ASTVผู้จัดการรายวัน-“ชัจจ์”สั่งบอร์ดร.ฟ.ท.สรุปค่าเช่าตลาดนัดจตุจักร 22 ธ.ค. เตรียมรายงานครม.สัปดาห์หน้า ยันร.ฟ.ท.พร้อมบริหารเอง ฟุ้งทำเอง กำไรตั้งแต่ปีแรก ตั้งงบ 50 ล้านบาท เป็นค่าบริหารจัดการก่อนตั้งบริษัทลูก ยันไม่คุยมท.1 ชี้หากกทม.กีดขวางการเข้าพื้นที่ 2 ม.ค.55 เป็นหน้าที่ตำรวจ เตรียมลุยยกเครื่องฝ่ายทรัพย์สินใหม่ เหตุงานมีปัญหาปล่อยมาเฟียคุมที่ดิน ทำรายได้รั่วไหล
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ถึงความคืบหน้าการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรวานนี้ (20 ธ.ค.) ว่า ร.ฟ.ท.ได้ยืนยันความพร้อมในการเข้าบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรในวันที่ 2 ม.ค.2555 หลังจากสัญญาเช่าพื้นที่ระหว่างร.ฟ.ท.กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) สิ้นสุด
พร้อมกันนี้ จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ตั้งแต่ความเป็นมาของโครงการและแผนการดำเนินงานของร.ฟ.ท.ที่จะเป็นผู้บริหารจัดการตลาดเอง ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในการประชุมสัปดาห์หน้า
สำหรับอัตราค่าเช่าที่เหมาะสม ได้ให้ผู้บริหารร.ฟ.ท.สรุปเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. พิจารณาในการประชุมวันที่ 22 ธ.ค.นี้ เพื่อกำหนดอัตราที่เหมาะสม โดยเบื้องต้นทางผู้ประกอบการได้เสนออัตราค่าเช่าใหม่มายัง ร.ฟ.ท.แล้ว ที่ราคา 2,800 บาทต่อเดือน และค่าบริหารจัดการต่างๆ เช่น การจัดเก็บขยะ รักษาความปลอดภัย อีก 700 บาท รวมเป็น 3,500 บาทต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าปัจจุบันที่มีการสำรวจพบว่า ค่าเช่าช่วงต่อราคา 11,000-20,000 บาทต่อเดือน
“ในวันที่ 23 ธ.ค. ผมจะเดินทางไปที่ร.ฟ.ท.เพื่อรับฟังข้อสรุปทั้งหมดอีกครั้ง พร้อมกันนี้ จะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปปฎิบัติงานในตลาดนัดจตุจักร ทั้งฝ่ายจัดเก็บค่าเช่า ฝ่ายดูแลความปลอดภัย ฝ่ายรักษาความสะอาด งานจราจร ส่วนการจัดตั้งบริษัทลูกอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ โดยมีเจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท.เป็นกรรมการด้วย ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่มีบริษัทลูก ร.ฟ.ท.จะต้องว่าจ้างบริษัทที่มีความชำนาญเข้ามาช่วย ทั้งเรื่องการจัดเก็บค่าเช่า การรักษาความปลอดภัย รวมถึงประสานกับกทม.ในการจัดเก็บขยะ ซึ่งหากกทม.ไม่ไหว ก็อาจจะจ้างเอกชนแทน โดยร.ฟ.ท.ได้ตั้งงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ และบริหารจัดการไว้เบื้องต้น 50 ล้านบาท”พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว
พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเดิม ได้ยื่นเอกสารเพื่อแจ้งความประสงค์ขอเช่าแผงค้ากับร.ฟ.ท.แล้ว ประมาณ 7,000 แผง (ประมาณ 4,000ราย) จากที่มีอยู่ทั้งหมด 8,805 แผง ยังเหลือประมาณ 1,800 แผง ที่ยังไม่ลงทะเบียน ซึ่งได้มีการขยายระยะเวลาในการยื่นเอกสารลงทะเบียนออกไปจนถึงวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.2554 จากนั้นจะหากมีแผงค้าเหลือ จะเปิดโอกาสให้ผู้ค้าอื่นๆ ที่สนใจเข้ามา
