“ชัจจ์” ตีมึนไม่รู้ลูกน้องที่ส่งไปแปลงกายเป็นมาเฟียจตุจักร ขอตรวจสอบก่อนอ้างกลัวถูกใส่ร้าย บอกที่ส่งเข้าไปเพื่อหาข่าวและดูแลความเรียบร้อย โวไม่ยอมให้กลุ่มไหนเข้าไปหาผลประโยชน์ ยันไม่จำเป็นต้องขึ้นค่าเช่าผู้ค้า เพื่อ ร.ฟ.ท.มีรายได้ 420 ล. เหตุเป้ารายได้เบี่ยงแบนได้ ย้ำไม่ใช้รูปแบบสัมปทาน เพราะผู้ค้ารังเกียจหวั่นทำค่าเช่าแพง
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิรก รมช.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่พบกลุ่มมาเฟีย 3 กลุ่มหาผลประโยชน์ที่แฝงตัวอยู่ในตลาดนัดจตุจักรเข้าไปกว้านซื้อสัญญาเช่าแผงจำหน่ายสินค้าในตลาด แล้วนำมาจัดสรรให้พ่อค้าและแม่ค้าเช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าต่อ โดยเก็บอัตราค่าเช่าตั้งแต่แผงละ 1.5-3 หมื่นบาทว่า ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ ไม่มีปัญหา แก้ได้ กำลังเช็กข้อมูลอยู่ว่าจริงไม่จริง ถ้าจริงคือใคร แก้ไม่ยาก ตรวจสอบไม่ยาก เดี๋ยวคงจะเรียบร้อย บ่ายนี้หลังประชุมคณะรัฐมนตรีก็ทราบแล้ว มี พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลอยู่แล้ว และกำลังตำรวจ สงสัยเด็กที่ส่งเข้าไปดูหรือเปล่า ซึ่งจะไปเช็กดูว่าเขาถูกใส่ร้ายหรือทำจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ส่งคนเข้าไปดูเพื่ออะไร พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ไปหาข่าว ตั้งแต่เริ่มแรก เพราะมีข่าวว่าจะเกิดความไม่สงบเรียบร้อยในช่วงที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจะเข้าไปดูแลตลาดนัดจตุจักรแทนกรุงเทพมหานคร ก็ช่วยหาข่าว ส่งไปดูแลความสงบเรียบร้อยดูว่ามีใครคิดจะทำอะไร เพราะแม่ค้าเขากลัวว่าจะถูกเผา ถูกลักของ ตนก็ให้เข้าไปตระเวนดูหาข่าว นอกเหนือจากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอยู่แล้ว คนที่ใช้ไปกว้างขวางอาศัยที่รู้จักคนในตลาดนัดจตุจักรจะได้ผลเร็วกว่า ซึ่งมีการรายงานข้อมูลกลับมาตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเวลานี้เรื่องของตลาดนัดจตุจักรก็เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ว่า ตั้งคณะกรรมการเจรจาเข้าไปรื้อถอนเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเด็กของท่านไปทำนอกเหนือคำสั่ง หรือเข้าไปหาผลประโยชน์จะจัดการอย่างไร พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ตนมีวิธีจัดการ ดูว่าจริงไม่จริง ถ้าจริงก็ไล่ออกไป เมื่อถามต่อว่าจะมีการแอบแฝงใช้อำนาจของท่านไปหาผลประโยชน์หรือไม่ พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ตนกลัวมากเลย เพราะเราทำงานเรียบร้อยมาด้วยดี จะจบแล้ว เมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้รู้สึกไม่ค่อยดี
ต่อข้อถามว่า อย่างนี้ต้องระมัดระวังการใช้คนมากขึ้นหรือไม่ รมช.คมนาคมกล่าวว่า ถูก ตนก็รู้ว่าเป็นดาบสองคม แต่ก็จำเป็นต้องใช้ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย เพื่อให้ทุกอย่างลงเอ่ยเรียบร้อย จะได้สบายใจ
ส่วนจะให้ความมั่นใจต่อสาธารณชนอย่างไรว่า จะไม่มีกลุ่มไหนเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ภายใต้การดูแลของตนจะไม่มีมาเฟียแน่ ตนไม่ยอม
