xs
xsm
sm
md
lg

หมายเหตุ... จากฮิซบุลลอฮ์ ถึงปฏิบัติการอเมริกันอันตราย...!!

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

สองสามวันก่อนมิตรรักแฟนเพลง ส่งอีเมลแนบไฟล์ข่าวยาวเฟื้อยให้ผม เปิดดูก็ไม่มีอะไรมากนอกจากเป็นประวัติกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ ในโลก รวมทั้งกลุ่ม “ฮิซบอลเลาะห์” หรือ “ฮิซบุลลอฮ์” ที่กำลังเป็นข่าวดังในบ้านเราขณะนี้ มิตรรักแฟนเพลงท่านนี้สารภาพตรงๆ ว่า เป็นการรวบรวมมาจากอินเทอร์เน็ต ประมาณว่าคิดอะไรไม่ออกบอก “กูเกิ้ล” ...กับอีกส่วนหนึ่งคัดลอกมาจากพอกเกตบุ๊ก

“ผมสังเกตเห็นว่าคุณสำราญสนใจข่าวความมั่นคง ผมก็สนใจ จึงรวบรวมส่งมาให้เผื่อใช้ประโยชน์”

            ครับ ก็ขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง และถึงแม้ผมพอจะทราบว่าข้อมูลว่าด้วยกลุ่ม “ฮิซบุลลอฮ์” ที่ท่านส่งให้ผมจะสรุปมาจาก “วิกิพีเดีย” แต่ผมก็จะใช้ประโยชน์ลงให้ทั้งดุ้น เพื่อร่วมกันทบทวนความทรงจำว่ากลุ่มฮิซบุลลอฮ์เป็นใครกันแน่ !?

…………………………

“....การก่อตั้งฮิซบุลลอฮ์ได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จในการปฏิวัติอิสลามของ อะยะตุลลอฮ์ โคมัยนี ผู้นำอิหร่านในสมัยนั้น โดยวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งก็เพื่อปกป้องอนาธิปไตยของมุสลิม และปกป้องมาตุภูมิเลบานอนให้พ้นจากการรุกรานของชาวอิสราเอล ฮิซบุลลอฮ์ก่อตั้งโดยกลุ่มอุละมาอ์ในพรรคอัลอะมัล ที่ได้แยกตัวออกมาตั้งพรรคการเมืองต่างหาก พรรคอะมัลเป็นการเมืองของมุสลิมชีอะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลซีเรีย เมื่อพรรคฮิซบุลลอฮ์มีสมาชิกและฐานเสียงมากขึ้น ซีเรียก็ให้การสนับสนุนเทียบเท่ากับพรรคอัลอะมัล

ในช่วงแรกของการก่อตั้ง ฮิซบุลลอฮ์เป็นเพียงขบวนการใต้ดิน จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1985 จึงมีการประกาศสถานภาพของกลุ่มอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชน เนื่องจากพรรคฮิซบุลลอฮ์เน้นนโยบายอิสลามที่สนับสนุนความปรองดองระหว่างชาวเลบานอน เคารพสิทธิเสรีภาพของทุกศาสนาและลัทธิ และต่อสู้การรุกรานของอิสราเอล ฮิซบุลลอฮ์จึงเป็นที่ยอมรับของชาวเลบานอน

สหรัฐอเมริกาและอิสราเอลระบุว่า กลุ่มฮิซบุลลอฮ์ได้รับความช่วยเหลือทางด้านการเงินและการเมือง รวมทั้งด้านอาวุธและการฝึกฝนจากอิหร่านและซีเรีย ซึ่งทางซีเรียเองก็ยอมรับว่าให้การสนับสนุนฮิซบุลลอฮ์จริงแต่ปฏิเสธเรื่องการส่งอาวุธให้

พรรคฮิซบุลลอฮ์ได้รับการสนับสนุนจากชาวมุสลิมในเลบานอนเป็นอย่างดี ในเวลาปัจจุบันมีเก้าอี้ในรัฐสภาเลบานอน 23 ที่นั่ง จากทั้งหมด 128 ที่นั่ง ฮิซบุลลอฮ์มีนโยบายสาธารณะหลักๆ คือการสร้างโรงพยาบาล สร้างสถานศึกษา และให้บริการด้านสังคมอื่นๆ

ฮิซบุลลอฮ์ถูกรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลอิสราเอลขึ้นบัญชีดำว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายไม่ต่างจากกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ แม้ว่าฮิซบุลลอฮ์จะมีสถานะอันชอบธรรมถึงขั้นสามารถส่งตัวแทนลงเลือกตั้ง และเข้าร่วมรัฐบาลเลบานอนได้ก็ตาม โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเชื่อว่า กลุ่มฮิซบุลลอฮ์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจับตัวประกันชาวอเมริกันหลายต่อหลายครั้ง แม้ว่าจะไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ก็ตาม เช่นเดียวกับรัฐบาลอิสราเอลที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับกลุ่มกองกำลังดังกล่าวตลอดเวลา

ผลงานชิ้นสำคัญอย่างหนึ่งของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์คือ การขับไล่อิสราเอลออกจากพื้นที่ทางตอนใต้ของเลบานอน เดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2000 ซึ่งอิสราเอลยึดครองมาตั้งแต่การรุกรานครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1982 และทางสหประชาชาติก็ได้ประกาศให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นของเลบานอน...”

