ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มใหญ่ พนักงานบริษัท ปตท.ประจำสนามบินอู่ตะเภรอดหวุดหวิด ขับเก๋งเพื่อนพี่ชายไปทำงาน เครื่องยนต์เกิดดับระหว่างทาง คิดว่าน้ำมันหมดจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปซื้อ ระหว่างรอลองบิดกุญแจสตาร์ทใหม่ เกิดไฟลุกไหม้ห้องเครื่อง ก่อนลุกลามเผาวอดทั้งคัน คาดสาเหตุเกิดจากน้ำมันรั่ว
วานนี้(16 ม.ค.)พ.ต.ท.พรชัย กิ่งสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้รถยนต์ บนถนนสุขุมวิท กิโลเมตร (กม.)183 เส้นทางสัตหีบ-ระยอง บริเวณโค้งเขาแขก กม. 8 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานนายทวีป แต่งแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง เพื่อขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณไหล่ทางพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีน้ำเงิน ทะเบียน วห 9027 กรุงเทพมหานคร ทำให้มีกลุ่มควันดำพวยพุ่งปกคลุมพื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้ ยังทำให้การจราจรติดขัดยาวเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่โดยรอบ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และรถที่สัญจรผ่าน
จากนั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำอย่างหนักใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบพบรถยนต์ถูกเพลิงเผาวอดเสียหายทั้งคัน ส่วนคนขับทราบชื่อคือ นายบุญเลิศ ราชา อายุ 40 ปี พนักงาน ปตท.ประจำสนามบินอู่ตะเภา ได้หนีเอาชีวิตรอดออกมาจากรถอย่างปลอดภัย
จากการสอบถาม นายบุญเลิศ คนขับเปิดเผยว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถที่เพื่อนพี่ชายมาจอดไว้ให้ใช้ ก่อนเกิดเหตุได้ขับออกมาจากบ้านพัก เพื่อไปที่ทำงานในสนามบินอู่ตะเภา ระหว่างทางรถได้เกิดดับโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงได้จอดรถลงข้างทางซึ่งคิดว่าน้ำมันหมด จึงจ้างวานให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างไปซื้อน้ำมันมาเติม ระหว่างรอได้ลองสตาร์ทเครื่องอีกครั้ง ทันใดนั้นได้มีกลุ่มเพลิงลุกไหม้มาจากห้องเครื่อง จึงได้รีบหนีออกมาจากตัวรถ โดย เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างหนัก และลุกลามอย่างรวดเร็วจนรถวอดทั้งคันภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที
ด้าน พ.ต.ท.พรชัย กิ่งสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน กล่าวว่า สาเหตุการเกิดเพลิงลุกไหม้รถยนต์ครั้งนี้ จากการสันนิษฐานน่าจะเกิดการรั่วของสายน้ำมัน จนทำให้เครื่องยนต์ดับ ขณะที่คนขับไปสตาร์ทเครื่องยนต์จึงเกิดประกายไฟขึ้น ทำให้น้ำมันเบนซินที่รั่วไหลอยู่ลุกไหม้ ก่อนจะลุกลามไปยังถังน้ำมันเป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนเผาวอดทั้งคัน