ทั้งนี้ มั่นใจว่าภายหลังจากที่ร.ฟ.ท.เข้าไปบริหารตลาดนัดจตุจักรเอง จะมีกำไรทันทีในปีแรกแน่นอน และจะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการเก็บรายได้เข้ารัฐ และไม่มีเรื่องที่ต้องลงทุนมากนัก และหลังจากนี้จะต้องมีการปรับปรุงการทำงานฝ่ายทรัพย์สินร.ฟ.ท. เนื่องจากมีอีกหลายแห่งที่ไม่เรียบร้อย รายได้รั่วไหลไม่เข้าร.ฟ.ท.ไปตกอยู่กับมาเฟีย เป็นต้น จึงต้องมีการตรวจสอบ เพื่อให้ทรัพย์สินของ ร.ฟ.ท.เกิดประโยชน์อย่างสมเหตุสมผล เช่น พื้นที่บริเวณมักกะสัน ใกล้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ และตลาดศาลน้ำร้อน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลังจาก ร.ฟ.ท.เข้าบริหารจัดการพื้นที่แล้ว ได้เตรียมแผนการพัฒนาตลาดนัดจตุจักรให้เป็นตลาดนัดแห่งอนาคต ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องห้องน้ำ ถนนคนเดิน ซึ่งอาจจะทำเป็นหลังคาในระดับสูงเพื่อไม่ต้องเดินตากแดดในลักษณะวอล์คกิ้ง สตรีท เหมือนในต่างประเทศ แต่ยังคงเอกลักษณ์การเป็นตลาดนัดสุดสัปดาห์ไว้เหมือนเดิม
ส่วนกรณีที่กทม.ระบุว่า มิสิทธิ์ในการเก็บผลประโยชน์ในตลาดนัดจตุจักอีก 6 เดือน ในช่วงที่ส่งคืนพื้นที่ จะเป็นอุปสรรคในการเข้าพื้นที่ของร.ฟ.ท.ในวันที่ 2 ม.ค.2555 หรือไม่นั้น พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า กทม.คงไม่มีสิทธิ์แล้ว หากมีการขัดขวางการเข้าพื้นที่ ทั้งที่เป็นสิทธิ์ของร.ฟ.ท. ก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะการขัดขวางเจ้าหน้าที่รัฐเป็นความผิดอาญา และเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องคุยกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแลกทม. เพราะหน้าที่ใครก็หน้าที่มัน การกระทำต้องเป็นไปตามสิทธิ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ร.ฟ.ท.ได้ทำหนังสือขอคืนพื้นที่และขอบัญชีรายชื่อผู้ค้าทั้งหมด แต่กทม.ก็ไม่ตอบกลับมาเลย
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ถึงความคืบหน้าการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรวานนี้ (20 ธ.ค.) ว่า ร.ฟ.ท.ได้ยืนยันความพร้อมในการเข้าบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรในวันที่ 2 ม.ค.2555 หลังจากสัญญาเช่าพื้นที่ระหว่างร.ฟ.ท.กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) สิ้นสุด
พร้อมกันนี้ จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ตั้งแต่ความเป็นมาของโครงการและแผนการดำเนินงานของร.ฟ.ท.ที่จะเป็นผู้บริหารจัดการตลาดเอง ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในการประชุมสัปดาห์หน้า
สำหรับอัตราค่าเช่าที่เหมาะสม ได้ให้ผู้บริหารร.ฟ.ท.สรุปเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. พิจารณาในการประชุมวันที่ 22 ธ.ค.นี้ เพื่อกำหนดอัตราที่เหมาะสม โดยเบื้องต้นทางผู้ประกอบการได้เสนออัตราค่าเช่าใหม่มายัง ร.ฟ.ท.แล้ว ที่ราคา 2,800 บาทต่อเดือน และค่าบริหารจัดการต่างๆ เช่น การจัดเก็บขยะ รักษาความปลอดภัย อีก 700 บาท รวมเป็น 3,500 บาทต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าปัจจุบันที่มีการสำรวจพบว่า ค่าเช่าช่วงต่อราคา 11,000-20,000 บาทต่อเดือน