ครับ นั่นคือที่มาที่ไปของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ซึ่งถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ทั้งๆ ที่หากจะว่าไปแล้ว เมื่อมองถึงอุดมการณ์การต่อสู้ พวกเขาน่าจะเป็นกลุ่มก่อการดีมากกว่า....หรือหากจะเปรียบเปรยกับบ้านเรากลุ่มนี้ก็น่าจะดีกว่าพรรคการเมืองบางพรรคที่กำลังเดินยุทธศาสตร์สองขา คือมีทั้งพรรคในสภาและกองกำลังนอกสภา และร่วมกันก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมืองจนได้ดิบได้ดีอยู่ในเวลานี้....

หลังจากทางการไทยออกข่าวว่ามีชาวเลบานอน 2 คนถูกจับกุม เมื่อศุกร์ที่ 13 ม.ค. 2555 ตามด้วยสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์ให้พลเมืองอเมริกันที่พำนักในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ระวังการโจมตีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกลุ่มก่อการร้าย แต่นายกาเลบ อาบู ไซนับ ฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ได้ออกแถลงการณ์ว่าชาวเลบานอนที่ถูกจับไม่ใช่สมาชิกของกลุ่ม...

หน้าแตกหมอไม่รับเย็บไปตามๆ กัน แม้ต่อมาจะมีการจับกุมนายอาทริส ฮุสเซน พร้อมของกลางสารยูเรียจำนวนมากได้ที่สมุทรสาครก็ตาม แต่ก็มีปมพิรุธชวนสงสัยว่าไม่ใช่ของจริง?

อันที่จริงสมัยรัฐบาลก่อนๆ ก็เคยมีครั้งแล้วครั้งเล่าที่กลุ่มผู้ต้องสงสัยว่าจะปฏิบัติการก่อการร้ายมาเคลื่อนไหว แต่ฝ่ายความมั่นคงที่ทำงานร่วมกันได้ใช้วิธีผลักดันให้ออกนอกประเทศไปแบบเงียบๆ ได้ทั้งการป้องกันเหตุร้ายและหยุดผลกระทบด้านท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ

แต่งานนี้สหรัฐฯ ไม่ยอมรามือ ไม่ไว้หน้านายกฯ และรมว.ต่างประเทศของไทย เพราะล่าสุด นางคริสตี้  เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เจ้าเก่าได้ทวิสเตอร์ส่งข้อความย้ำเตือน 2 จุดอันตรายในกรุงเทพฯ (ถนนข้าวสารและสุขุมวิท 22)  …

ถือว่าทูตสหรัฐฯ รายนี้กระทำผิดมารยาทเป็นซ้ำสอง หลังจากที่เธอเคยพลาดพลั้งกรณีวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมกับการดำเนินคดีกฎหมายอาญามาตรา 112 จนถูกถล่มเละมาแล้ว...

จะอย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวโทษกันระหว่างนางเคนนีย์กับนายกฯ หรือรมว.ต่างประเทศของไทย ก็ต้องเน้นไปที่คนของเราที่นอกจากอ่อนหัดเรื่องการบริหารจัดการกรณีการก่อการร้ายที่ต่างคนต่างพูด ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างโชว์ ไม่มีการบูรณาการ สุดท้ายก็ออกอาการเละเป็นโจ๊กกองปราบแล้ว ยังไม่เคยคิดเรียกตัวนางเคนนีย์มาสอนสั่งให้รู้สำนึกอีกต่างหาก...

พูดไปทำไมมี ผมก็พูดพร่ำเพ้อไปงั้นๆ แหละ เพราะเป็นที่รู้ๆ กันว่า ผู้นำและรมว.ต่างประเทศของเรานั้นเป็นพวกโน วอเตอร์ เมดีซีน..ขณะที่สหรัฐฯ นั้นที่แท้ก็เป็นพวกนักเลงโต ไม่เคารพกฎกติกามารยาท ยึดผลประโยชน์ชาติ(กู)เป็นหลัก ยามนี้นอกจากจะเข้าไปเจาะไข่แดงพม่า ปิดล้อมจีนแล้ว ยังจับไข่บีบไข่แม้วไม่ยอมปล่อยอีกต่างหากจนกว่าเรื่องพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา จะลงเอย...และลงตัว 

นั่นคือ รวยกันเละทั้งเชฟรอนและไข่แม้ว แต่ประเทศชาติมีแนวโน้มสูญเสียครั้งใหญ่ - -และนี่ต่างหากที่น่าจะเป็นการก่อการร้ายตัวจริง ของจริง!!

samr_rod@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น