ASTVผู้จัดการรายวัน-โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เร่งควานหารถยนต์คาร์บอมบ์ ที่คนร้ายเตรียมก่อเหตุร้ายในพื้นที่ไม่เฉพาะรถตู้บอมบ์ที่มีกระแสสออกมาเพียงอย่างเดียว ขณะที่ผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ถูกจับกุม ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพื้นที่ 3 จังหวัดใต้
วานนี้ (18 ม.ค.) ภายในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ในฐานะโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงการข่าวที่ออกมาแจ้งเตือนให้ย่านเศรษฐกิจ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระวัง รถตู้บอมบ์ ที่กลุ่มคนร้ายได้นำระเบิดซุกไว้เต็มคันรถเพื่อก่อเหตุร้ายในพื้นที่นั้น
มาตรการด้านการข่าว โดยเฉพาะงานด้านข่าวกรอง และการต่อต้านข่าวกรอง ของศูนย์ข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะมีการแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ ให้หน่วยกำลังที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เป็นระยะๆ บางช่วงก็จะให้มีการเพ่งเล็งรถจักรยานยนต์ บางช่วงอาจให้เพ่งเล็ง รถยนต์กระบะ หรือ รถยนต์เก๋ง ที่กลุ่มคนร้ายได้ซุกซ่อนวัตถุระเบิด เพื่อก่อเหตุร้าย ซึ่งในขณะนี้ การแจ้งเตือนข่าวสารให้มีความระมัดระวัง ว่าจะมีรถตู้ประกอบระเบิด หรือ รถตู้บอมบ์ เข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่ ก็จะทำให้หน่วยที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่มีความสนใจ กับยานพาหนะที่มีการแจ้งเตือนออกไป เป็นพิเศษโดยเฉพาะกรณี พื้นที่ที่เป็นย่านชุมชน หรือ พื้นที่ล่อแหลม เป็นจุดอ่อนแอ หรือ เป็นพื้นที่ที่หน่วยกำลังไม่ให้ความสำคัญ และมั่นใจว่าอาจจะไม่เกิดเหตุ ก็จะได้มีความกระตือรือร้น และให้ความสำคัญกับเรื่องต่างๆ เหล่านี้
ซึ่งการแจ้งเตือนเป็นมาตรการข่าวกรอง ทำให้งานข่าวแปรเป็นงานด้านยุทธการ และจะนำไปสู่การชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ชุดวิทยุเครื่องแดง หรือ กำลังภาคประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่ ก็จะตื่นตัวในเรื่องที่แจ้งเตือน เมื่อมีการพบเห็นยานพาหนะ หรือ บุคคลต้องสงสัย ก็จะเกิดความสนใจเป็นพิเศษ ก็จะทำให้เกิดกระบวนการ ทำลายความพยายามของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ได้ ซึ่งการทำลายความพยายามของผู้ก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่สามารถทำได้จำนวนมากครั้ง และทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์ เมื่อเกิดเหตุการณ์แสดงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงต้องมีความพยายามในการก่อเหตุไม่น้อยกว่า 10 - 15 ครั้ง จึงจะสามารถสร้างเหตุการณ์ร้ายได้สักครั้งหนึ่ง ก็เป็นลักษณ์เดียวกันกับการขนย้ายยาเสพติด ถ้าทางเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถทำลายความพยายามของผู้ค้ายาได้ ซึ่งก็อาจจะทำให้ผู้ค้ายามีความยากลำบาก หรือหมดหนทางในการค้ายาโดยปริยาย ซึ่งทางกองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กำลังเร่งขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่โดยเร็ว
จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ พร้อมของกลางจำนวนหนึ่ง ที่พยายามจะนำวัตถุระเบิดออกไปก่อเหตุร้ายในประเทศอื่นๆ ในพื้นที่ภาคกลางนั้น เมื่อมีการตรวจสอบแล้ว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีปรากฏหลักฐานยืนยัน ว่ามีความเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการก่อเหตุก็มีความแตกต่างกัน และกลุ่มก้อนของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังให้ต้องการเป็นข่าวแพร่กระจายออกไปมากกว่าหวังที่จะไปทำลายชีวิต หรือว่าสถานที่สำคัญๆ และเมื่อไปดูในภาพรวมของสถิติการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุความรุนแรง เป็นคนไทยทั้งหมด ไม่มีชาวต่างชาติ ก็ตนเองมั่นใจว่าไม่มีความเชื่อมโยงกันอย่างแน่นอน
