xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภ.3 สั่ง ตร.ดำเนินคดีฮุบป่า “วังน้ำเขียว” เต็มที่ - “ทับลาน” เดินหน้ารื้อถอน 105 แห่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.เดชาวัต  รามสมภพ  ผบช.ภ.3
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผบช.ภ.3 สั่งตร.ร่วมมือ จนท.รัฐ ดำเนินคดีรุกป่า “วังน้ำเขียว” โคราชเต็มที่ เผยแจ้งความแล้วรวม 12 คดี ล่าสุด ปีนี้มี 3 คดีฮุบอุทยานฯทับลาน ส่วน ส.ป.ก.ยังไม่พบแจ้งดำเนินคดี ขู่เชือด ตร.ฮุบที่ดินรุกป่าทั้งอาญาและวินัย ด้าน หน.อุทยานทับลาน เผยติดป้ายรื้อถอนรีสอร์ต-บ้านพักแล้ว 15 แห่ง แจ้งความเพิ่มอีก 3 ราย พร้อมส่งกำลัง จนท.ออกตรวจสอบเดินหน้าสั่งรื้อถอนทั้ง 105 แห่ง ขณะนายก อบต.ไทยสามัคคี เผยชาวบ้านผวาถูกขับไล่พ้นที่อยู่อาศัย-ทำกินมานาน ร้องรัฐให้มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา ขู่งัดมาตรการเด็ดขาดชุมนุมปิดถนนร้องขอความเป็นธรรม

วันนี้ (27 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับเจ้าของรีสอร์ต และบ้านพักหรู บุกรุกป่าใน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ว่า จากการรายงานของ สภ.วังน้ำเขียว ท้องที่เกิดเหตุ มีการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกพื้นที่ป่าในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว แล้วรวม 12 คดี แบ่งเป็นกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบันจำนวน 4 คดี และกระทำผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2545 ถึงปัจจุบัน รวม 8 คดี โดยล่าสุดในปี 2554 มีการแจ้งความดำเนินคดีจำนวน 3 คดี คือเมื่อวันที่ 23 พ.ค., 24 พ.ค.และ 21 มิ.ย.2554 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 3 คดีล่าสุดนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อสรุปสำนวนคดีสั่งฟ้องส่งอัยการต่อไป

ส่วนอีก 9 คดีข้างต้น เจ้าพนักงานได้สรุปสั่งฟ้องไปหมดแล้วขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล สำหรับกรณีการกระทำผิดกฎหมายของ ส.ป.ก.ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ป่าแบ่งเขตกันหลายโซนทั้งในส่วนของ ที่ดิน ส.ป.ก., ป่าไม้ และอุทยานแห่งชาติ ในส่วนที่มีการกระทำผิดกฎหมาย ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีอย่างเต็มที่ และสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป

ในส่วนของตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องในการบุกรุกป่านั้น ได้สั่งการไปแล้วในทุกพื้นที่หากตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดเข้าไปบุกรุกป่าหรือกระทำผิดกฎหมายเอง ต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญา และวินัย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าแต่อย่างใด ส่วนการจัดกำลังช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ป่าไม้และกรมอุทยานฯ ในการเข้าไปติดป้ายสั่งการให้รีสอร์ตหรือบ้านพักที่รุกป่ารื้อถอนนั้น ในงานในระดับพื้นที่มีการประสานความร่วมมือกันอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

ด้าน นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ในวันนี้ (27 ก.ค.) ได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ลงสำรวจตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายที่บุกรุกเขตอุทยานฯ ซึ่งศาลตัดสินแล้วให้มีการรื้อถอนและออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อดูสภาพพื้นที่จริง เพื่อเตรียมเอกสารติดประกาศให้รื้อถอนต่อไป ซึ่งมีทั้งในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จำนวน 105 แห่ง รวมเป็นพื้นที่กว่า 4,000 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ที่มีสิ่งก่อสร้างจำนวน 50 แห่ง และ อีก 55 แห่ง เป็นพื้นที่ที่ไม่มีสิ่งก่อสร้าง ส่วนใหญ่นำไปปลูกยางพารา และ พืชผลต่างๆ

ส่วนการดำเนินการที่ผ่านมาล่าสุดได้ปิดประกาศให้ผู้ที่บุกรุกทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปภายในวันที่ 30 ต.ค.นี้ แล้ว จำนวน 15 แห่ง และจะเดินหน้าติดประกาศเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมล่าสุด ได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมารวม 3 คดี ในพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และในวันที่ 29 ก.ค.นี้ คณะกรรมาธิการวุฒิสภา จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามตรวจสอบข้อมูลปัญหาการรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

ขณะที่ นายจงกล สระเจริญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ประชาชนในพื้นที่ไม่สบายใจต่อกรณีการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยานฯ เนื่องจากไม่มีความชัดเจน ชาวบ้านเกรงว่าจะถูกไล่ออกจากพื้นที่ ซึ่ง ต.ไทยสามัคคีทั้งตำบล มีประชาชนกว่า 7,000 คน ได้อยู่อาศัยและทำกินมานานกว่า 40 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ มีเพียงเอกสาร ภ.บ.ท.5 และ ส.ป.ก.4-01 เท่านั้น จึงเกิดความวิตกกังวลเกรงว่าจะถูกไล่ออกจากที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ซึ่งอยู่กันมานาน

นอกจากนี้ ชาวบ้านพากันตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่งจะมาดำเนินการตอนนี้ ทั้งที่บอกว่ามีปัญหามานาน และหากจะบอกว่าชาวบ้านทำผิดกฎหมาย อธิบดีกรมป่าไม้, อธิบดีกรมอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก็ต้องผิดกฎหมายเช่นกัน เพราะปล่อยปละละเลยมาโดยตลอด จนทำให้กลายเป็นปัญหาใหญ่ในวันนี้

“ดังนั้น หากต้องการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริงต้องมานั่งคุยกันกับประชาชนในพื้นที่เพื่อหาทางออกร่วมกัน ไม่เช่นนั้นชาวบ้านพร้อมที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมในทุกวิถีทาง และใช้มาตรการเด็ดขาดต่างๆ เช่น การชุมนุมปิดถนนเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา เป็นต้น” นายจงกล กล่าว

นายจงกล กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ได้ระดมเจ้าหน้าที่ออกติดป้ายประกาศให้เจ้าของรีสอร์ตและบ้านพักตากอากาศรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากเขตอุทยาน ที่เป็นข่าวโด่งดังกันอยู่ขณะนี้ ข้อเท็จจริงแล้ว เป็นเพียงเรื่องเก่าในคดีที่ได้มีการฟ้องร้องและศาลตัดสินไปแล้วนั้นก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่ในส่วนกรณีปัญหาใหม่ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกันให้ชัดเจนทั้ง ปัญหาแนวเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ, เขตอุทยานแห่งชาติ และพื้นที่ ส.ป.ก.พร้อมวางแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจนทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น