xs
xsm
sm
md
lg

ป่าไม้จ้องรื้อ22รีสอร์ตพ่วงเรียกค่าเสียหาย

เผยแพร่:

พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเขียวคดี 22 รีสอร์ตเขาแผงม้า รุกป่าสงวนฯ เรียกขอหลักฐานเพิ่มเติมจากป่าไม้ประกอบสำนวนเพื่อเดินหน้าคดี ด้านป่าไม้พร้อมให้ข้อมูลเร่งประสานส่วนกลางส่งให้ถึงมือตำรวจ เผยหากเจ้าของ 22 รีสอร์ตยังมุดหัวไม่มาแสดงตัวภายใน 15 วัน เตรียมลุยใช้ กม.ป่าไม้ ม. 25 เข้าปักป้ายสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างใน 45 วัน ชี้หากรู้ตัวเจ้าของชัดพร้อมฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายเพิ่ม

วานนี้(17 ส.ค.) นายชัยยงค์ ฮมภิรมย์ นายอำเภอวังน้ำเขียว ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีรีสอร์ตบ้านพัก 22 แห่ง บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา หลังจากนายไพโรจน์ ชุ่มเพ็งพันธุ์ เจ้าพนักงานป่าไม้ผู้ชำนาญงาน หัวหน้าป้องกันรักษาป่าไม้ที่ 4 นครราชสีมา (เขาภูหลวง) กรมป่าไม้ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.วังน้ำเขียวว่า ขณะนี้การดำเนินการสืบสวนอยู่ในระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ของผู้ร้อง ในการเข้าให้รายละเอียดข้อมูลต่างๆ เพื่อประกอบสำนวนคดี โดยพนักงานสอบสวนจำเป็นที่ต้องรับทราบข้อมูลทุกอย่างโดยละเอียด ทั้งในส่วนของจุดพิกัดที่ตั้งรายละเอียดพื้นที่ที่มีการบุกรุกและการประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการบุกรุกในครั้งนี้ ของรีสอร์ตบ้านพักทั้ง 22 แห่ง

“ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเขียว ได้ทำหนังสือไปถึงหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ 4 นครราชสีมา เพื่อให้เร่งนำข้อมูลหลักฐานทั้งรายละเอียดที่กล่าวข้างต้น ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อนำไปประกอบสำนวนจัดเตรียมไว้ในกรณีที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งควบคู่ไปด้วย” นายชัยยงค์ กล่าว

พ.ต.ท.โชติ ตระกูล รองผู้กำกับการ สภ.วังน้ำเขียว ผู้ควบคุมการสอบสวนคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง ต.วังน้ำเขียว เปิดเผยว่า ในส่วนของกระบวนการดำเนินคดีนั้นถึงแม้ทางตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว จะรับแจ้งความดำเนินคดีกับรีสอร์ตทั้ง 22 แห่งแล้ว แต่ขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนขณะนี้ยังเป็นไปค่อนข้างลำบาก เนื่องจากข้อมูลที่ทางพนักงานสอบสวนได้รับมาจากทางผู้กล่าวหานั้น ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมีเพียงพิกัดที่ตั้งของรีสอร์ตทั้ง 22 แห่งที่ถูกกล่าวหาเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทั้งผู้ครอบครองพื้นที่ รายละเอียดพื้นที่ที่ทางหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ 4 นครราชสีมาระบุว่าถูกบุกรุก และมูลค่าความเสียหายนั้นยังไม่มีการแจ้งข้อมูลเข้ามา

สำหรับการสืบสวนหาตัวผู้ครอบครองพื้นที่หรือเจ้าของรีสอร์ตบ้านพักทั้ง 22 แห่งที่ถูกกล่าวหานั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวนฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ที่น่าจะมีส่วนรับรู้ในการอนุญาตให้มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างเกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งทางผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อติดตามตัวเจ้าของรีสอร์ตบ้านพักทั้ง 22 แห่ง มารับทราบข้อกล่าวหา และเชิญมาให้ปากคำ พร้อมกับให้โอกาสนำหลักฐานในการถือครองพื้นที่มาแสดงกับทางพนักงานสอบสวนอีกทางหนึ่งด้วย

ด้านนายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา กล่าวถึงการเตรียมข้อมูลหลักฐานเพื่อส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเขียวดำเนินคดีกับเจ้าของรีสอร์ต บ้านพักทั้ง 22 แห่งที่บุกรุกป่าว่า ขณะนี้ทางกรมป่าไม้ อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการโดยใช้อำนาจ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2524 มาตรา 25 ในการตรวจสอบรีสอร์ตบ้านพักทั้ง 22 แห่งดังกล่าว เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ครอบครองพื้นที่และเจ้าของสิ่งปลูกสร้างทั้ง 22 แห่งนำหลักฐานเอกสารการถือครองพื้นที่มาแสดงกับทางเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน และหากครบกำหนดแล้ว ยังไม่มีผู้ใดนำหลักฐานมาแสดงกับทางเจ้าหน้าที่ ทางกรมป่าไม้ก็จะติดประกาศสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ภายใน 45 วัน และหากไม่ปฏิบัติตามทางกรมป่าไม่จะดำเนินการเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเองทั้งหมด ซึ่งในส่วนนี้เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกรมป่าไม้ที่มีอยู่

“หากครบกำหนดการรื้อถอนแต่ผู้ประกอบการยังนิ่งเฉย ทางกรมป่าไม้จำเป็นต้องเป็นผู้สำรองออกค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกจากพื้นที่ไปก่อน เพื่อรอผลการสอบสวนหาตัวผู้เป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้างและผู้ครอบครองพื้นที่รีสอร์ตบ้านพักทั้ง 22 แห่งของพนักงานสอบสวน หากสามารถระบุตัวผู้กระทำความผิดได้ชัดเจน ทางกรมป่าไม้ก็เตรียมฟ้องทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ รวมถึงเรียกค่ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ทางกรมป่าไม้สำรองค่าใช้จ่ายไปก่อนด้วยเช่นเดียวกัน” นายสุเทพ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น