อดีตรมว.ต่างประเทศ ติง รบ. อย่าใช้ความไร้ประสบการณ์ ประโคมข่าวจับผู้ก่อการร้ายชาวเลบานอน เตือนระวังตกเป็นเครื่องมือ ลากประเทศเข้าไปเกี่ยวข้องจะเดือดร้อนภายหน้า ชี้ปัญหาของเขาไม่ใช่ของเราอย่าเข้าไปยุ่ง แนะควรส่งคนร้ายดำเนินคดีต่างประเทศเงียบที่สุด มั่นใจกรุงเทพฯไม่ใช่เป้าโจมตีของผู้ก่อการร้ายสากล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และอดีตรมต.กระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านรายการ News Hour ออกอากาศทางสถานีเอเอสทีวี ถึงความเป็นไปได้ ที่จะมีการก่อการร้ายในกรุงเทพ ว่า ด้วยประสบการณ์ที่ทำงานมา เท่าที่วิเคาะห์จากการให้สัมภาษณ์ของสถานทูตสหรัฐอเมริกา ตลอดถึงตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ก็อดห่วงไม่ได้เพราะคนที่เอ่ยมาล้วนไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้ พูดอะไรออกไปหาเรื่องใส่ตัวทั้งนั้น เราจะเป็นมิตรกับประเทศไหนก็ตามแต่อย่าตกเป็นเครื่องมือของเขา ปัญหาของเขาไม่ใช่ปัญหาของเรา อย่าใช้ความไร้ประสบการณ์บู่มบ่ามเข้าไปยุ่ง ไม่อย่างนั้นปัญหามันจะตามมา
สถานที่ใดจะตกเป็นเป้าก่อการร้าย สถานที่นั้นๆต้องมีมูลเหตุจูงใจเข้าไปเกี่ยวข้องในการสร้างความเจ็บแค้นให้กับผู้ที่จะเข้ามาก่อการร้าย ประเทศไทยไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาในประเทศตะวันออกกลาง จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่ผู้ก่อการร้ายจะเข้ามาก่อกวนในช่วงภาวะอย่างนี้ ดังนั้นรัฐบาลจะออกข่าวอะไรต้องระวังให้มาก
น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่าตนคุ้นเคยกับเรื่องก่อการร้ายสากลมาพอสมควร ได้รับรู้และเป็นความจริงจนถึงขณะนี้ ผู้ก่อการร้ายสากลพยายามไม่สร้างความเดือดร้อนในบ้านเรามากไปกว่าที่ซ่อนตัวเพียงชั่วคราว เพื่อเดินทางต่อไปประเทศอื่น จะว่าไปเรื่องแบบนี้ถ้าจะไล่จับกันจริงๆ ตนชี้เป้าเลยก็ได้ ลองไปสำรวจแถวซอยนานา ซึ่งมีชาวต่างชาติอยู่เต็มไปหมด
“ข่าวนี้ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ เราต้องระมัดระวังคำพูดและการกระทำของเราให้มาก เพื่อความปลอดภัยของเราเอง ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยที่จะไปพูด แถมจะกลายเป็นเครื่องมือของประเทศอื่น ที่ต้องการลากให้เราเข้าไปเกี่ยวข้องเดือดร้อน”
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์ หรือพวกที่รู้ไปทุกเรื่อง สิ่งที่พูดออกมาล้วนสร้างปัญหาให้กับประเทศในระยะยาวจากคนที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้ายสากล เพราะถือว่าได้ร่วมมือกับชาติอื่นเล่นงานคนของเขา การดำเนินการจับกุมเรื่องแบบนี้ในสมัยตนมีการจับเยอะแยะแต่ไม่พูด ไม่ว่าจะส่งคนร้ายไปประเทศไหนปิดเป็นความลับทั้งสิ้น เพื่อรักษาความปลอดภัยของเรา เพราะเราไม่ได้เป็นปัญหากับประเทศของเขา
"การก่อการร้ายเป็นเรื่องละเอี่ยดอ่อนและอ่อนไหวมาก หากเขาจะทำจริง สู้ลงไปภาคใต้ดีกว่า ไม่ใช่ในกรุงเทพ แม้สถานทูตอิสราเอลจะอยู่ในกรุงเทพ แต่คงไม่ถึงขั้นตกเป็นเป้าก่อการร้าย เพราะเข้ามาเพียงคนสองคนมันเป็นไปไม่ได้"
น.ต.ประสงค์ กล่าวถึงกรณีคนเผาบ้านเผาเมืองกำลังได้ค่าชดเชย 7 ล้านบาทว่า มันเกินไป ไม่ถูกต้องที่จะบอกว่าชดเชยค่าเสียหาย ขืนทำอย่างนี้ยิ่งจะสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนมากขึ้น ช่วงเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองไม่ใช่การชุมนุมอย่างสันติ จะอ้างเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งทำตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และทำอย่างมีเหตุผล ไม่เหมือนกรณีการฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ กรือเซะ ตากใบ อย่างนี้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำ