วานนี้ (16 ม.ค.)นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์1” ว่า อาจจะเป็นการปรับในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ หลังเทศกาลตรุษจีน ซึ่งการปรับไม่ได้เป็นการปรับเพื่อให้รัฐบาลอยู่รอด แต่ปรับเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล เพื่อการดำเนินงานให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
ยอมรับว่า ที่ผ่านมา บางกระทรวงยังขาดความเชี่ยวชาญ ดังนั้น การปรับ ครม. ครั้งนี้ เพื่อต้องการประสิทธิภาพในการทำงานให้มากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่จะมีน่าจะมี กระทรวงศึกษาธิการ คมนาคม อุตสาหกรรม คลัง ที่ต้องนำบุคคลที่เป็นมืออาชีพเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง อาจมีการนำคนนอกเข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีแทน ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทางพรรคเพื่อไทย คงไม่ไปแตะต้องเพราะต้องให้เกียรติกับพรรคร่วมรัฐบาล ที่ดูแลอยู่
“กระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว มท.1-2-3-ไม่น่าจะมีการปรับเปลี่ยน การปรับ ครม.ครั้งนี้น่าจะเป็นการปรับเล็ก เป็นจำนวน 5-7 ตำแหน่ง เท่านั้น” นายอารี กล่าว
**“ยงยุทธ”ย้ำนายกฯปรับครม.แน่
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย มีมติมอบอำนาจการปรับครม.ให้หัวหน้าพรรคร่วม กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีดำเนินการ จะเริ่มพิจารณาวางกรอบอย่างไร ว่า ขอเรียนตามว่า พรรคมอบมาอย่างนั้นก็จริง แต่คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีคนเดียว ตนได้เรียนท่านไปแล้วว่า ขอให้ท่านพิจารณาเรื่องดังกล่าวแต่เพียงคนเดียว ตนไม่ได้ไปร่วมแสดงความคิดเห็นอะไรด้วย
ส่วนในฐานะผู้ใหญ่ของพรรค จะไม่ให้คำปรึกษาแนะนำอะไรเลยหรือ นายยงยุทธ กล่าวว่า ก็มีการคุยกันเมื่อถึงเวลา แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา และยังไม่ได้คุยกัน
ส่วนที่ครั้งนี้จะเป็น " ครม.ยิ่งลักษณ์ 2" แล้ว นายกฯ จะเป็นผู้มีอำนาจเต็มแท้จริงในการพิจารณาปรับเปลี่ยนโยกย้ายหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะปรับหรือไม่ แต่มติพรรคแต่เดิมเรื่องตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่งพรรคก็มอบให้ตน และ นายกฯ เป็นผู้พิจารณา แต่ครั้งนี้ยังไม่ทราบว่า จะมีการปรับหรือไม่ เพียงแต่ทราบจากสื่อเท่านั้น
กรณีมีกระแสข่าวจะยึดคืนโควต้า ตำแหน่งรองนายกฯ ของพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ กลับมาให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องขนาดนั้น ทั้งหมดทราบจากทางสื่อ แต่เมื่อมีข้อยุติอย่างไรแล้วก็คงไม่เก็บไว้ ต้องเรียนให้สื่อทราบเพื่อนำไปให้ประชาชนได้ทราบต่อไป แต่ช่วงนี้ยังไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้น เพราะมีงานการอยู่เยอะ แต่เป็นดุลยพินิจท่านนายกฯ
ก่อนมองว่าทำงานมาจนถึงวันนี้แล้ว ต้องปรับโยกย้ายขนาดใหญ่ เพื่อให้การทำงานของครม. มีประสิทธิภาพพอกับความคาดหวังของประชาชน รองนายกฯกล่าวว่า อยู่ในดุลพินิจของนายกฯ ในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล ท่านจะทราบบรรยากาศได้ดีกว่า ส่วนเรื่องกระเพื่อมจากกลุ่มก๊วนต่างๆในพรรคนั้น การเมืองก็มีบรรยากาศไปในลักษณะอย่างนั้น ก็คงต้องรับฟังกัน
เมื่อถามว่าภาพรวมการทำงานที่ผ่านมา ถ้าจะปรับครม. จะปรับกี่ตำแหน่ง นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ ทุกอย่างที่ทราบก็มาจากสื่อเท่านั้น ไม่ได้ทราบจากที่อื่นเลย
