ยังเป็นกระแสแรงต่อเนื่องไม่ลดละเลิกรา สำหรับข่าวคราวการปรับครม.ยิ่งลักษณ์ ที่นับวันเก้าอี้แต่ละตัวของรัฐมนตรี “ผู้บ้าอำนาจ”ทั้งหลายจะสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังถูกเลื่อยขาเก้าอี้จากคนในพรรคด้วยกันเองอยู่ทุกวัน
เรื่องนี้แม้แต่ตัวแม่ทัพอย่าง "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี เองก็เริ่มมีเสียงแปล่งๆ ต่างจากเดิม ออกมาแบ่งรับแบ่งสู้ ส่งยิ้มแทนคำตอบทุกครั้งที่ถูกถามว่าหลังตรุษจีนจะมีการปรับ ครม.ใช่หรือไม่ ทำให้เค้าลางการปรับครม.เริ่มปรากฎเห็นชัดขึ้น
ส่อว่า จะทำการสลับสับเปลี่ยนกันในเร็ววันนี้!!
ก่อนหน้านี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีถูกสอบถามเรื่องนี้ทีไร คำตอบค่อนข้างชัดทำนองว่ายังไม่คิดถึงเรื่องนี้ แต่ล่าสุดความหมายเริ่มเปลี่ยนไป แม้จะยังไม่มีใครออกมาฟันธง ให้คำตอบที่ชัดเจน แต่ดูแล้วคงไม่น่าพลาด เมื่อถึงเวลาเหมาะสม ก็คงต้องจัดการให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดสักทีหนึ่ง
หลักใหญ่ใจความเลย รัฐมนตรีหลายคน ทำตัวเหมือนอยู่นอกโลก โลกลืม เป็น "สากกะเบือทิ่มครก" ไปวันๆ ทั้งประชาชนทั่วไปหรือแม้แต่ผู้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทยเอง ยังต้องส่ายหน้าเอือมระอาด้วยอาการ "ไม่ไหวจะเคลียร์"
งานไม่เดินหนำซ้ำหลายกระทรวงยังเกิดความขัดแย้งออกอากาศ ที่สงบเบาบางลงไป ยังไม่ได้หายไปไหน ยังคงเป็นคลื่นใต้น้ำที่ทำอย่างไรก็ไม่มีทางนิ่งสนิท
เลิกร้างหย่าศึกไปเพื่อรักษาเก้าอี้กันไว้เท่านั้น เช่น กระทรวงคมนาคม หากมีใครคนใดคนหนึ่งต้องหลุดวงโคจรไป รับรองต้องมีรายการเก็บตกหลังข่าว ออกมาแฉกันน้ำลายกระฉอกแน่!!
ทั้งนายใหญ่ นายหญิง นายน้อย สารพัดนาย ต่างรับรู้รับทราบ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปก่อน แต่เมื่อหนักข้อเข้า และประกอบกับถึงเวลาประจวบเหมาะก็ลงความเห็นไปในทางเดียวกันแล้วว่า ต้องปรับแน่
ทั้งสมชาย วงศ์สวัสดิ์, เยาวภา วงศ์สวัสดิ์, คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร์ ต่างเห็นพ้องต้องกัน แล้วก็ปรึกษานายใหญ่ ณ ดูไบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ว่าควรถือฤกย์งามยามดีปรับในช่วงตรุษจีนนี้สักทีหนึ่งก่อน แล้วค่อยปรับอีกทีเมื่อตอนที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 หลุดพันธนาการมาสักระยะหนึ่งแล้ว อาจจะเป็นเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม
ตำแหน่งที่เริ่มชัดและแน่นอนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือเข้าอี้ขุนคลัง ที่ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล นั่งเป็นพระอันดับอยู่ แม้ผลงานจะเป็นแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฎ แต่เท่ากับลองผิดลองถูกแล้วไม่เข้ากับสไตล์คิดไว ทำไว ฉวยไว ดูเหมือนว่ามันจืดชืดเกินไป ไม่มีลูกจี๊ดจ๊าด แซ่บอีหลี ผลงานครึกโครม ขณะเดียวกันการทำงานยังขบเหลี่ยมปีนเกลียวกับ กิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เพื่อนสนิทของ "ยิ่งลักษณ์"
