ASTVผู้จัดการรายวัน-ระดมกำลังจากทั่วประเทศกว่า 800 นาย ลุยจับบ้านพัก-รีสอร์ตรุกป่าอุทยานฯทับลาน ล็อตใหม่ 152 แห่ง ล่าสุดแจ้งความดำเนินคดีแล้วกว่า 20 ราย แฉมีบิ๊กขรก.-นักธุรกิจใหญ่ เป็นเจ้าของอื้อ
วานนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ชุดเคลื่อนที่เร็วกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กว่า 800 นาย ได้กระจายกำลังลงพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เพื่อดำเนินการตรวจยึดและตรวจจับบ้านพัก รีสอร์ตที่บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน รวม 152 แห่ง โดยมีเป้าหมายดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ม.ค.นี้
เวลา 12.30 น. ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 136 (สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่) นำโดยนายสมเกียรติ คณะแก้ว หัวหน้าชุด ได้นำกำลังรวมกว่า 15 นาย ลงตรวจสอบรีสอร์ต “บ้านทองคำ” บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ตั้งอยู่เลขที่ 281 หมู่ 1 บ้านไทยสามัคคี (คุ้มคลองกระทิง) ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยมีนายทองคำ จ้ายนอก อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192 หมู่ 1 บ้านไทยสามัคคี อ้างเป็นเจ้าของ ซึ่งมีชาวบ้านที่ทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะเดินทางมา ได้มารวมตัวกันรอต่อต้านการจับกุม อยู่ภายในบ้านทองคำกว่า 20 คน
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เดินทางมาถึงและแจ้งความประสงค์ให้ นายทองคำ ทราบ จากนั้นนายทองคำ ได้นำเจ้าหน้าที่เดินตรวจสอบขอบเขตพื้นที่ทั้งหมด โดยภายในบริเวณ “บ้านทองคำ” มีการปลูกสร้างบ้านพักกึ่งรีสอร์ต รวม 11 หลัง บนเนื้อที่ 37ไร่ แบ่งเป็น บ้านพักขนาดใหญ่ 2 ชั้น 2 หลัง ,ห้องน้ำ 1 หลัง, ห้องเก็บของหรือโรงครัว 1 หลัง และ รีสอร์ต ปลูกสร้างเป็นบ้านไม้ทรงไทย อีก 7 หลัง ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนเนินชมวิวทิวทัศน์พื้นที่ป่าคลองกระทิงได้อย่างชัดเจน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกการเข้าตรวจสอบพื้นที่พร้อมแจ้งให้นายทองคำทราบว่า จะต้องนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดี แต่นายทองคำได้ขอร้องเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ได้เตรียมการเรื่องการประกันตัว และอยากขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่ว่าอย่าดำเนินคดี เพราะทำกินอยู่บนพื้นที่ดินของตัวเองมานานตั้งแต่ปี 2513
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจรจากันสถานการณ์เริ่มตรึงเครียดเนื่องจากนางเฉลิม จ้ายนอก อายุ 54 ปี ภรรยานายทองคำ ได้ตะโกนบอกชาวบ้านว่า ให้พานายทองคำหนีออกไป เพราะเจ้าหน้าที่จะจับกุมตัว ชาวบ้านจึงกรูกันเข้ามาประชิดตัว นายทองคำ และ กลุ่มเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อุทยานฯเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงแจ้งกับนายทองคำว่า เจ้าหน้าที่ทำตามหน้าที่และขอให้ทุกฝ่ายใจเย็น จึงเปิดการเจรจากันอีกครั้ง
ต่อมาประมาณ 30 นาที ชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้โทรศัพท์แจ้งให้ชาวบ้านในหมู่บ้านไทยสามัคคีเดินทางมาสมทบ โดยชาวบ้านได้ขับรถกระบะพร้อมบรรทุกผู้โดยสารมาด้านหลังเพิ่มเติมอีก 5-6 คันรวมกว่า 50 คน ทุกคนกรูเข้ามาที่โต๊ะเจ้าหน้าที่ เพื่อมารับฟังข้อเท็จจริงและมากดดันไม่ให้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายทองคำเป็นดำเนินคดี
จากนั้น นายประกอบ ขันกระโทก รองนายก อบต.ไทยสามัคคี ได้เดินทางมาเจรจา พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ขอให้เดินทางกลับไปก่อน ยืนยันว่านายทองคำจะเข้ามอบตัวในภายหลัง
ด้านนายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า วันนี้ชุดเฉพาะกิจของกรมอุทยานฯ ที่ระดมจากทั่วประเทศ ได้ลงพื้นที่ดำเนินการตรวจยึดและตรวจสอบบ้านพักรีสอร์ตที่บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลานรวม152 แห่ง โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 152 ชุด ๆ ละประมาณ 5 นาย ลงพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
ล่าสุดขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบ้านพักรีสอร์ตไปแล้วรวมกว่า 21 ราย รวมพื้นที่กว่า 484 ไร่ แบ่งเป็นสิ่งปลูกสร้าง 139 หลัง แบ่งเป็นแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ซึ่งเป็นวันแรกของการดำเนินการจำนวน 13ราย และ วันนี้อีก 8 ราย ซึ่งจะสรุปตัวเลขอีกครั้งในช่วงค่ำของวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งความที่ สภ. วังน้ำเขียว 20 คดี และที่ สภ.วังขอนแดง อ.นาดี รวม 1 คดี ซึ่ง ใน 2 วันนี้เจ้าหน้าที่ได้มารับแฟ้มข้อมูลเพื่อลงพื้นที่ตรวจจับทั้งหมดจำนวน 100 ชุด ทยอยรายงานสรุปมาที่อุทยานแห่งชาติทับลานอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะรวบรวมส่งกรมอุทยานฯ ต่อไป
นายนุวรรต กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจที่กระจายกำลังกันลงพื้นที่นั้น จะเข้าไปตรวจสอบพิกัด ที่ตั้ง และเนื้อที่ของบ้านพักรีสอร์ตเป้าหมาย หากพบผู้อ้างตัวเป็นเจ้าของก็จะได้จับกุมมาดำเนินคดี หากไม่พบเจ้าหน้าที่จะแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.วังน้ำเขียว และ สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาต่อไป โดยบ้านพักรีสอร์ตที่บุกรุกป่าอุทยานฯทับลาน ทั้ง 152 ราย นี้ เป็นรายใหม่ทั้งหมด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ติดกับรายที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้แล้ว
“จากการตรวจสอบรีสอร์ตบ้านพักทั้ง 152 แห่ง มีทั้งนักการเมืองระดับชาติ, ข้าราชการทหารระดับนายพล, ข้าราชการตำรวจตั้งแต่ระดับหัวหน้าสถานี, ผู้พิพากษา และนักธุรกิจรายใหญ่ เป็นเจ้าของ โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่ในเขต อ.วังน้ำเขียว 140 แห่ง และ อ.นาดี 12 แห่ง” นายนุวรรต กล่าว.
วานนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ชุดเคลื่อนที่เร็วกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กว่า 800 นาย ได้กระจายกำลังลงพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เพื่อดำเนินการตรวจยึดและตรวจจับบ้านพัก รีสอร์ตที่บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน รวม 152 แห่ง โดยมีเป้าหมายดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ม.ค.นี้
เวลา 12.30 น. ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 136 (สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่) นำโดยนายสมเกียรติ คณะแก้ว หัวหน้าชุด ได้นำกำลังรวมกว่า 15 นาย ลงตรวจสอบรีสอร์ต “บ้านทองคำ” บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ตั้งอยู่เลขที่ 281 หมู่ 1 บ้านไทยสามัคคี (คุ้มคลองกระทิง) ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยมีนายทองคำ จ้ายนอก อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192 หมู่ 1 บ้านไทยสามัคคี อ้างเป็นเจ้าของ ซึ่งมีชาวบ้านที่ทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะเดินทางมา ได้มารวมตัวกันรอต่อต้านการจับกุม อยู่ภายในบ้านทองคำกว่า 20 คน
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เดินทางมาถึงและแจ้งความประสงค์ให้ นายทองคำ ทราบ จากนั้นนายทองคำ ได้นำเจ้าหน้าที่เดินตรวจสอบขอบเขตพื้นที่ทั้งหมด โดยภายในบริเวณ “บ้านทองคำ” มีการปลูกสร้างบ้านพักกึ่งรีสอร์ต รวม 11 หลัง บนเนื้อที่ 37ไร่ แบ่งเป็น บ้านพักขนาดใหญ่ 2 ชั้น 2 หลัง ,ห้องน้ำ 1 หลัง, ห้องเก็บของหรือโรงครัว 1 หลัง และ รีสอร์ต ปลูกสร้างเป็นบ้านไม้ทรงไทย อีก 7 หลัง ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนเนินชมวิวทิวทัศน์พื้นที่ป่าคลองกระทิงได้อย่างชัดเจน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกการเข้าตรวจสอบพื้นที่พร้อมแจ้งให้นายทองคำทราบว่า จะต้องนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดี แต่นายทองคำได้ขอร้องเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ได้เตรียมการเรื่องการประกันตัว และอยากขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่ว่าอย่าดำเนินคดี เพราะทำกินอยู่บนพื้นที่ดินของตัวเองมานานตั้งแต่ปี 2513
