xs
xsm
sm
md
lg

“หน.อุทยานทับลาน” ผวา ไข้โป้ง ! สวมเสื้อเกราะ- ขออาวุธปืนเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯทับลาน ได้รับเครื่องรางของขลังจากอธิบดีกรมอุทยานฯ วันนี้ (19 ส.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน ผวา“ไข้โป้ง” สวมเสื้อเกราะที่ผู้หวังดีบริจาคให้ พร้อมร้องขออาวุธปืนและยานพาหนะเพิ่ม เผยได้รับกำลังใจที่ดีจากผู้ใหญ่ในกระทรวงให้ระมัดระวังตัว ยันเดินหน้าปราบกลุ่มรุกป่าต่อเนื่อง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย

วันนี้(19 ส.ค.) นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า การดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลานยังเดินหน้าต่อเนื่องกรณีที่เป็นคดีความและศาลตัดสินแล้ว โดยได้ทำการติดป้ายประกาศอุทยานฯ ให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามอำนาจในมาตร 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แล้วจำนวน 38 แห่ง คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ทั้ง 59 แห่งที่มีสิ่งปลูกสร้าง และตามกำหนดต้องทำการรื้อถอนออกไปทั้งหมดภายใน 30 ต.ค.นี้

ล่าสุดมีผู้ประกอบการบ้านพักรีสอร์ตยื่นอุทธรณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับคำสั่งและให้เพิกถอนคำสั่งแล้วจำนวน 26 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 1 (ปราจีนบุรี) จะรู้ผลภายใน 30 วัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดที่ให้ความร่วมมือในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปเอง

นายเทวินทร์ กล่าวถึงกรณีได้รับการแจ้งเตือนพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานมุ่งหมายเอาชีวิต ว่า เรื่องนี้พยายามอธิบายให้ผู้ที่คิดไม่ดีได้เข้าใจว่า เป็นการทำหน้าที่ของเราไม่ได้คิดที่จะไปทำร้ายหรือทำลายใคร แต่เป็นการทำหน้าที่ตามกฎหมาย หากไม่มีผมก็ต้องมีคนอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทนตอนนี้ได้รับกำลังใจที่ดีจากผู้ใหญ่ในกระทรวง ทั้ง อธิบดีกรมอุทยานฯ และ ปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ แสดงความเป็นห่วงพร้อมประสานทางตำรวจให้เข้ามาคอยช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย และท่านได้บอกให้ระมัดระวังตัว ดูเรื่องความปลอดภัย และปฏิบัติตามหน้าที่ต่อไป

“ขณะนี้มีผู้หวังดีบริจาคเสื้อเกราะมาให้สวมใส่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ส่งสายตรวจเข้ามาตรวจตามถี่มากขึ้นเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้” นายเทวินทร์

นายเทวินทร์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ทางอุทยานฯทับลาน ต้องการเพิ่มเติมในตอนนี้อาวุธปืนแบบ เอชเค เพิ่มเติมอีกจำนวนกว่า 10 กระบอก เนื่องจากที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ เพราะการเข้าไปปราบปรามกลุ่มผู้บุกรุกป่าค่อนข้างเสี่ยง ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ เคยถูกกลุ่มผู้บุกรุกป่ายิงเสียชีวิตมาแล้ว ฉะนั้นอาวุธปืนจึงถือเป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่และการป้องกันตัว แต่ไม่ใช่ต้องการนำมาเพื่อไปเข่นฆ่าใคร นอกจากนี้ยังต้องการรถยนต์ที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งได้ทำการร้องขอกับกรมอุทยานฯ ขึ้นไปแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น