หากต้องเลือกแน่นอนว่า "ยิ่งลักษณ์"ต้องเอา “รมต.เจ้าน้ำตาบ้าฟุตบอล”ไว้อยู่คู่กายต่อไปแน่นอน เพราะที่ผ่านมางานด้านเศรษฐกิจดูเหมือนว่ายิ่งลักษณ์จะมอบบทบาทสำคัญให้แทบทั้งหมด เรื่องใหญ่ๆจนถึงเรื่องมโนสาเร่ “ยิ่งลักษณ์”จะโยนให้ กิตติรัตน์ไปพิจารณาในเบื้องต้นแบบ "เหมาเข่ง" กันเลยทีเดียว
ส่วนรัฐมนตรีช่วยคลัง เก้าอี้ของ "บุญทรง เตริยาภิรมย์" นับว่าแข็งแกร่งดังหินผา เพราะเป็นทั้งเด็กสมชาย และคนสนิทเจ๊แดง แต่ทว่า "วิรุฬ เตชะไพบูลย์" อาเสี่ยรุ่นใหญ่ มีโอกาสสูงที่เก้าอี้จะกระเด็นออกจากทวารไปพร้อมรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง
อีกกระทรวงตัวเก็งเต็งหามที่ต้องถูกปรับเปลี่ยนคือ กระทรวงคมนาคม โดยรมต.ที่มีแนวโน้มว่าจะถูกอัปเปหิออกจากกระทรวงที่มีข่าวเกาเหลาขัดแย้งอยู่ตลอด น่าจะออกที่ "กิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์" ส.ส.ลายคราม ที่มารับตำแหน่งรมช.คมนาคม เพราะความอาวุโส และผลงานลับๆ บางอย่าง เมื่อหมดโปรโมชั่น ซ้ำยังขัดแย้งกับรัฐมนตรีว่าการ "สุกำพล สุวรรณทัต" ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นสายตรงดูไบคนหนึ่ง ย่อมอยู่ยากแน่
สำหรับ "ชัจจ์ กุลดิลก" รมช.คมนาคมอีกคนหนึ่ง อาจได้อยู่สานงานต่อหลังทำผลงานเอกอุ ถึงใจพระเดชพระคุณ ด้วยการหักด้ามพร้าด้วยเข่า เอาตลาดนัดจตุจักรมาจากกทม. มองเห็นลู่ทางตักตวงผลประโยชน์จากขุมทรัพย์แหล่งใหม่อื้อซ่า
กระทรวงศึกษาธิการก็ทำท่าว่าจะเป็นหนังม้วนเดียวกัน เพราะทำไปทำมาเก้าอี้ของ "วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล" เหนียวแน่นยิ่งกว่าทากาวตราช้าง ด้วยความเป็น “เด็กเจ๊” สายตรง “เยาวภา” ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในพรรคเพื่อไทยยามนี้ สามารถการันตีด้วยเปอร์เซ็นต์สูงว่า "ข้ายังอยู่" และหวยก็ต้องไปออกที่่รมช.ศึกษาธิการ เพื่อล้างภาพความขัดแย้งให้จางไป แม้ว่าส.ส.บางกลุ่มบางพวกจะพุ่งเป้าถล่มไปที่ "วรวัจน์" แต่ไม่สะเทือน!!
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯกำกับดูแลสื่อ "กฤษณา สีหลักษณ์" เป็นเก้าอี้ที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยด้วยกันเองตั้งเป้าถล่ม ด่าแบบสาดเสียเทเสียมานานหลายเดือนแล้ว หลังประเมินฝีมือแล้วฟันธงว่า "มือไม่ถึง" แถมไม่เด็ดขาด
ตัวเก็งชนิดนอนมา จ่อคิวจะเสียบทุกเวลานั่นก็คือ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งคนในพรรคประเมินแล้วว่าเหมาะสม อีกทั้งจะได้ใจคนเสื้อแดงไปในคราวเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่า "จตุพร พรหมพันธุ์" แกนนำแดงสายฮาร์ดคอร์ ดิบ ถ่อย เถื่อนก็จะผงาดเข้ามามีอำนาจแบบจริงจังในตำแหน่งรมช.มหาดไทย
สัญญาณเริ่มชัดแจ้ง แดงแจ๋ แทงหวยเต็งกันแล้ว!!