วานนี้ (18 ม.ค.) ภายในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ในฐานะโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงการข่าวที่ออกมาแจ้งเตือนให้ย่านเศรษฐกิจ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระวัง รถตู้บอมบ์ ที่กลุ่มคนร้ายได้นำระเบิดซุกไว้เต็มคันรถเพื่อก่อเหตุร้ายในพื้นที่นั้น
มาตรการด้านการข่าว โดยเฉพาะงานด้านข่าวกรอง และการต่อต้านข่าวกรอง ของศูนย์ข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะมีการแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ ให้หน่วยกำลังที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เป็นระยะๆ บางช่วงก็จะให้มีการเพ่งเล็งรถจักรยานยนต์ บางช่วงอาจให้เพ่งเล็ง รถยนต์กระบะ หรือ รถยนต์เก๋ง ที่กลุ่มคนร้ายได้ซุกซ่อนวัตถุระเบิด เพื่อก่อเหตุร้าย ซึ่งในขณะนี้ การแจ้งเตือนข่าวสารให้มีความระมัดระวัง ว่าจะมีรถตู้ประกอบระเบิด หรือ รถตู้บอมบ์ เข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่ ก็จะทำให้หน่วยที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่มีความสนใจ กับยานพาหนะที่มีการแจ้งเตือนออกไป เป็นพิเศษโดยเฉพาะกรณี พื้นที่ที่เป็นย่านชุมชน หรือ พื้นที่ล่อแหลม เป็นจุดอ่อนแอ หรือ เป็นพื้นที่ที่หน่วยกำลังไม่ให้ความสำคัญ และมั่นใจว่าอาจจะไม่เกิดเหตุ ก็จะได้มีความกระตือรือร้น และให้ความสำคัญกับเรื่องต่างๆ เหล่านี้
ซึ่งการแจ้งเตือนเป็นมาตรการข่าวกรอง ทำให้งานข่าวแปรเป็นงานด้านยุทธการ และจะนำไปสู่การชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ชุดวิทยุเครื่องแดง หรือ กำลังภาคประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่ ก็จะตื่นตัวในเรื่องที่แจ้งเตือน เมื่อมีการพบเห็นยานพาหนะ หรือ บุคคลต้องสงสัย ก็จะเกิดความสนใจเป็นพิเศษ ก็จะทำให้เกิดกระบวนการ ทำลายความพยายามของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ได้ ซึ่งการทำลายความพยายามของผู้ก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่สามารถทำได้จำนวนมากครั้ง และทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์ เมื่อเกิดเหตุการณ์แสดงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงต้องมีความพยายามในการก่อเหตุไม่น้อยกว่า 10 - 15 ครั้ง จึงจะสามารถสร้างเหตุการณ์ร้ายได้สักครั้งหนึ่ง ก็เป็นลักษณ์เดียวกันกับการขนย้ายยาเสพติด ถ้าทางเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถทำลายความพยายามของผู้ค้ายาได้ ซึ่งก็อาจจะทำให้ผู้ค้ายามีความยากลำบาก หรือหมดหนทางในการค้ายาโดยปริยาย ซึ่งทางกองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กำลังเร่งขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่โดยเร็ว
จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ พร้อมของกลางจำนวนหนึ่ง ที่พยายามจะนำวัตถุระเบิดออกไปก่อเหตุร้ายในประเทศอื่นๆ ในพื้นที่ภาคกลางนั้น เมื่อมีการตรวจสอบแล้ว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีปรากฏหลักฐานยืนยัน ว่ามีความเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการก่อเหตุก็มีความแตกต่างกัน และกลุ่มก้อนของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังให้ต้องการเป็นข่าวแพร่กระจายออกไปมากกว่าหวังที่จะไปทำลายชีวิต หรือว่าสถานที่สำคัญๆ และเมื่อไปดูในภาพรวมของสถิติการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุความรุนแรง เป็นคนไทยทั้งหมด ไม่มีชาวต่างชาติ ก็ตนเองมั่นใจว่าไม่มีความเชื่อมโยงกันอย่างแน่นอน
