ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- รมว.เกษตรฯ ยันไม่นิ่งนอนใจแก้ปัญหารุกป่าวังน้ำเขียว เผยอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ ส.ป.ก.ทั้งหมดคาดเสร็จใน 2 เดือน ระบุพบมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก. กลายเป็นรีสอร์ต-บ้านพักหรู 25 แห่ง ล่าสุดตรวจสอบแล้ว 59 ราย เผยทำหนังสือแจ้งเตือนเจ้าของสิทธิ์ให้แก้ไขปรับพื้นที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ภายใน 60 วันหากยังเฉยเจอเพิกถอนสิทธิ์ ลั่นยึดกม.เป็นตัวตั้งจัดการเหมือนกันหมดทั่วประเทศ
วันนี้ (30 ก.ค.) นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังร่วมพิธีเปิดงานวันเกษตรแห่งชาติประจำปี 2554 ที่ จ.นครราชสีมา ถึงปัญหาการบุกรุกป่า และการนำที่ ส.ป.ก.ไปสร้างบ้านพัก รีสอร์ตหรูใน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ว่า ตามที่ปรากฏในสื่อมวลชนนั้น กระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการดำเนินการตามขั้นตอนที่มีอยู่มาโดยตลอด ซึ่งใน อ.วังน้ำเขียวนั้น กรมป่าไม้ได้มอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก. ดูแล 2.4 แสนไร่ และได้มีการจัดสรรให้แก่เกษตรกรไปแล้ว 1.4 แสนไร่เป็นเกษตรกรประมาณ 6,400 ราย ซึ่งที่ผ่านมา ส.ป.ก. ได้มีการตรวจสอบการใช้พื้นที่ของเกษตรกรมาโดยตลอด และพบว่า อ.วังน้ำเขียวได้มีการใช้พื้นที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งได้ดำเนินการเพิกถอนสิทธิ์ของเกษตรกรไปแล้วจำนวน 300 ราย
โดยล่าสุดตนได้สั่งการให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาดำเนินการไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งต้องเข้าใจว่า เราดูแลเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินจาก ส.ป.ก.ให้เป็นไปตามกฎหมาย ฉะนั้นการดำเนินการของ ส.ป.ก. อาจจะไม่ใช่การบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัดเหมือนกรมป่าไม้ ขั้นตอนของเรา คือต้องแจ้งเตือนให้เกษตรกรทราบก่อน โดยมีหนังสือตักเตือนไปที่เกษตรกรก่อนว่าวันนี้ที่ได้รับที่ดินทำกินไปนำไปใช้ประโยชน์อะไรเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ หากไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ก็ให้แก้ไขและดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ภายใน 60 วัน
นายธีระ กล่าวว่า วันนี้ ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการใน 2 แนวทางคือ 1. ในส่วนพื้นที่ที่ถูกแปลงเป็นรีสอร์ต บ้านพักหรู ตามที่เป็นข่าว เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีอยู่ประมาณ 25 แห่ง จากนี้เจ้าหน้าที่จะต้องลงไปตรวจสอบให้ชัดเจน จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบไปแล้ว 59 ราย พบว่า รีสอร์ต 4 แห่ง อยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก.จริงแต่เป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้จัดสรรให้เกษตรกรเข้าไปอยู่ และ อีก 5 แห่ง ได้จัดสรรให้เกษตรกรเข้าไปอยู่แล้ว ได้มีการเปลี่ยนสภาพไป ส่วนอีก 2 แห่งคาบเกี่ยวระหว่างพื้นที่ที่จัดกับพื้นที่ที่ยังไม่ได้จัดสรร ตรงนี้ ส.ป.ก.จะต้องไปดูรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติ
ล่าสุดได้มีการแจ้งเตือนเกษตรกรที่ถือครองพื้นที่ดังกล่าวได้รับทราบแล้ว ส่วนเจ้าของรีสอร์ตก็ได้แจ้งไปแล้วเช่นกันเพื่อให้มาชี้แจงกับ ส.ป.ก. ว่าที่ดินที่ครอบครองอยู่นั้นมีหลักฐานอะไร
อย่างไรก็ตามหากมีการแจ้งเตือนแล้วยังไม่ดำเนินการแก้ไขภายใน 60 วัน ก็ให้เข้าสู่คณะกรรมการระดับจังหวัดซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อพิจารณาเพิกถอนสิทธิ์ต่อไป ซึ่งการตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.ทั้งหมด ในอ.วังน้ำเขียวนั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 60 วันนี้ จากนั้นจะทราบรายละเอียดที่ชัดเจนทั้งหมด
นายธีระ กล่าวต่อว่า การแจ้งเตือนนั้นเราจะแจ้งไปที่คนแรกที่ได้รับสิทธิ์ในการจัดสรรที่ดิน ขณะเดียวกันเจ้าของรีสอร์ต ถือเป็นบริวาร ก็แจ้งไปอีกเช่นกัน ทั้งนี้กฎหมายของเราไม่เหมือนกับป่าไม้ เขาให้เราดูแลเกษตรกร ซึ่งหากทุกคนมีความบริสุทธิ์ใจเหมือนกันหมด ก็เป็นประโยชน์ แต่หากทุกคนเห็นแก่ได้ก็จะเป็นอย่างที่เห็นอยู่ในขณะนี้ ต้องเข้ามาดำเนินการให้มันถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
“วันนี้ผมยึดกฎหมายเป็นตัวตั้ง อนาคตจะเป็นอย่างไรนั้น มันคงไม่ใช่ลำพังเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงเดียว ต้องทุกภาคส่วนมาดูกันว่าจะทำอย่างไร และไม่ทำเฉพาะ อ.วังน้ำเขียว ต้องให้เหมือนกันทั่วประเทศ และต่อไป ส.ป.ก.จะต้องดูว่าที่ตรงไหนไม่เหมาะทำการเกษตรก็คืนกรมป่าไม้ไป ไม่ต้องมาดูแล หรือมาช่วยกันปลูกป่า ขอให้เป็นเรื่องของกรมป่าไม้ที่จะจัดการเอง” นายธีระ กล่าว
ส่วนการดำเนินการของข้าราชการในพื้นที่ขอให้ยึดหลักกฎหมายเป็นตัวตั้ง ถ้าทำตามกฎหมาย ก็สบายใจ เพราะขั้นตอนต่างๆ มีให้ปฏิบัติตามอยู่แล้ว เช่น ที่ดิน ส.ป.ก.ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เราใช้เวลานานกว่า 3 ปีศาลตัดสินไปแล้ว สามารถได้ที่ดินกลับคืนมาแล้ว 4 ราย และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนอุทธรณ์ ฎีกา สุดท้ายคือจบกันที่ศาลใครผิดใครถูกก็ไปว่ากันตรงนั้น นายธีระ กล่าวในตอนท้าย