ในส่วนของรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่มีเคลื่อนไหวมากนัก จะมีก็เฉพาะเก้าอี้รมว.เกษตรและสหกรณ์ของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ "ธีระ วงศ์สมุทร" นั่งเป็นหุ่นเชิดบริหารตามใจ “เติ้งสุพรรณ”อยู่ แนวโน้มสูงว่าพรรคเพื่อไทยจะขอแลกกลับมาคุมเอง เพื่อพิสูจน์ฝีมือในการบริหารจัดการน้ำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ล่าสุดได้ส่งคนไปหารือกับ "บรรหาร ศิลปอาชา" ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนามาแล้ว แต่ยังตกลงกันไม่ได้สะเด็ดน้ำ เพราะชาติไทยพัฒนายื่นคำขาดว่าถ้าต้องแลกกันต้องเอากระทรวงเกรดเอระนาบเดียวกันคืนกลับมา เช่นกระทรวงศึกษาธิการ!!
มันจึงมะรุมมะตุ้มพัลวันกันอยู่อย่างนี้ ที่ว่าจะปรับเร็ว ปรับไว ปรับภาพลักษณ์ให้สวยหรู มันก็ช้า ขลุกขลักขลุกขลิกอยู่อย่างนี้เรื่องต่อรองกับพรรคชาติไทยยพัฒนาคงต้องคุยกันอีกหลายยก
แต่หาก "ไม่ไหวจะเคลียร์" อาจมีรายการงัดเกมเฉดหัวทิ้งออกจากพรรคร่วมรัฐบาลมาข่มขู่ เพราะชั่วโมงนี้มีหลายกลุ่ม หลายก๊วน ที่จ้องรอเสียบ กลับเข้ามาอยู่ใต้ชายคารัฐบาลพรรคเพื่อไทย
โดยเฉพาะพลพรรคบ้านเลขที่ 111 ที่เคยตีจากสะบัดก้นหนีไป แต่กำลังเดินเกมกลับบ้านเก่าแบบเนียนๆ!!
เรื่องนี้แม้แต่ตัวแม่ทัพอย่าง "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี เองก็เริ่มมีเสียงแปล่งๆ ต่างจากเดิม ออกมาแบ่งรับแบ่งสู้ ส่งยิ้มแทนคำตอบทุกครั้งที่ถูกถามว่าหลังตรุษจีนจะมีการปรับ ครม.ใช่หรือไม่ ทำให้เค้าลางการปรับครม.เริ่มปรากฎเห็นชัดขึ้น
ส่อว่า จะทำการสลับสับเปลี่ยนกันในเร็ววันนี้!!
ก่อนหน้านี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีถูกสอบถามเรื่องนี้ทีไร คำตอบค่อนข้างชัดทำนองว่ายังไม่คิดถึงเรื่องนี้ แต่ล่าสุดความหมายเริ่มเปลี่ยนไป แม้จะยังไม่มีใครออกมาฟันธง ให้คำตอบที่ชัดเจน แต่ดูแล้วคงไม่น่าพลาด เมื่อถึงเวลาเหมาะสม ก็คงต้องจัดการให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดสักทีหนึ่ง
หลักใหญ่ใจความเลย รัฐมนตรีหลายคน ทำตัวเหมือนอยู่นอกโลก โลกลืม เป็น "สากกะเบือทิ่มครก" ไปวันๆ ทั้งประชาชนทั่วไปหรือแม้แต่ผู้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทยเอง ยังต้องส่ายหน้าเอือมระอาด้วยอาการ "ไม่ไหวจะเคลียร์"
งานไม่เดินหนำซ้ำหลายกระทรวงยังเกิดความขัดแย้งออกอากาศ ที่สงบเบาบางลงไป ยังไม่ได้หายไปไหน ยังคงเป็นคลื่นใต้น้ำที่ทำอย่างไรก็ไม่มีทางนิ่งสนิท
เลิกร้างหย่าศึกไปเพื่อรักษาเก้าอี้กันไว้เท่านั้น เช่น กระทรวงคมนาคม หากมีใครคนใดคนหนึ่งต้องหลุดวงโคจรไป รับรองต้องมีรายการเก็บตกหลังข่าว ออกมาแฉกันน้ำลายกระฉอกแน่!!
