ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ผู้ว่าฯมั่นใจตลอดปีมะโรง การลงทุนด้านโรงแรมและท่องเที่ยวในภูเก็ตยังมีทิศทางที่ดี โดยเฉพาะนักลงทุนชาวต่างชาติสนใจเข้ามาเทกโอเวอร์กิจการโรงแรมในราคา 150-200 ล้านบาท แทนการซื้อที่ดินลงทุนใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนทั้งหมด โดยเฉพาะการออกเอกสารสิทธิที่ดิน ที่ขณะนี้ทั้งดีเอสไอ และป.ป.ท.กำลังตรวจสอบเพื่อเพิกถอนไม่ต่ำกว่า 10 แปลง
นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนของจังหวัดภูเก็ตในปี 2555 ว่า นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติยังเข้ามาลงทุนในพื้นที่ภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนชาวต่างชาติจะเข้ามาลงทุนด้านโรงแรม รีสอร์ต และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว
การลงทุนด้านโรงแรม เท่าที่ทราบนักลงทุนต่างชาติจะไม่เข้ามาลงทุนซื้อที่ดินและก่อสร้างโรงแรมเองตั้งแต่เริ่มต้น แต่จะเข้ามาซื้อกิจการโรงแรมที่ให้บริการอยู่แล้วในภูเก็ต ทั้งจากนักลงทุนท้องถิ่นภูเก็ตและนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้เพราะนักลงทุนต้องการที่จะลดขั้นตอนการลงทุนที่มีกฎหมายหลายฉบับเข้ามาเกี่ยวข้อง และลดความเสี่ยงเรื่องการออกเอกสารสิทธิที่ดิน โดยเฉพาะในเรื่องของการออกโฉนดที่ดิน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน และขณะนี้ในภูเก็ตเองก็มีข่าวเรื่องการออกเอกสารสิทธิที่ดินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ตลอด
“เท่าที่ได้รับทราบข่าวขณะนี้ ดีเอสไอ และปปท.ได้ลงมาตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินในภูเก็ตหลายแปลง โดยเฉพาะในพื้นที่กมลาและหาดฟรีดอม ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าที่ดินในภูเก็ตที่ได้มีการออกเอกสารสิทธิไปแล้วจะถูกเพิกถอนไม่ต่ำกว่า 10 แปลง ซึ่งเรื่องนี้อาจจะสร้างความไม่มั่นใจให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในภูเก็ตบ้าง แต่ในแง่ดีก็จะทำให้นักลงทุนมีการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินอย่างละเอียดรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ” นายตรี กล่าวและว่า
สำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อกิจการโรงแรมในภูเก็ตมีทั้งนักลงทุนจากรัสเซีย กลุ่มสแกนดิเนเวีย ตะวันออกกลาง เป็นต้น เป็นโรงแรมขนาดตั้งแต่ 150 ห้อง เงินลงทุนอยู่ที่ 150 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาท เมื่อซื้อกิจการโรงแรมมาทำการปรับปรุงและบริหารสักระยะหนึ่ง ก็จะขายต่อให้นักลงทุนชาวต่างชาติที่สนใจหรือนักลงทุนจากชาติเดียวกันเมื่อเห็นว่าได้กำไรตามที่ต้องการ
ผู้ว่าฯภูเก็ต ยังกล่าวถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวของภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดอันดามัน ซึ่งประกอบด้วย ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนองและตรัง ว่า กลุ่มจังหวัดอันดามันมีโครงการที่จะทำการตลาดท่องเที่ยวร่วมกัน เพื่อที่จะกระจายนักท่องเที่ยวไปยังจังหวัดตรังและระนองให้มากขึ้น ไม่ให้กระจุกตัวอยู่เฉพาะที่ภูเก็ต พังงา และกระบี่ เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการทำตลาดร่วมกันได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 ภายใต้งบประมาณกลุ่มจังหวัดอันดามัน ด้วยการเชิญบริษัทนำเที่ยวจากต่างประเทศที่เป็นตลาดหลักมาพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการโรงแรมในอันดามัน ภายใต้ชื่องานอันดามันทราเวลเทรด และการออกไปทำโรดโชว์ส่งเสริมการขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น รวมทั้งได้มีการเชื่อมโยงในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวและประชาชนในฝั่งอันดามัน
นายตรี ยังกล่าวถึงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยวของภูเก็ต ว่า รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต โดยได้ส่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจลงมาเก็บข้อมูลโครงการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตที่เป็นโครงการใหญ่ๆ เช่น โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ โครงการรถไฟฟ้ารางเบารอบเกาะภูเก็ต โครงการอุโมงค์ป่าตอง เป็นต้น