**ชุมพลไม่ยอมถูกปรับพ้นครม.
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า โควตารัฐมนตรีของพรรคฯ จะยังไม่มีการปรับใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าจะมีรายงานข่าวว่าพรรคเพื่อไทย (พท.)เคลื่อนไหวดึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กลับไปดูแลเอง
“ในพรรคไม่ปรับอย่างแน่นอน แต่ถ้าจะปรับเราก็เป็นเรื่องของเขา แต่หากปรับผมออกคงยอมไม่ได้ ส่วนรัฐมนตรีเกษตรฯ ท่านไม่ได้ทำอะไรผิด” นายชุมพล กล่าว
กรณีที่หลายฝ่ายมองว่าเรื่องน้ำท่วมเป็นเพราะนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ บริหารงานผิดพลาดนั้น ขอยืนยันว่าหากรัฐบาลปล่อยให้นายธีระ และนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบจะไม่เกิดปัญหาดังกล่าว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะมีคนคอยแนะนำและสั่งการเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ไม่มีความรู้จริง
ส่วนนักการเมืองสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่กำลังจะพ้นโทษเว้นวรรคทางการเมืองนั้น นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ควรเข้ามาร่วม ครม.ทันที เพราะจะส่งผลให้ภาพพจน์ทางการเมืองเสียหาย ควรจะรอหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่ และควรใช้เวลาช่วงนี้ไปทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงรัฐมนตรีไปพลาง ๆ ก่อนจะเหมาะสมกว่า
**รมต.7 กระทรวงส่อโดนปรับ
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย อ้างว่า หลังจากพรรคมีมติมอบอำนาจการปรับครม.ให้หัวหน้าพรรคร่วม กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำเนินการและเริ่มพิจารณาวางกรอบพิจารณาตั้งแต่หลังหารือครม.นัดพิเศษเฉพาะพรรคเพื่อไทย ไปเมื่อสัปดาหืที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ตัดสินใจที่จะปรับครม.ใน 7 กระทรวงหลัก เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงไอซีที กระทรวงพัมนาสังคมลความมั่นคงของมนุษย์ และรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
**นิพิฏฐ์ ชี้ “ตู่-เต้น”นั่ง รมต.แน่
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ปชป. กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีชื่อนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ทั้ง 2 คน จะได้รับตำแหน่ง ครม. เพราะลักษณะของพรรคเพื่อไทยจะตอบแทนกับคนที่ทำงานให้ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนที่ไม่ได้ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย แต่เป็นภาพที่คนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยรับได้ ตนมองว่าการปรับ ครม.จากนี้จะเป็นการปรับเพื่อตอบแทนบุญคุณอย่างสาสม กับคนที่ทำงานทางการเมืองจนทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ
“ที่ผ่านมาเขาได้ตอบแทนไปหมดแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เห็นได้จากมติ ครม.อนุมัติเงินชดเชยเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง แต่ในขณะนี้ยังเหลือเพียงเรื่องเดียว คือช่วยให้ผู้ชุมนุมที่ถูกตัดสินว่าทำผิดตามกฎหมายอาญาไม่ได้รับโทษ โดยคิดว่าขณะนี้กำลังหาช่องทางช่วยเหลือด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ” นายนิพิฏฐ์กล่าว.
ยอมรับว่า ที่ผ่านมา บางกระทรวงยังขาดความเชี่ยวชาญ ดังนั้น การปรับ ครม. ครั้งนี้ เพื่อต้องการประสิทธิภาพในการทำงานให้มากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่จะมีน่าจะมี กระทรวงศึกษาธิการ คมนาคม อุตสาหกรรม คลัง ที่ต้องนำบุคคลที่เป็นมืออาชีพเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง อาจมีการนำคนนอกเข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีแทน ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทางพรรคเพื่อไทย คงไม่ไปแตะต้องเพราะต้องให้เกียรติกับพรรคร่วมรัฐบาล ที่ดูแลอยู่
“กระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว มท.1-2-3-ไม่น่าจะมีการปรับเปลี่ยน การปรับ ครม.ครั้งนี้น่าจะเป็นการปรับเล็ก เป็นจำนวน 5-7 ตำแหน่ง เท่านั้น” นายอารี กล่าว
**“ยงยุทธ”ย้ำนายกฯปรับครม.แน่
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย มีมติมอบอำนาจการปรับครม.ให้หัวหน้าพรรคร่วม กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีดำเนินการ จะเริ่มพิจารณาวางกรอบอย่างไร ว่า ขอเรียนตามว่า พรรคมอบมาอย่างนั้นก็จริง แต่คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีคนเดียว ตนได้เรียนท่านไปแล้วว่า ขอให้ท่านพิจารณาเรื่องดังกล่าวแต่เพียงคนเดียว ตนไม่ได้ไปร่วมแสดงความคิดเห็นอะไรด้วย
ส่วนในฐานะผู้ใหญ่ของพรรค จะไม่ให้คำปรึกษาแนะนำอะไรเลยหรือ นายยงยุทธ กล่าวว่า ก็มีการคุยกันเมื่อถึงเวลา แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา และยังไม่ได้คุยกัน
