xs
xsm
sm
md
lg

สลด!7วัน ตายยกครัว อุบัติเหตุลำปาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งพุ่งชนต้นไม้ไฟลุกท่วมเสียชีวิตทั้งคันรวม 4 ศพ หนึ่งในนั้นมีหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ 5 เดือนรวมอยู่ด้วย ขณะที่ลำปางยอดตาย 7 วันอันตรายเกินลิมิตแล้ว

วานนี้ (30 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันที่สองของช่วงเฝ้าระวังอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย ได้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมยกครัวขึ้น หลังจากที่พลเมืองดีได้โทรศัพท์แจ้งมายัง 191 ว่า พบเห็นรถเก๋งพุ่งชนกับต้นไม้มีไฟลุกท่วมบริเวณถนนสายพหลโยธิน ตาก-ลำปาง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 664 ต.แม่กั้วะ อ.สบปราบ จ.ลำปาง

ทางห้องศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง จึงได้ประสานไปยัง พ.ต.อ สองขวัญ รัชดาธนวัฒน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ สภ.สบปราบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรศักดิ์ วงค์บุตรดี พนักงานสอบสวน สภ.สบปราบ และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยนครลำปาง เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุทันที พบว่าบริเวณที่เกิดเหตุเพลิงกำลังลุกไหม้ รถยนต์เก๋ง โตโยต้า ยาริสทะเบียน สร 6317 กทม. ด้านหน้ารถเก๋งพังยับ หลังเสียหลักพุ่งชนอัดก๊อปปี้ติดกับต้นไม้ในร่องกลางถนน

เจ้าหน้าที่จึงเร่งฉีดน้ำสกัดจนเพลิงสงบ จึงได้เข้าตรวจสอบภายในรถและบริเวณโดยรอบ พบศพ รวม 4 ศพ จากที่ตรวจสอบเอกสารในที่เกิดเหตุพบบัตรประจำตัวประชาชนชื่อ นายพนมชัย กิจวานิชย์ อายุ 37 ปี ,นางสิริลักษณ์ กิจวานิชย์ อายุ 34 ปี ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน ,นางสุวรรณา กิจวานิชย์ อายุ 60 ปี และนายสมบูรณ์ แช่แต้ อายุ 35 ปี สภาพศพ ถูกไฟคลอก ไหม้เกรียม เสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองในรถเก๋งคันดังกล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดลำปางได้ตั้งเป้าของการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ และเสียชีวิต ให้ลดลงจากปีที่ผ่านมา5% คือ จะต้องป้องกันมิให้มีการตายเกิดขึ้นไม่เกิน 3ราย แต่จนถึงวันนี้ คือวันที่สอง มีผู้เสียชีวิตเกินเป้าแล้วคือ 5 ราย

***ชาวอีสานแห่กลับฉลองปีใหม่ สำหรับการจราจรบนถนนมิตรภาพ ที่มุ่งหน้าเข้าตัวจ.นครราชสีมาและเส้นทางขาออกไปสู่จังหวัดต่างๆ ของภาคอีสาน ในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2555

ตลอดทั้งวัน การจราจรหนาแน่นตลอดเส้นทาง ซึ่งประชาชนชาวอีสาน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อท่องเที่ยวฉลองเทศกาลปีใหม่ยังต่างจังหวัดกันอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจุดบริการประชาชน ประจำจุดต่างๆ ได้เร่งระบายการจราจรอยู่ตลอดเวลา

โดยเฉพาะถนนมิตรภาพ ช่วงทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา สามแยกปักธงชัย - จอหอ ช่วงหลักกิโลเมตร (กม.) ที่ 2-3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเส้นทางหลักออกไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสานตอนบน การจราจรเริ่มติดขัดเป็นระยะทางยาว เนื่องจากมีปริมาณรถจำนวนมาก และเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน รวมทั้งรถยนต์ของประชาชนชะลอความเร็ว เพื่อเลี้ยวเข้าพักรถตามสถานีบริการน้ำมัน และบางส่วนจอดพักรถบนไหล่ทาง