ทั้งนายใหญ่ นายหญิง นายน้อย สารพัดนาย ต่างรับรู้รับทราบ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปก่อน แต่เมื่อหนักข้อเข้า และประกอบกับถึงเวลาประจวบเหมาะก็ลงความเห็นไปในทางเดียวกันแล้วว่า ต้องปรับแน่
ทั้งสมชาย วงศ์สวัสดิ์, เยาวภา วงศ์สวัสดิ์, คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร์ ต่างเห็นพ้องต้องกัน แล้วก็ปรึกษานายใหญ่ ณ ดูไบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ว่าควรถือฤกย์งามยามดีปรับในช่วงตรุษจีนนี้สักทีหนึ่งก่อน แล้วค่อยปรับอีกทีเมื่อตอนที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 หลุดพันธนาการมาสักระยะหนึ่งแล้ว อาจจะเป็นเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม
ตำแหน่งที่เริ่มชัดและแน่นอนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือเข้าอี้ขุนคลัง ที่ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล นั่งเป็นพระอันดับอยู่ แม้ผลงานจะเป็นแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฎ แต่เท่ากับลองผิดลองถูกแล้วไม่เข้ากับสไตล์คิดไว ทำไว ฉวยไว ดูเหมือนว่ามันจืดชืดเกินไป ไม่มีลูกจี๊ดจ๊าด แซ่บอีหลี ผลงานครึกโครม ขณะเดียวกันการทำงานยังขบเหลี่ยมปีนเกลียวกับ กิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เพื่อนสนิทของ "ยิ่งลักษณ์"
หากต้องเลือกแน่นอนว่า "ยิ่งลักษณ์"ต้องเอา “รมต.เจ้าน้ำตาบ้าฟุตบอล”ไว้อยู่คู่กายต่อไปแน่นอน เพราะที่ผ่านมางานด้านเศรษฐกิจดูเหมือนว่ายิ่งลักษณ์จะมอบบทบาทสำคัญให้แทบทั้งหมด เรื่องใหญ่ๆจนถึงเรื่องมโนสาเร่ “ยิ่งลักษณ์”จะโยนให้ กิตติรัตน์ไปพิจารณาในเบื้องต้นแบบ "เหมาเข่ง" กันเลยทีเดียว
ส่วนรัฐมนตรีช่วยคลัง เก้าอี้ของ "บุญทรง เตริยาภิรมย์" นับว่าแข็งแกร่งดังหินผา เพราะเป็นทั้งเด็กสมชาย และคนสนิทเจ๊แดง แต่ทว่า "วิรุฬ เตชะไพบูลย์" อาเสี่ยรุ่นใหญ่ มีโอกาสสูงที่เก้าอี้จะกระเด็นออกจากทวารไปพร้อมรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง
อีกกระทรวงตัวเก็งเต็งหามที่ต้องถูกปรับเปลี่ยนคือ กระทรวงคมนาคม โดยรมต.ที่มีแนวโน้มว่าจะถูกอัปเปหิออกจากกระทรวงที่มีข่าวเกาเหลาขัดแย้งอยู่ตลอด น่าจะออกที่ "กิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์" ส.ส.ลายคราม ที่มารับตำแหน่งรมช.คมนาคม เพราะความอาวุโส และผลงานลับๆ บางอย่าง เมื่อหมดโปรโมชั่น ซ้ำยังขัดแย้งกับรัฐมนตรีว่าการ "สุกำพล สุวรรณทัต" ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นสายตรงดูไบคนหนึ่ง ย่อมอยู่ยากแน่
สำหรับ "ชัจจ์ กุลดิลก" รมช.คมนาคมอีกคนหนึ่ง อาจได้อยู่สานงานต่อหลังทำผลงานเอกอุ ถึงใจพระเดชพระคุณ ด้วยการหักด้ามพร้าด้วยเข่า เอาตลาดนัดจตุจักรมาจากกทม. มองเห็นลู่ทางตักตวงผลประโยชน์จากขุมทรัพย์แหล่งใหม่อื้อซ่า
กระทรวงศึกษาธิการก็ทำท่าว่าจะเป็นหนังม้วนเดียวกัน เพราะทำไปทำมาเก้าอี้ของ "วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล" เหนียวแน่นยิ่งกว่าทากาวตราช้าง ด้วยความเป็น “เด็กเจ๊” สายตรง “เยาวภา” ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในพรรคเพื่อไทยยามนี้ สามารถการันตีด้วยเปอร์เซ็นต์สูงว่า "ข้ายังอยู่" และหวยก็ต้องไปออกที่่รมช.ศึกษาธิการ เพื่อล้างภาพความขัดแย้งให้จางไป แม้ว่าส.ส.บางกลุ่มบางพวกจะพุ่งเป้าถล่มไปที่ "วรวัจน์" แต่ไม่สะเทือน!!
