00 นับจากนี้ไปน่าจะกลายเป็นเรื่องปกติที่พวกเราคนไทยจะได้เห็นการประท้วงที่มาในหลายรูปแบบ หลากหลายอาชีพกำลังพุ่งเป้ามาที่ “นายกฯนกแก้ว” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อไปนี้จะไม่อาจ “ลอยตัว” โยนให้คนอื่นรับหน้าเสื่อได้อีกแล้ว ประเภทที่บอกว่าให้กระทรวงนั้นกระทรวงนี้ชี้แจงมันก็ทำได้ แต่นานไปถ้ายัง “ตอบแบบสามวาสองศอก” ออกทะเลไปเรื่อยเปื่อยคนเขายิ่งสมเพช หมดสภาพเร็วขึ้น วานนี้ได้เห็นภาพการก่อม็อบของผู้ประกอบการรถขนส่งต่างๆมารวมตัวกันปิดถนนตั้งแต่เช้า สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายพอสมควร เพราะเป็นวันจันทร์ ทำให้ชาวบ้านที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง ต่างรับกรรมด่ากันขรม
00 มองในมุมของผู้ประกอบอาชีพทั้งแท็กซี่ รถเมล์ร่วม รถตู้ รถบรรทุก ก็ต้องยอมรับว่าการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีที่รัฐบาลปรับเพิ่มราคาจากปัจจุบันอีก 6 บาทต่อกิโลกรัม แม้ว่าจะเป็นการทยอยขึ้นราคาแบบขั้นบันใดก็ตาม แต่มันก็ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น และก็ต้องยอมรับความจริงว่ามีเพียง ปตท.เท่านั้นที่ผูกขาดการขายก๊าซดังกล่าว และที่ผ่านมาก็มีการสนับสนุนให้รถขนส่งเหล่านี้ให้เปลี่ยนมาใช้เอ็นจีวีเป็นพลังงานทางเลือก มีการให้กู้เงินเปลี่ยนถังใหม่ราคาก็ใช่ว่าจะถูก เพราะเกินหลักหมื่น แทบทั้งหมดต้องกู้เงิน ต้องเป็นหนี้ แถมเวลาไปเติมต้องเข้าคิวรอกันเป็นชั่วโมง รถก็ติด เฮ้อ แต่มาวันนี้ไม่เอา ทั่น รมต. “ขมองใส” พิชัย นริพทะพันธุ์ ก็บอกว่าปรึกษาหารือกันรอบคอบแล้ว ต้องสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ต้องขึ้นราคา เอากับพ่อสิ
00 แต่งานนี้เชื่อเถอะสนุกแน่ เพราะการขึ้นราคาพลังงานแบบนี้มันอ่วม สร้างผลกระทบบานปลาย ทั้งในเรื่องต้นทุน ค่าขนส่ง ค่าโดยสารรถแท็กซี่ที่ต่อไปจะไม่เริ่มต้นที่ 35 บาท อาจจะเป็น 50 บาท หรือต่อรอง “นอกมิเตอร์” สร้างความรำคาญมากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีความพยายามสร้างภาพออกบัตรเครดิตพลังงานมีส่วนลดชดเชยตั้งแต่ลิตรละ 50 ส.ต.ถึง 2 บาทก็ตาม แต่ในระยะยาวมันไม่ง่ายหรอก ประเภทรูดปรื๊ด รูดปรื๊ดแรกๆอาจจะเพลิน แต่เอาเถอะร้อยเกือบทั้งร้อยคุมไม่อยู่หรอก
00 อย่างไรก็ดีปัญหามันไม่ได้มีแค่นี้ แต่หมายถึงการ “เสียความรู้สึก” ที่มีต่อกันระหว่างผู้ประกอบการรถแท็กซี่ รถขนส่ง เพราะรู้กันดีว่าล้วนแล้ว “เสื้อแดง” คนกันเองทั้งสิ้น แม้ในความจริงคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นนายทุนเจ้าของอู่รถเช่า เจ้าของรถบรรทุก แต่มันก็กระทบเป็นลูกโซ่ และงานนี้มันก็จะเป็นการ “ละลาย” ความรู้สึกพวกเดียวกันอีกเรื่อง สะท้อน “ความชุ่ย”ออกมาให้เห็นตามกาลเวลา หลังจากเรื่อง “เอาอยู่” ตอนน้ำท่วม มาจนถึง คูปอง 2 พันบาท ของแพง นี่ก็อีกไม่นานราคาข้าวสารบรรจุถุง 5 ก.ก.ก็ปรับราคาขึ้นไปอีกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เห็นรึยังว่าใครกันแน่ที่ “ดีแต่โม้” และอีกไม่นานก็จะได้เห็น “ดีแต่กู้มาโกง” เข้าตัวทั้งนั้นแหละ !!
