xs
xsm
sm
md
lg

ปีใหม่ที่น่ากลัว

เผยแพร่:   โดย: ชัยอนันต์ สมุทวณิช

ปีใหม่ปีนี้ ดูเหมือนจะน่ากลัวกว่าปีใดๆ เพราะมีคำทำนายของชาวมายาว่าโลกจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 คำทำนายนี้เกิดจากการที่ปฏิทินของชาวมายาจบลงในเดือนนั้น

ของไทยเราก็มีโหรออกมาทำนายเหตุการณ์เป็นรายเดือนอ่านดูแล้วสยองขวัญมาก มีตั้งแต่ภัยพิบัติธรรมชาติไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง นัยว่าเป็นอิทธิพลของดาวเสาร์ที่มาเล็งดวงเมืองตั้งแต่ปลายปีนี้ มีคนพูดกันว่า ระยะที่เลวที่สุดก็คือเดือนธันวาคม 2555

แต่ก็ไม่มีคำทำนายใดจะโด่งดังเท่ากับคำทำนายของ ด.ช.ปลาบู่ ที่บอกว่าเขื่อนภูมิพลจะแตก จะเกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วมกรุงเทพฯ พ่อของเด็กชายปลาบู่เป็นชาวบ้านจังหวัดจันทบุรี คำทำนายของเด็กชายปลาบู่นั้น เจาะจงเวลาว่าเป็นวันที่ 31 ธันวาคมปีนี้

สังคมไทยกับคำพยากรณ์มีคู่กันมานมนาน สมัยก่อนก็มีคำพยากรณ์กรุงเก่าที่มีข้อความตอนหนึ่งว่า

"กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม

ผู้ดีจะเดินตรอก ขี้ครอกจะเดินถนน”

นอกจากนั้นก็ยังมีคำทำนายว่ากรุงรัตนโกสินทร์ในแต่ละยุคเป็นอย่างไร ปัจจุบันเราอยู่ในยุค “ถิ่นกาขาว” หมายความว่ามีคนต่างชาติเข้ามาอยู่แยะ และยุคหน้าจะเป็นยุค “ชาวศิวิไลซ์” คำทำนายนี้สิ้นสุดลงแค่ 10 สมัยเท่านั้น

ฝรั่งที่โด่งดังมากคือนอสตราดามุส คำทำนายของเขาต้องมีการแปลความหมาย เพราะเขียนเป็นโคลงปริศนาไว้ แต่ก็น่าอัศจรรย์ที่บางเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ รวมถึงเรื่องการโจมตีตึกเวิลด์เทรดด้วย แต่ไม่ได้ยินว่านอสตราดามุสทำนายว่าจะสิ้นโลกเมื่อใด

โลกจะสิ้นหรือไม่นั้น ก็เริ่มมีเค้าลางอยู่บ้าง และสาเหตุก็ไม่ได้เกิดจากการมีสงครามโลก ทั่วโลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม ทั้งทางกายภาพ และชีวภาพ น้ำแข็งที่ขั้วโลกก็เริ่มจะละลายมากขึ้น แกนโลกก็เอียง มีคนพูดกันว่า หากโลกเอียงต่อไป อีกหน่อยหิมะก็จะตกในกรุงเทพฯ

การมีน้ำท่วมโลกเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้เกิดข้อคิดหลายอย่าง ไปๆ มาๆ ภัยธรรมชาติกลับเป็นปัญหาที่ท้าทายการทำงานของรัฐบาลมากที่สุด และการที่เราไม่สามารถจะจัดการกับน้ำท่วมได้ ก็ส่อให้เห็นถึงความเปราะบางของภาครัฐ ที่แต่เดิมเราหวังพึ่งแต่ก็ไม่อาจพึ่งได้

แม้จะไม่ดูดวง เราก็สามารถทำนายอนาคตเมืองไทยได้ว่าคงไม่ดีนัก ปัญหาการเมืองเป็นปัญหาใหญ่ แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ระยะนี้ต่างจากสมัยก่อนตรงที่ความขัดแย้งทางการเมืองลงลึกถึงสังคม สังคมเกิดความแตกแยกอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ถึงกับมีการจัดตั้งหมู่บ้านขึ้นมาต้องการความเป็นเอกเทศ ผู้คนในหลายจังหวัดมีความเคียดแค้นชิงชังข้าราชการและคนในเมือง ขบวนการโจมตีราชวงศ์มีอยู่ทั่วไป นอกจากเว็บไซต์แล้วก็ยังมีการส่งเอกสารไปให้บุคคลต่างๆ มีถ้อยคำโจมตีวิพากษ์วิจารณ์คนชั้นสูงเสียๆ หายๆ

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์เหมือนในอดีต แต่เกิดขึ้นเพราะการยึดถือตัวบุคคล ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีได้เอาเงินไปแจกชาวบ้านจนเกิดความนิยมชมชอบทั่วไป และความขัดแย้งในสังคมปัจจุบันก็มีการแบ่งขั้วโดยชัดเจนระหว่างพวกที่ “เอาทักษิณ” กับพวก “ไม่เอาทักษิณ”

โอกาสที่ทักษิณจะกลับเมืองไทยในปี 2555 นี้มีอยู่มาก และก็คงจะเกิดคลื่นมหาชนคัดค้านอย่างแน่นอน แต่ละฝ่ายจะห้ำหั่นกันจนถึงที่สุด โหรหลายสำนักจึงทายว่าจะเกิดกลียุค

หากทักษิณยอมกลับมาติดคุก อีกไม่นานก็คงได้ออก แต่ผมคิดว่าทักษิณไม่กลัวติดคุกเท่ากับการถูกลอบสังหาร ซึ่งเริ่มมีการพูดกันหนาหู ในทำนองว่าหากคนคนเดียวเป็นตัวปัญหา ก็น่าจะจัดการกับคนคนนั้นอย่างเด็ดขาด แต่ยังดีที่เมืองไทยเราไม่มีความเคียดแค้นชิงชังผู้นำถึงขนาดกับจะมีการลอบฆ่ากันเหมือนที่เป็นอยู่ในประเทศอื่น

จะว่าไปแล้ว การมีน้ำท่วมก็ทำให้คนเราได้คิด และมีความพยายามที่จะช่วยตนเอง และช่วยผู้อื่นมากขึ้น บทบาทของรัฐเองที่เคยทำอะไรต่ออะไรมากมายก็มาถูกกระทบกระเทือนในตอนน้ำท่วมนี่เอง คนส่วนมากเริ่มรู้สึกว่ารัฐช่วยอะไรไม่ได้ และภัยธรรมชาตินี้คงจะเกิดขึ้นอีก ตราบที่ภูมิอากาศของโลกยังคงเปลี่ยนแปลงไปถึงกับมีการพูดกันว่า น้ำทะเลจะท่วมสูงจนบางส่วนของกรุงเทพฯ จมน้ำไป

มีคำทำนายอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะทำให้เราเริ่มปลงตก และไม่ไขว่คว้าอะไรมากไปกว่านี้ เนื่องจากคิดเสียว่าอีกหน่อยโลกก็จะดับแล้ว คงเหลือแต่มนุษย์พันธุ์พิเศษ คือ นักการเมืองที่ยังความรู้สึกช้าอยู่พวกเดียวเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น