ส่วนจะทำให้ตลาดนัดจตุจักรภายใต้การดูแลของ ร.ฟ.ท.ทำรายได้ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ขณะนี้มีการดำเนินการไปถึงไหนแล้วนั้น พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า กำลังเจรจากันอยู่ระหว่าง ร.ฟ.ท.กับผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักร หาตัวเลข ซึ่งยังไม่ได้ตกลงเรื่องราคา ขณะที่ช่วงเช้าของวันที่ 3 ม.ค.ก็มีการประชุมระหว่าง ร.ฟ.ท.กับผู้ค้าถึง 4 ครั้งแล้ว พูดแต่เรื่องจัดระเบียบอย่างไร วางแผงอย่างไร ซึ่งตนยังไม่ทราบรายละเอียดนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจะทำให้รายได้ถึง 400 ล้านบาทที่ ร.ฟ.ท.วางไว้ จะต้องมีการขึ้นราคาในส่วนของสัญญาที่ทำไว้กับผู้ค้าหรือไม่ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ก็คงไม่จำเป็น เพราะตลาดไม่ได้ส่งมอบตามเกณฑ์ปกติ เพราะมีการยุยง มันไม่สงบเกิดขึ้น การจะเข้าไปเป้าหมายเบี่ยงแบนไปบ้าง ยอดเงินที่จะได้ 420 ล้านบาทต่อปีนั้น ฝั่งตนก็ให้นโยบายไปว่า เบี่ยงแบนไปบ้างไม่เป็นไร แต่ทั้งนี้ผู้ค้า ผู้ที่มาจับจ่ายไม่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้นก่อน ค่อยทำความเข้าใจกัน ปรับราคากันพอสมควร ตามความเป็นธรรม และไม่ได้มีเพดานว่าต้องเบี่ยงแบนไปที่เท่าไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่มีปรับรายให้ได้ตามที่ ร.ฟ.ท.วางเป้าไว้ รายได้ไม่ได้แตกต่างจากที่ กทม.บริหาร ถ้าอย่างนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรระหว่าง กทม.บริหารกับ ร.ฟ.ท.บริหาร พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงเท่าที่เห็น ร.ฟ.ท.ประชุมวางแผน ความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยจะดีขึ้น มีการซ่อมแซมถนนหนทาง และจะมีการจัดสถานที่ให้กับคนพิการมาขาย ยังมีอีกหลายอย่างที่ ร.ฟ.ท.มีโครงการ
เมื่อถามว่า เมื่อรายได้ไม่เป็นไปตามที่ ร.ฟ.ท.อ้างในการเข้ามาดำเนินการเอง หวั่นหรือไม่ว่า กทม.จะอ้างว่าที่เรียกคืนไปเป็นเพราะประเด็นทางการเมือง รมช.คมนาคมกล่าวว่า จริงๆ แล้วรายได้ไม่ใช่เรื่องหลัก แต่เรื่องหลักคือสัญญาสิ้นสุดลง ไม่มีใครดูแลทรัพย์สิน ร.ฟ.ท.68 ไร่เศษตรงนี้ ซึ่งเป็นตลาดอยู่ จะเลิกก็ไม่ได้ ไล่แม่ค้าก็ไม่ได้ ร.ฟ.ท.จำเป็นต้องเข้าไปดูแล ถ้าสมุมติว่า คนมาเช่าให้น้อยไป ร.ฟ.ท.ไม่พอใจ แล้ว ร.ฟ.ท.จะทำอย่างไร เพราะ ร.ฟ.ท.มีพระราชบัญญัติรถไฟ ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติรถไฟ เจ้าหน้าที่รถไฟจะไม่ดูแลไม่ได้ ตัวเงินที่ยืนเสนอต่อรองกับ กทม. ก็เป็นตัวเงินที่ทางบริษัทที่ตั้งเข้าไปศึกษาประเมินไว้ แต่เมื่อเหตุการณ์เปลี่ยนไป ไม่ได้เป็นไปตามรูปแบบสงบเรียบร้อย การเข้าไปบริหารก็ยุ่งยาก ตอนนี้ก็ใจเย็น ซึ่งต่อไปเรียบร้อยแน่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการตัดสินใจที่จะให้บริษัทเอกชนเข้ามาดูแลแล้วหรือยัง รมช.คมนาคมกล่าวว่า สัมปทานคงไม่ให้ เพราะเป็นที่รังเกียจของผู้ค้า ซึ่งผู้ค้ากลัวว่าจะคิดค่าเช่าแผงแพง และก็เดือดร้อนผู้ค้า เมื่อถามว่า กฎหมายเปิดช่องให้ผู้ค้าเข้ามาบริหารงานเองได้ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ได้ ตนดูด้วยตัวเอง อ่านกฎหมายรู้เรื่องไม่มีปัญหา