00 นับจากนี้ไปทุกอย่างกำลังเดินเข้าสู่ “ทางแคบ” เข้าไปเรื่อยๆ จะไปโทษอำมาตย์ก็ไม่ได้ ของแพงจะไปโทษ รธน.เผด็จการก็คงไม่ได้ มีแต่ของจริง ขณะเดียวกันหากแยกกรณีน้ำมัน-ก๊าซแพง นี่อาจจะยกเว้นก็ได้ เพราะน่าจะเชื่อมโยงถึง ทักษิณ ชินวัตร เพราะต้องไม่ลืมว่าเมื่อครั้งที่แปรรูป ปตท.ให้เอกชนล้วนแล้วแต่พวกนักการเมืองเท่านั้นที่เข้าไปซื้อราคาถูก มีหรือคนอย่าง “แม้ว” จะไม่มีเอี่ยวทั้งทางตรงหรือทางอ้อม แถมที่ผ่านมาก็กำไรนับแสนๆล้าน มันก็น่าคิดใช่มั๊ยละ !!
00 เรื่องแก้ รธน.ก็เริ่มเข้าเค้า เป็นภาพชัด เห็นธาตุแท้ของคนที่ชักใยเบื้องหลัง แม้จะรู้มาตั้งนานแล้วว่านี่คือเกมที่ ทักษิณ วางเอาไว้ตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะมาในทิศทางไหนทั้งในและนอกสภา ผ่านมใครก็ตามล้วนต้องมาบรรจบที่ผลประโยชน์ส่วนตัวของเขาเท่านั้น นั่นคือต้องลบล้างความผิดแล้วได้กลับมามีอำนาจอีกรอบ แต่อย่างที่บอกเวลานี้เงื่อนไขมันเปลี่ยนไป แม้ยังมีคนหนุนหลังเอาด้วยไม่น้อย แต่รับรองว่าฝ่ายที่เกลียด และรู้ทันมีมากกว่าเดิมเช่นเดียวกัน และถ้าจะแก้ไขกันจริงๆมันก็ต้องถามประชาชนก่อน ไม่ใช่ถาม อุกฤษ มงคลนาวิน หรือ 34 คนที่ทึกทักเอาเองว่าเป็นกูรู ทุด !!
00 มองในมุมของผู้ประกอบอาชีพทั้งแท็กซี่ รถเมล์ร่วม รถตู้ รถบรรทุก ก็ต้องยอมรับว่าการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีที่รัฐบาลปรับเพิ่มราคาจากปัจจุบันอีก 6 บาทต่อกิโลกรัม แม้ว่าจะเป็นการทยอยขึ้นราคาแบบขั้นบันใดก็ตาม แต่มันก็ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น และก็ต้องยอมรับความจริงว่ามีเพียง ปตท.เท่านั้นที่ผูกขาดการขายก๊าซดังกล่าว และที่ผ่านมาก็มีการสนับสนุนให้รถขนส่งเหล่านี้ให้เปลี่ยนมาใช้เอ็นจีวีเป็นพลังงานทางเลือก มีการให้กู้เงินเปลี่ยนถังใหม่ราคาก็ใช่ว่าจะถูก เพราะเกินหลักหมื่น แทบทั้งหมดต้องกู้เงิน ต้องเป็นหนี้ แถมเวลาไปเติมต้องเข้าคิวรอกันเป็นชั่วโมง รถก็ติด เฮ้อ แต่มาวันนี้ไม่เอา ทั่น รมต. “ขมองใส” พิชัย นริพทะพันธุ์ ก็บอกว่าปรึกษาหารือกันรอบคอบแล้ว ต้องสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ต้องขึ้นราคา เอากับพ่อสิ