ด้านนายอรชัย ปุณณะนิธิ ประธานมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ปัจจุบันหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 มีพื้นที่รับผิดชอบในเขต จ.นครราชสีมา ทั้งสิ้น 25 อำเภอ มีอาสาสมัครทั้งสิ้น 975 นาย รถพยาบาล รถกู้ชีพ กู้ภัย อุปกรณ์ตัด-ถ่าง รวมทั้งสิ้น 374 คัน ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 นี้ ทางมูลนิธิฯ ได้ร่วมตั้งจุดบริการประชาชนรวมทั้งสิ้น 42 จุด อาทิ ถ.มิตรภาพตลอดสาย ตั้งแต่ เขต ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว ถึง อ.บัวลาย ส่วนเส้นทาง ถนนสาย 304 ตั้งแต่ อ.เมืองนครราชสีมา - อ.วังน้ำเขียว , ถนนสาย 24 จาก อ.เมืองนครราชสีมา - อ.ห้วยแถลง , ถนนสายราชสีมา - ชัยภูมิ และ ถนนราชสีมา- เสิงสาง ซึ่งจุดบริการประชาชนทั้งหมดนี้ จะให้บริการด้านต่าง ๆ ทั้งการจอดพักรถ การให้บริการสอบถามเส้นทาง ตลอดจนการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ณ จุดเกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครประจำตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับประชาชนที่เดินทาง หากประสบเหตุ สามารถโทรแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา หมายเลข 044-274-155 หรือสายด่วน 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ บรรยากาศภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 2 แห่งของจ.นครราชสีมา ประตูสู่ภาคอีสาน เป็นไปด้วยความคึกคัก รถโดยสารสาย 21 ราชสีมา-กรุงเทพฯ ได้นำผู้โดยสารเต็มคันรถมาส่งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้โดยสารจำนวนมากมารอต่อรถสายสั้นเดินทางไปยังต่างอำเภอและต่างจังหวัด ขณะที่รถโดยสารสายสั้นพยายามเร่งระบายผู้โดยสารไปส่งยังปลายทางต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งยังไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้างแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องรอนานกว่าปกติเท่านั้น

***ขนส่งจังหวัดจับจริง"รถผีน้อย"

นายวัฒนา ภัทรชน ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขอแจ้งเตือนไปยังรถยนต์กระบะที่บรรทุกผู้โดยสารเต็มกระบะท้าย และรถดัดแปลง หรือ “รถผีน้อย” ที่ดัดแปลงต่อเติมบรรทุกผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับรถโดยสารประจำทาง และรถบรรทุกที่วิ่งเลนขวาตลอด ทำให้เกิดอันตราย ซึ่งทั้ง 2 กรณีเป็นการกระทำผิดกฎหมายจราจรหากพบจะถูกดำเนินคดี และ ปรับ 2,000 บาท ทุกราย โดยจะเข้มงวดมาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

** ชี้รถบรรทุกลดการขนส่งปีใหม่ไม่กระทบสินค้า

นายทองอยู่ คงขันธ์ เลขาธิการสมาพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาพันธ์ฯ จะให้ความร่วมมือตามที่กรมขนส่งทางบก ขอให้จัดรถบรรทุกวิ่งน้อยลงในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อลดความแออัดของการจราจรบนท้องถนน และลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ ซึ่งในปีนี้เริ่มปรับลดปริมาณรถบรรทุกขนส่ง ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม ถึงวันที่ 4 มกราคม แต่ยังจำเป็นต้องจัดส่งสินค้าบางประเภท

ทั้งนี้ เฉลี่ยในแต่ละปีช่วงปีใหม่ สมาพันธ์ขนส่งทางบกฯ หยุดให้บริการขนส่งสินค้า ประมาณร้อยละ 80 จากรถบรรทุกที่มีอยู่ประมาณ 8 แสนคัน แต่เชื่อว่า จะไม่กระทบกับปริมาณสินค้า เนื่องจากผู้ประกอบการสำรองสินค้าบางส่วน ซึ่งสินค้าที่จะจัดส่งล่าช้าและขาดแคลนในช่วงนี้ คือวัสดุ ก่อสร้าง แต่คาดว่าน่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้ในช่วงเดือนมีนาคม

**รมช.มท. แถลงยอดคนเสียชีวิตในช่วง 7 วันอันตราย ปีใหม่ วันแรก ตายแล้ว 34 ราย มากกว่าปีก่อน 10 ราย เพชบูรณ์ มากสุด 4 ราย การจราจรเส้นทางต่างๆเริ่มคับคั่ง

นายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงสรุปสถิติอุบัติเหตุทางท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 โดยสถิติในรอบ 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา ของวันที่ 29 ธันวาคม พบว่าเกิดอุบัติเหตุรวม 427 ครั้ง เมื่อเทียบจากวันและเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่าเพิ่มขึ้น 34 ครั้ง ขณะที่ผู้เสียชีวิตพบว่ามี 34 ราย มากว่าปีที่แล้ว 10 ราย และมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ 501 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 76 ราย โดยจังหวัดที่มี ผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 4 ราย จังหวัดที่บาดเจ็บมากที่สุด คือ จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 22 ราย ส่วน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ จ.นครสวรรค์ จำนวน 22 ครั้ง โดยสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 มาจากขับรถด้วยความเร็ว รองลงมาคือ แซงระยะกระชั้นชิด และจำนวน 80 % เกิดขึ้นจากการขับรถจักรยานยนต์

