสะดวก เพราะการจะเข้าไปรื้อแผงจตุจักรแล้วจัดสรรกันใหม่ทั้งหมด ทำไม่ได้มาก เพราะผู้ค้ารายเดิมก็ไม่ยอม ขืนไปแตะได้มีม็อบประท้วงแน่นอน
กำลังมีการชุลมุนกันไปทั่วในการกลุ่มผู้ค้าจตุจักร เกี่ยวกับเรื่องการจัดสรรผลประโยชน์ใหม่ในขายสินค้าในตลาดนัดจตุจักร ที่เป็นแหล่งผลประโยชน์ใหญ่ ล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้มาดูแลหลังยึดคืนมาจากกรุงเทพมหานคร
เดิมทีก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรที่เรียกตัวเองว่า “สหกรณ์ผู้ค้าจตุจักร”ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อพล.ต.ท.ชัชจ์ถึงกระทรวงคมนาคมเมื่อ 18 มกราคม โดยระบุในหนังสือว่ากลุ่มผู้ค้าจตุจักรพลาซ่าถูกบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ได้รับสิทธิสัญญาเช่าที่ดินของร.ฟ.ท.เรียกเก็บอัตราเช่าโดยไม่เป็นธรรม และเรียกเก็บ “เงินใต้โต๊ะ”นอกจากค่าเช่า
จึงมีการยื่นเรื่องให้สอบผู้บริหารร.ฟ.ท.ที่ปล่อยให้บริษัทดังกล่าวทำสัญญาเช่ากับผู้ค้าเหลื่อมเวลา 2 เดือน คือบริษัทหมดสัญญาเช่ากับร.ฟ.ท.วันที่18 ตุลาคม 2554 แต่ทำสัญญาเช่ากับผู้ค้าถึงเดือนธันวาคม 2554 อีกทั้งมีการต่อสัญญาเช่าออกไปอีก 10 ปี ตั้งแต่ 19 ตุลาคม 2554 ถึง 18 ตุลาคม 2664 โดยไม่เปิดโอกาสให้เอกชนรายอื่น หรือสหกรณ์เข้าร่วมประกวดราคา
ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีหลายฝ่าย เช่นสหกรณ์ดังกล่าวยื่นข้อเสนอไปยังร.ฟ.ท.เพื่อทำสัญญาเช่าโดยตรง เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อน แต่ร.ฟ.ท.ไม่รับลูก แล้วกลับไปต่อสัญญากับบริษัทเอกชนดังกล่าว
ต่อมาเอกชนก็มาบอกว่า หากผู้ค้ารายไหนจะขายต่อไปในตลาดจตุจักรพลาซ่า ต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะแผงละ 1.2-1.5 แสนบาทโดยอ้างว่าเป็นค่าจองสิทธิพื้นที่ห้องคืนและไม่มีสิทธิเข้ามาทำการค้าอีกต่อไป ส่วนผู้ค้าที่จะจองสิทธิแล้วยังต้องจ่ายเงินค่าทำสัญญาอีกห้องละ 5 หมื่นบาท
ทำให้กลุ่มผู้ค้าที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มสหกรณ์ผู้ค้าจตุจักรพลาซ่า เดือดร้อนร่วม 100 ห้อง จึงร้องเรียนดังกล่าวไปถึง “เฮียชัชจ์” รมช.คมนาคม ของคนเสื้อแดง ที่ก็ไม่ผิดหวังเพราะ “เฮียชัชจ์” ก็เด้งรับบอกจะตั้งกรรมการสอบสวนให้หมด ใครผิดต้องโดนเล่นงาน
แต่อย่าไปหวังอะไรมากเลย ก็พูดกันไปแบบนั้นแหละ
เรื่องผลประโยชน์ในตลาดนัดจตุจักรและพื้นที่โดยรอบทั้งหมด ที่มีผลประโยชน์หลายร้อยล้านบาทต่อปี จนทำให้มีทั้งนักการเมือง-คนมีสี มีเงินเข้ากระเป๋าต่อปีจำนวนมาก เชื่อว่าถึงป่านนี้พวกบิ๊กทั้งหลายย่านเสาชิงช้าในซีกประชาธิปัตย์ คงบ่นอุบกันเป็นแถว ที่โดนฝ่ายเพื่อไทยแย่งหม้อข้าวชามใหญ่ไป
ผลประโยชน์ส่วนนี้ จึงทำให้เกิดพวก “เสธนอกรีต-ทหารนอกแถว”ที่ไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในแผงค้าจตุจักร โดยมีการแบ่งพื้นที่แยกโซนหากินกันเป็นล่ำเป็นสัน เป็นเขตอิทธิพลต่างฝ่ายต่างห้ามข้ามโซนมา ไม่งั้นมีเรื่อง
จึงเป็นที่มาของข่าวที่บอกไว้ตอนต้นว่า ตอนนี้ พวก “เครือข่ายคนเสื้อแดง”สายกรุงเทพมหานครและใกล้เคียงทั้งนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ อยุธยาฯ ต่างก็อยากเข้าไปมีส่วนในการจัดสรรประโยชน์-แบ่งพื้นที่แผงขายของในตลาดจตุจักร
คือมีทั้งพวกเสื้อแดงรากหญ้าที่อยากค้าขายมีรายได้มีแผงของตัวเองในจตุจักร ไปจนถึงพวกระดับแกนนำในแต่ละพื้นที่อำเภอ ซึ่งก็อยากได้แผงขายของเหมือนกันคืออาจไว้ขายเอง เอาไปเซ้ง หรือเอาไปให้พรรคพวกแล้วเก็บผลประโยชน์อีกที
ผลก็คือทำให้คนพวกนี้ พยายามวิ่งเข้าหาแกนนำเสื้อแดงทั้งสายส.ส.และสายนปช. บางส่วนเพื่อเชื่อมต่อไปให้ถึง ผู้มีอำนาจตัดสินใจในพรรคเพื่อไทยเพื่อให้เชื่อมต่อไปยังคนในกระทรวงคมนาคม จากนั้นก็เชื่อมต่อไปยังร.ฟ.ท.
เชื่อมกันเป็นท่อ ๆ จากนายก. ไปถึงนาย ข. แล้วผ่านไปยังนาย ค.แต่จะได้หรือไม่ แล้วต้องดูแลตอบแทนให้เป็นค่าสินน้ำใจหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด บางรายหากขอพื้นที่ซึ่งไม่ใช่ทำเลทองก็อาจได้ง่ายหน่อย มีความหวัง
เหตุที่เข้าไปฮุบไม่ค่อยสะดวก เพราะการจะเข้าไปรื้อแผงจตุจักรแล้วจัดสรรกันใหม่ทั้งหมด ทำไม่ได้มาก เพราะผู้ค้ารายเดิมก็ไม่ยอม ขืนไปแตะได้มีม็อบประท้วงแน่นอน