ส่วนที่ครั้งนี้จะเป็น " ครม.ยิ่งลักษณ์ 2" แล้ว นายกฯ จะเป็นผู้มีอำนาจเต็มแท้จริงในการพิจารณาปรับเปลี่ยนโยกย้ายหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะปรับหรือไม่ แต่มติพรรคแต่เดิมเรื่องตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่งพรรคก็มอบให้ตน และ นายกฯ เป็นผู้พิจารณา แต่ครั้งนี้ยังไม่ทราบว่า จะมีการปรับหรือไม่ เพียงแต่ทราบจากสื่อเท่านั้น
กรณีมีกระแสข่าวจะยึดคืนโควต้า ตำแหน่งรองนายกฯ ของพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ กลับมาให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องขนาดนั้น ทั้งหมดทราบจากทางสื่อ แต่เมื่อมีข้อยุติอย่างไรแล้วก็คงไม่เก็บไว้ ต้องเรียนให้สื่อทราบเพื่อนำไปให้ประชาชนได้ทราบต่อไป แต่ช่วงนี้ยังไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้น เพราะมีงานการอยู่เยอะ แต่เป็นดุลยพินิจท่านนายกฯ
ก่อนมองว่าทำงานมาจนถึงวันนี้แล้ว ต้องปรับโยกย้ายขนาดใหญ่ เพื่อให้การทำงานของครม. มีประสิทธิภาพพอกับความคาดหวังของประชาชน รองนายกฯกล่าวว่า อยู่ในดุลพินิจของนายกฯ ในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล ท่านจะทราบบรรยากาศได้ดีกว่า ส่วนเรื่องกระเพื่อมจากกลุ่มก๊วนต่างๆในพรรคนั้น การเมืองก็มีบรรยากาศไปในลักษณะอย่างนั้น ก็คงต้องรับฟังกัน
เมื่อถามว่าภาพรวมการทำงานที่ผ่านมา ถ้าจะปรับครม. จะปรับกี่ตำแหน่ง นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ ทุกอย่างที่ทราบก็มาจากสื่อเท่านั้น ไม่ได้ทราบจากที่อื่นเลย
**ชุมพลไม่ยอมถูกปรับพ้นครม.
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า โควตารัฐมนตรีของพรรคฯ จะยังไม่มีการปรับใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าจะมีรายงานข่าวว่าพรรคเพื่อไทย (พท.)เคลื่อนไหวดึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กลับไปดูแลเอง
“ในพรรคไม่ปรับอย่างแน่นอน แต่ถ้าจะปรับเราก็เป็นเรื่องของเขา แต่หากปรับผมออกคงยอมไม่ได้ ส่วนรัฐมนตรีเกษตรฯ ท่านไม่ได้ทำอะไรผิด” นายชุมพล กล่าว
กรณีที่หลายฝ่ายมองว่าเรื่องน้ำท่วมเป็นเพราะนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ บริหารงานผิดพลาดนั้น ขอยืนยันว่าหากรัฐบาลปล่อยให้นายธีระ และนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบจะไม่เกิดปัญหาดังกล่าว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะมีคนคอยแนะนำและสั่งการเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ไม่มีความรู้จริง
ส่วนนักการเมืองสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่กำลังจะพ้นโทษเว้นวรรคทางการเมืองนั้น นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ควรเข้ามาร่วม ครม.ทันที เพราะจะส่งผลให้ภาพพจน์ทางการเมืองเสียหาย ควรจะรอหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่ และควรใช้เวลาช่วงนี้ไปทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงรัฐมนตรีไปพลาง ๆ ก่อนจะเหมาะสมกว่า
**รมต.7 กระทรวงส่อโดนปรับ
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย อ้างว่า หลังจากพรรคมีมติมอบอำนาจการปรับครม.ให้หัวหน้าพรรคร่วม กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำเนินการและเริ่มพิจารณาวางกรอบพิจารณาตั้งแต่หลังหารือครม.นัดพิเศษเฉพาะพรรคเพื่อไทย ไปเมื่อสัปดาหืที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ตัดสินใจที่จะปรับครม.ใน 7 กระทรวงหลัก เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงไอซีที กระทรวงพัมนาสังคมลความมั่นคงของมนุษย์ และรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
**นิพิฏฐ์ ชี้ “ตู่-เต้น”นั่ง รมต.แน่
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ปชป. กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีชื่อนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ทั้ง 2 คน จะได้รับตำแหน่ง ครม. เพราะลักษณะของพรรคเพื่อไทยจะตอบแทนกับคนที่ทำงานให้ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนที่ไม่ได้ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย แต่เป็นภาพที่คนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยรับได้ ตนมองว่าการปรับ ครม.จากนี้จะเป็นการปรับเพื่อตอบแทนบุญคุณอย่างสาสม กับคนที่ทำงานทางการเมืองจนทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ
“ที่ผ่านมาเขาได้ตอบแทนไปหมดแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เห็นได้จากมติ ครม.อนุมัติเงินชดเชยเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง แต่ในขณะนี้ยังเหลือเพียงเรื่องเดียว คือช่วยให้ผู้ชุมนุมที่ถูกตัดสินว่าทำผิดตามกฎหมายอาญาไม่ได้รับโทษ โดยคิดว่าขณะนี้กำลังหาช่องทางช่วยเหลือด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ” นายนิพิฏฐ์กล่าว.