ทั้งนี้ นายฐานิสร์ กล่าวว่า ได้กำชับให้จังหวัดที่เป็นเส้นทางผ่านไปยังภูมิภาคต่างๆ เตรียมช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถให้พร้อม สำหรับการเตรียมรับมือการเดินทางออกของประชาชน โดยเฉพาะในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทำงาน และคาดว่าในช่วงบ่าย ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก รวมถึงการเข้มงวดในการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายใน 3 พฤติกรรมเสี่ยง คือ เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย และขับรถเร็ว

**เชียงใหม่ออกกฎห้ามนำรถบัสขึ้นดอยสุเทพ-อ่างขาง-อินทนนท์ จราจรเชียงใหม่ติดขัดหลายจุด หลังนักท่องเที่ยวเริ่มทะยอยเดินทาง จราจรออกคำสั่งห้ามนำรถบัสขนาดใหญ่ขึ้นดอยสุเทพ อ่างขาง อินทนนท์

พ.ต.อ.อนุ เนินหาด ผกก.กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การจราจราในตัวเมืองเชียงใหม่ช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม เริ่มแออัดและติดขัดหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกรินคำ สี่แยกภูคำ รวมทั้งถนนสายห้วยแก้ว ทางขึ้นดอยสุเทพ ถนนนิมมานเหมินท์ และสี่แยกตลาดต้นพยอม ซึ่งเป็นเส้นทางไปพืชสวนโลก เนื่องจากนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางมากันแล้ว ตำรวจจราจรได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตามสี่แยกต่างๆที่มีจำนวนรถหนาแน่นเพื่อเร่งระบายรถแล้ว คาดว่าในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน จำนวนรถในเขตตัวเมืองเชียงใหม่จะหนาแน่นมาก

นอกจากนี้ได้จัดระเบียบการเดินรถขึ้นดอยสุเทพโดยออกเป็นคำสั่งเจ้าพนักงานจราจรกำหนดเวลาขึ้นรถ ตั้งแต่เวลา 06.00 - 09.00 น.เป็นเวลาขึ้นดอยสุเทพรอบเช้า เวลา 09.00 - 12.00 น. เป็นเวลาลง และ 12.00 - 15.00 น.เป็นเวลาขึ้นรอบบ่าย ส่วนเวลา 15.00 - 18.00 น. เป็นเวลาลง เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดเนื่องจากเส้นทางขึ้นดอยสุเทพมีความลาดชันและคดเคี้ยว รวมทั้งห้ามไม่ให้นำรถบัสขนาดใหญ่ขึ้นดอยอินทนนท์ ดอยสุเทพและดอยอ่างขาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น

"อยากขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวและประชาชนให้ปฎิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ห้ามกลับรถในจุดห้ามกลับเพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถติด อย่าจอดรถในที่ห้ามจอด รวมทั้งเอื้อเฟื้อกับผู้ร่วมทาง และเนื่องจากช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจำนวนมากปริมาณรถในตัวเมืองเชียงใหม่จึงหนาแน่น ทำให้ตามสี่แยกสำคัญหลายจุดมีปริมาณรถสะสมอาจต้องรอสัญญาณไฟแดงไม่ต่ำกว่า 2- 3 ครั้ง"พ.ต.อ.อนุ กล่าว

***ชนวินาศ 7 คัน ตาย 4 เจ็บ7 ถ.304อัมพาต

อุบัติเหตุสยองรถพ่วง 18 ล้อ เบรกไม่อยู่ขณะลิ่วลงเขาโทน ถ.304 รอยต่อ อ.นาดีกับ อ.วังน้ำเขียวแล้วพุ่งชนรถวิ่งสวนเลนอีก 6 คันจนสิ้นฤทธิ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพ บาดเจ็บอีก 7 คน ซ้ำร้ายยังทำให้รถติดยาวนับ 10 กม....