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯกำกับดูแลสื่อ "กฤษณา สีหลักษณ์" เป็นเก้าอี้ที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยด้วยกันเองตั้งเป้าถล่ม ด่าแบบสาดเสียเทเสียมานานหลายเดือนแล้ว หลังประเมินฝีมือแล้วฟันธงว่า "มือไม่ถึง" แถมไม่เด็ดขาด
ตัวเก็งชนิดนอนมา จ่อคิวจะเสียบทุกเวลานั่นก็คือ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งคนในพรรคประเมินแล้วว่าเหมาะสม อีกทั้งจะได้ใจคนเสื้อแดงไปในคราวเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่า "จตุพร พรหมพันธุ์" แกนนำแดงสายฮาร์ดคอร์ ดิบ ถ่อย เถื่อนก็จะผงาดเข้ามามีอำนาจแบบจริงจังในตำแหน่งรมช.มหาดไทย
สัญญาณเริ่มชัดแจ้ง แดงแจ๋ แทงหวยเต็งกันแล้ว!!
ในส่วนของรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่มีเคลื่อนไหวมากนัก จะมีก็เฉพาะเก้าอี้รมว.เกษตรและสหกรณ์ของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ "ธีระ วงศ์สมุทร" นั่งเป็นหุ่นเชิดบริหารตามใจ “เติ้งสุพรรณ”อยู่ แนวโน้มสูงว่าพรรคเพื่อไทยจะขอแลกกลับมาคุมเอง เพื่อพิสูจน์ฝีมือในการบริหารจัดการน้ำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ล่าสุดได้ส่งคนไปหารือกับ "บรรหาร ศิลปอาชา" ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนามาแล้ว แต่ยังตกลงกันไม่ได้สะเด็ดน้ำ เพราะชาติไทยพัฒนายื่นคำขาดว่าถ้าต้องแลกกันต้องเอากระทรวงเกรดเอระนาบเดียวกันคืนกลับมา เช่นกระทรวงศึกษาธิการ!!
มันจึงมะรุมมะตุ้มพัลวันกันอยู่อย่างนี้ ที่ว่าจะปรับเร็ว ปรับไว ปรับภาพลักษณ์ให้สวยหรู มันก็ช้า ขลุกขลักขลุกขลิกอยู่อย่างนี้เรื่องต่อรองกับพรรคชาติไทยยพัฒนาคงต้องคุยกันอีกหลายยก
แต่หาก "ไม่ไหวจะเคลียร์" อาจมีรายการงัดเกมเฉดหัวทิ้งออกจากพรรคร่วมรัฐบาลมาข่มขู่ เพราะชั่วโมงนี้มีหลายกลุ่ม หลายก๊วน ที่จ้องรอเสียบ กลับเข้ามาอยู่ใต้ชายคารัฐบาลพรรคเพื่อไทย
โดยเฉพาะพลพรรคบ้านเลขที่ 111 ที่เคยตีจากสะบัดก้นหนีไป แต่กำลังเดินเกมกลับบ้านเก่าแบบเนียนๆ!!