00 แต่งานนี้เชื่อเถอะสนุกแน่ เพราะการขึ้นราคาพลังงานแบบนี้มันอ่วม สร้างผลกระทบบานปลาย ทั้งในเรื่องต้นทุน ค่าขนส่ง ค่าโดยสารรถแท็กซี่ที่ต่อไปจะไม่เริ่มต้นที่ 35 บาท อาจจะเป็น 50 บาท หรือต่อรอง “นอกมิเตอร์” สร้างความรำคาญมากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีความพยายามสร้างภาพออกบัตรเครดิตพลังงานมีส่วนลดชดเชยตั้งแต่ลิตรละ 50 ส.ต.ถึง 2 บาทก็ตาม แต่ในระยะยาวมันไม่ง่ายหรอก ประเภทรูดปรื๊ด รูดปรื๊ดแรกๆอาจจะเพลิน แต่เอาเถอะร้อยเกือบทั้งร้อยคุมไม่อยู่หรอก
00 อย่างไรก็ดีปัญหามันไม่ได้มีแค่นี้ แต่หมายถึงการ “เสียความรู้สึก” ที่มีต่อกันระหว่างผู้ประกอบการรถแท็กซี่ รถขนส่ง เพราะรู้กันดีว่าล้วนแล้ว “เสื้อแดง” คนกันเองทั้งสิ้น แม้ในความจริงคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นนายทุนเจ้าของอู่รถเช่า เจ้าของรถบรรทุก แต่มันก็กระทบเป็นลูกโซ่ และงานนี้มันก็จะเป็นการ “ละลาย” ความรู้สึกพวกเดียวกันอีกเรื่อง สะท้อน “ความชุ่ย”ออกมาให้เห็นตามกาลเวลา หลังจากเรื่อง “เอาอยู่” ตอนน้ำท่วม มาจนถึง คูปอง 2 พันบาท ของแพง นี่ก็อีกไม่นานราคาข้าวสารบรรจุถุง 5 ก.ก.ก็ปรับราคาขึ้นไปอีกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เห็นรึยังว่าใครกันแน่ที่ “ดีแต่โม้” และอีกไม่นานก็จะได้เห็น “ดีแต่กู้มาโกง” เข้าตัวทั้งนั้นแหละ !!
00 นับจากนี้ไปทุกอย่างกำลังเดินเข้าสู่ “ทางแคบ” เข้าไปเรื่อยๆ จะไปโทษอำมาตย์ก็ไม่ได้ ของแพงจะไปโทษ รธน.เผด็จการก็คงไม่ได้ มีแต่ของจริง ขณะเดียวกันหากแยกกรณีน้ำมัน-ก๊าซแพง นี่อาจจะยกเว้นก็ได้ เพราะน่าจะเชื่อมโยงถึง ทักษิณ ชินวัตร เพราะต้องไม่ลืมว่าเมื่อครั้งที่แปรรูป ปตท.ให้เอกชนล้วนแล้วแต่พวกนักการเมืองเท่านั้นที่เข้าไปซื้อราคาถูก มีหรือคนอย่าง “แม้ว” จะไม่มีเอี่ยวทั้งทางตรงหรือทางอ้อม แถมที่ผ่านมาก็กำไรนับแสนๆล้าน มันก็น่าคิดใช่มั๊ยละ !!
00 เรื่องแก้ รธน.ก็เริ่มเข้าเค้า เป็นภาพชัด เห็นธาตุแท้ของคนที่ชักใยเบื้องหลัง แม้จะรู้มาตั้งนานแล้วว่านี่คือเกมที่ ทักษิณ วางเอาไว้ตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะมาในทิศทางไหนทั้งในและนอกสภา ผ่านมใครก็ตามล้วนต้องมาบรรจบที่ผลประโยชน์ส่วนตัวของเขาเท่านั้น นั่นคือต้องลบล้างความผิดแล้วได้กลับมามีอำนาจอีกรอบ แต่อย่างที่บอกเวลานี้เงื่อนไขมันเปลี่ยนไป แม้ยังมีคนหนุนหลังเอาด้วยไม่น้อย แต่รับรองว่าฝ่ายที่เกลียด และรู้ทันมีมากกว่าเดิมเช่นเดียวกัน และถ้าจะแก้ไขกันจริงๆมันก็ต้องถามประชาชนก่อน ไม่ใช่ถาม อุกฤษ มงคลนาวิน หรือ 34 คนที่ทึกทักเอาเองว่าเป็นกูรู ทุด !!