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจรจากันสถานการณ์เริ่มตรึงเครียดเนื่องจากนางเฉลิม จ้ายนอก อายุ 54 ปี ภรรยานายทองคำ ได้ตะโกนบอกชาวบ้านว่า ให้พานายทองคำหนีออกไป เพราะเจ้าหน้าที่จะจับกุมตัว ชาวบ้านจึงกรูกันเข้ามาประชิดตัว นายทองคำ และ กลุ่มเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อุทยานฯเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงแจ้งกับนายทองคำว่า เจ้าหน้าที่ทำตามหน้าที่และขอให้ทุกฝ่ายใจเย็น จึงเปิดการเจรจากันอีกครั้ง
ต่อมาประมาณ 30 นาที ชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้โทรศัพท์แจ้งให้ชาวบ้านในหมู่บ้านไทยสามัคคีเดินทางมาสมทบ โดยชาวบ้านได้ขับรถกระบะพร้อมบรรทุกผู้โดยสารมาด้านหลังเพิ่มเติมอีก 5-6 คันรวมกว่า 50 คน ทุกคนกรูเข้ามาที่โต๊ะเจ้าหน้าที่ เพื่อมารับฟังข้อเท็จจริงและมากดดันไม่ให้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายทองคำเป็นดำเนินคดี
จากนั้น นายประกอบ ขันกระโทก รองนายก อบต.ไทยสามัคคี ได้เดินทางมาเจรจา พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ขอให้เดินทางกลับไปก่อน ยืนยันว่านายทองคำจะเข้ามอบตัวในภายหลัง
ด้านนายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า วันนี้ชุดเฉพาะกิจของกรมอุทยานฯ ที่ระดมจากทั่วประเทศ ได้ลงพื้นที่ดำเนินการตรวจยึดและตรวจสอบบ้านพักรีสอร์ตที่บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลานรวม152 แห่ง โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 152 ชุด ๆ ละประมาณ 5 นาย ลงพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
ล่าสุดขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบ้านพักรีสอร์ตไปแล้วรวมกว่า 21 ราย รวมพื้นที่กว่า 484 ไร่ แบ่งเป็นสิ่งปลูกสร้าง 139 หลัง แบ่งเป็นแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ซึ่งเป็นวันแรกของการดำเนินการจำนวน 13ราย และ วันนี้อีก 8 ราย ซึ่งจะสรุปตัวเลขอีกครั้งในช่วงค่ำของวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งความที่ สภ. วังน้ำเขียว 20 คดี และที่ สภ.วังขอนแดง อ.นาดี รวม 1 คดี ซึ่ง ใน 2 วันนี้เจ้าหน้าที่ได้มารับแฟ้มข้อมูลเพื่อลงพื้นที่ตรวจจับทั้งหมดจำนวน 100 ชุด ทยอยรายงานสรุปมาที่อุทยานแห่งชาติทับลานอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะรวบรวมส่งกรมอุทยานฯ ต่อไป
นายนุวรรต กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจที่กระจายกำลังกันลงพื้นที่นั้น จะเข้าไปตรวจสอบพิกัด ที่ตั้ง และเนื้อที่ของบ้านพักรีสอร์ตเป้าหมาย หากพบผู้อ้างตัวเป็นเจ้าของก็จะได้จับกุมมาดำเนินคดี หากไม่พบเจ้าหน้าที่จะแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.วังน้ำเขียว และ สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาต่อไป โดยบ้านพักรีสอร์ตที่บุกรุกป่าอุทยานฯทับลาน ทั้ง 152 ราย นี้ เป็นรายใหม่ทั้งหมด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ติดกับรายที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้แล้ว
“จากการตรวจสอบรีสอร์ตบ้านพักทั้ง 152 แห่ง มีทั้งนักการเมืองระดับชาติ, ข้าราชการทหารระดับนายพล, ข้าราชการตำรวจตั้งแต่ระดับหัวหน้าสถานี, ผู้พิพากษา และนักธุรกิจรายใหญ่ เป็นเจ้าของ โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่ในเขต อ.วังน้ำเขียว 140 แห่ง และ อ.นาดี 12 แห่ง” นายนุวรรต กล่าว.