“ในวันที่ 23 ธ.ค. ผมจะเดินทางไปที่ร.ฟ.ท.เพื่อรับฟังข้อสรุปทั้งหมดอีกครั้ง พร้อมกันนี้ จะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปปฎิบัติงานในตลาดนัดจตุจักร ทั้งฝ่ายจัดเก็บค่าเช่า ฝ่ายดูแลความปลอดภัย ฝ่ายรักษาความสะอาด งานจราจร ส่วนการจัดตั้งบริษัทลูกอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ โดยมีเจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท.เป็นกรรมการด้วย ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่มีบริษัทลูก ร.ฟ.ท.จะต้องว่าจ้างบริษัทที่มีความชำนาญเข้ามาช่วย ทั้งเรื่องการจัดเก็บค่าเช่า การรักษาความปลอดภัย รวมถึงประสานกับกทม.ในการจัดเก็บขยะ ซึ่งหากกทม.ไม่ไหว ก็อาจจะจ้างเอกชนแทน โดยร.ฟ.ท.ได้ตั้งงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ และบริหารจัดการไว้เบื้องต้น 50 ล้านบาท”พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว
พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเดิม ได้ยื่นเอกสารเพื่อแจ้งความประสงค์ขอเช่าแผงค้ากับร.ฟ.ท.แล้ว ประมาณ 7,000 แผง (ประมาณ 4,000ราย) จากที่มีอยู่ทั้งหมด 8,805 แผง ยังเหลือประมาณ 1,800 แผง ที่ยังไม่ลงทะเบียน ซึ่งได้มีการขยายระยะเวลาในการยื่นเอกสารลงทะเบียนออกไปจนถึงวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.2554 จากนั้นจะหากมีแผงค้าเหลือ จะเปิดโอกาสให้ผู้ค้าอื่นๆ ที่สนใจเข้ามา
ทั้งนี้ มั่นใจว่าภายหลังจากที่ร.ฟ.ท.เข้าไปบริหารตลาดนัดจตุจักรเอง จะมีกำไรทันทีในปีแรกแน่นอน และจะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการเก็บรายได้เข้ารัฐ และไม่มีเรื่องที่ต้องลงทุนมากนัก และหลังจากนี้จะต้องมีการปรับปรุงการทำงานฝ่ายทรัพย์สินร.ฟ.ท. เนื่องจากมีอีกหลายแห่งที่ไม่เรียบร้อย รายได้รั่วไหลไม่เข้าร.ฟ.ท.ไปตกอยู่กับมาเฟีย เป็นต้น จึงต้องมีการตรวจสอบ เพื่อให้ทรัพย์สินของ ร.ฟ.ท.เกิดประโยชน์อย่างสมเหตุสมผล เช่น พื้นที่บริเวณมักกะสัน ใกล้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ และตลาดศาลน้ำร้อน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลังจาก ร.ฟ.ท.เข้าบริหารจัดการพื้นที่แล้ว ได้เตรียมแผนการพัฒนาตลาดนัดจตุจักรให้เป็นตลาดนัดแห่งอนาคต ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องห้องน้ำ ถนนคนเดิน ซึ่งอาจจะทำเป็นหลังคาในระดับสูงเพื่อไม่ต้องเดินตากแดดในลักษณะวอล์คกิ้ง สตรีท เหมือนในต่างประเทศ แต่ยังคงเอกลักษณ์การเป็นตลาดนัดสุดสัปดาห์ไว้เหมือนเดิม
ส่วนกรณีที่กทม.ระบุว่า มิสิทธิ์ในการเก็บผลประโยชน์ในตลาดนัดจตุจักอีก 6 เดือน ในช่วงที่ส่งคืนพื้นที่ จะเป็นอุปสรรคในการเข้าพื้นที่ของร.ฟ.ท.ในวันที่ 2 ม.ค.2555 หรือไม่นั้น พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า กทม.คงไม่มีสิทธิ์แล้ว หากมีการขัดขวางการเข้าพื้นที่ ทั้งที่เป็นสิทธิ์ของร.ฟ.ท. ก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะการขัดขวางเจ้าหน้าที่รัฐเป็นความผิดอาญา และเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องคุยกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแลกทม. เพราะหน้าที่ใครก็หน้าที่มัน การกระทำต้องเป็นไปตามสิทธิ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ร.ฟ.ท.ได้ทำหนังสือขอคืนพื้นที่และขอบัญชีรายชื่อผู้ค้าทั้งหมด แต่กทม.ก็ไม่ตอบกลับมาเลย