ปชป.ชงกระทู้สับนโยบายปูแดง กลับหัวกลับหาง ประชานิยมพลังงานอุ้มรากหญ้าช่วงโปรโมชัน 4 เดือนแรก แถมตระบัดสัตย์จากที่เคยหาเสียง ด้าน “พิชัย” อ้างทำเพื่ออนาคตประเทศ แจงขยับราคามิเตอร์หลังคงราคามาตั้งแต่ปี 51
วันนี้ (12 ม.ค.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่อง ทิศทางราคาพลังงาน ว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลมีนโยบายกลับหัวกลับหาง คิดจากฐานเสียงจำนวนมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มีอยู่กว่า 17 ล้านคน อุ้มราคาน้ำมันเบนซิน แต่เมื่อสุดท้ายหมดช่วงโปรโมชัน 4 เดือน รัฐบาลจะทยอยขึ้นราคาน้ำมันไปจนถึงสิ้นปี ทั้งที่นโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ กล่าวในการหาเสียงที่สนามกีฬารัชมังคลากีฬาสถาน ชัดเจนว่า หากเป็นรัฐบาลสิ่งแรกที่จะทำ คือ แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง กระชากค่าครองชีพลง ยกเลิกกองทุนน้ำมัน ลดราคาน้ำมันเบนซิน 95 ลงลิตรละ 7.50 บาท เบนซิน 91 ลดลง 6.70 บาท และ ดีเซล 2.20 บาท จึงอยากถามว่าทำไมรัฐบาลตระบัดสัตย์ต่อประชาชน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวชี้แจงแทนนายกฯ ว่า การปรับโครงสร้างพลังงานของประเทศเป็นเรื่องที่ต้องเดินหน้าทำเพื่ออนาคต ยกตัวอย่างค่าก๊าซเอ็นจีวี กก.ละ 8.50 บาท อยู่ราคานี้มา 10 ปี แล้วไม่เคยปรับขึ้น หรือก๊าซเอ็นจีวี ที่เป็นภาระให้กองทุนพลังงานต้องจ่ายเงินอุดหนุนหลายพันล้านบาท ที่สำคัญ ราคายังต่ำกว่าเพื่อนบ้านอยู่มาก ซึ่งประเทศไทยหากขึ้นสูงสุด กก.ละ 18 บาท แต่ราคาเวียดนาม 46 บาท กัมพูชา และ ลาว 45 บาท พม่า 36 บาท ทำให้เกิดการลักลอบนำไปขายต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม การยกเลิกกองทุนน้ำมันทีเคยระบุนั้น แต่ที่ผ่านมา ประชาชนเดือดร้อนจากหลายเหตุการณ์ ทำให้มาคิดว่าจะช่วยเหลือประชาชนอย่างไร สุดท้ายจึงชะลอออกไป ยืนยันว่า ทุกอย่างทำไปเพื่ออนาคตของประเทศทั้งการเตรียมยกเลิกเบนซิน 91 เพื่อให้หันมาสนับสนุนเอทานอล
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า เรื่องพลังงานเป็นเรื่องหนึ่งที่มีการตระบัดสัตย์กับประชาชน ยังไม่รวมเรื่องอื่นๆ ทั้งขึ้นเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท หรือ ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ทั้งนี้ อยากถามว่าที่รัฐบาลระบุว่า จะช่วยเหลือแท็กซี่ด้วยบัตรเครดิตพลังงงานที่จะทำให้แท็กซี่จ่ายเงินค่าเอ็นจีวี 8.50 บาท ต่อไปอีก 4 เดือน แล้วหลังจากนั้น รัฐบาลจะมีมาตรการอะไรต่อไป รวมทั้งรถบรรทุกที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีแอลพีจีรวมเกือบ 3.5 หมื่นคัน รถส่วนบุคคคลอีก 9 แสนคัน ตรงนี้จะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร
นายพิชัย กล่าวว่า สำหรับแท็กซี่ได้สนับสนุนให้เปลี่ยนจากก๊าซแอลพีจีมาเป็นเอ็นจีวีที่จะประหยัดมากขึ้น โดยจะอนุมัติให้เปลี่ยนไปแล้วโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย 1.5 หมื่นคัน และจะอนุมัติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้านหนึ่งอาจจะมีการพิจารณาให้ขยับราคามิเตอร์ ซึ่งไม่ได้ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2551 เป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมจะเข้าไปดำเนินการ เรารักแท็กซี่ แต่ประเทศต้องเดินไปข้างหน้าก็ต้องทำ ซึ่งในส่วนของภาคขนส่งก็เห็นว่าควรจะปรับราคาก๊าซส่วนจะปรับเพิ่มเท่าไหร่ก็ต้องมาหารือกัน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา การนำเงินของผู้ใช้น้ำมันเบนซินไปชดเชยราคาก๊าซ หรือ ดีเซล เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่มีการถามความยินยอมของผู้ใช้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องที่เห็นว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้ถูกต้อง ส่วนเรื่องรถบ้าน 9 แสนคัน ที่หันมาใช้ก๊าซนั้น ก็เป็นเรื่องที่โครงสร้างไปอุ้มราคาก๊าซในช่วงที่ผ่านมา ก็ต้องเข้าไปแก้ไข