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. มีรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกน้ำอัดลมชนประสานงากับรถยนต์ 6 คัน บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 44 ถนนสาย 304 ฝั่งขาออกจาก กทม. ช่วงลงเขาโทนรอยต่อ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีกับ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 2 คน บาดเจ็บ อีกจำนวนมาก

พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า เบื้องต้นรับรายงานเกิดอุบัติเหตุรถชน กันทั้งสิ้น 5 คัน มีผู้เสียชีวิตทันที 2 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 6 คน เจ้าหน้าที่ทยอยนำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว ขณะที่บางส่วนยังติดอยู่ในที่เกิดเหตุกำลังเร่งช่วยเหลือ สำหรับสาเหตุนั้น คาดว่าเกิดจากเป็นช่วงถนนลงเขารถพ่วงอาจเบรกไม่อยู่และไถลออกช่องทางขวา จึงเกิดการชนกับรถวิ่งสวนส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดหลายกิโลเมตรเจ้าหน้าที่กำลังเร่งเปิดเส้นทาง

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. พ.ต.ท.บุญเทียม ฐิติการต์กุล สารวัตรใหญ่ สภ.วังขอนแดง ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะนี้ พบผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว 4 คน ส่วนผู้บาดเจ็บ 7 คน ถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลวังน้ำเขียว ขณะเดียวกันกำลังระดมเปิดถนนเนื่องจากกีดขวางทุกช่องทางจนรถติดหยุดนิ่งทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกยาวประมาณ 10 กิโลเมตร

**“วิทยา” กำชับทุกโรงพยาบาลบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยนโยบาย 3 เร็ว 2 ดี ฟรีทั่วไทย สำรองเตียง เสริมกำลังหมอพยาบาล 2-3 เท่าตัว รับมือวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

วานนี้ (30 ธ.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.อภิชัย มงคล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมความพร้อมในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนช่วงฉลองเทศกาลปีใหม่ บนถนนพหลโยธิน เส้นทางสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้ตรวจเยี่ยมจุดบริการร่วมประชาชน ที่ อบต.ลำไทร หน้าปั้ม ปตท.กม.ที่ 56 และจุดตรวจตำรวจทางหลวง กม.72-73 (หน้าวัดชูจิตธรรมาราม) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล(รพ.)สระบุรี ได้มอบนโยบายให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 3 เร็ว 2 ดี ฟรีทั่วไทย คือแจ้งเหตุเร็ว ชุดปฏิบัติการไปถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็ว ภายในเวลา 10 นาที และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเร็ว แพทย์สามารถให้การรักษาเร็ว สำหรับ 2 ดี คือคุณภาพการให้บริการทั้งในและนอกโรงพยาบาลดีทั้งในภาวะปกติและภาวะที่เกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อลดอันตรายของการบาดเจ็บและการเสียชีวิตของประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่

นายวิทยา กล่าวว่า ในวันนี้ประชาชนจะทยอยเดินทางไปต่างจังหวัดกันมากขึ้น เพื่อร่วมฉลองในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในวันพรุ่งนี้ ทำให้ปริมาณรถบนถนนสายหลักค่อนข้างหนาแน่น มีโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้น กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เน้นการปฏิบัติงานใน 2 มาตรการ ประการแรกคือมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ โดยรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัย จัดเจ้าหน้าที่ร่วมให้บริการฟรีแก่ผู้เดินทาง ในจุดตรวจ/จุดบริการ บนเส้นทางหลวงและถนนในชุมชน ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น ตรวจวัดความดันโลหิต ทำแผล ปฐมพยาบาล แจกคำแนะนำการป้องกันอุบัติเหตุ บริการน้ำดื่ม ผ้าเย็น นอกจากนี้ยังให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด ควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมาย เช่นขายในเวลาห้ามขาย ขายในสถานที่ห้ามขายห้ามดื่ม ขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หากมาตรการนี้สำเร็จ จะสามารถขจัดสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้กว่าร้อยละ50

มาตรการที่ 2 คือการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บหรือป่วยฉุกเฉิน เป็นนาทีแห่งชีวิต เพื่อลดการเสียชีวิตผู้บาดเจ็บให้ได้มากที่สุด บริการฟรี โดยเปิดสายด่วน 1669 รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมทีมแพทย์กู้ชีพครอบคลุมทุกพื้นที่ มีบุคลากรมืออาชีพกว่า 1 แสนคน พร้อมออกไปดูแลรักษาผู้บาดเจ็บที่จุดเกิดเหตุภายใน 10 นาทีหลังรับแจ้งและนำส่งโรงพยาบาลฟรี โดยให้โรงพยาบาลในสังกัด 875 แห่งทั่วประเทศ เตรียมแพทย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุฉุกเฉินและพยาบาลประจำห้องฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง สำรองเลือด เวชภัณฑ์ยา ห้องผ่าตัด เครื่องช่วยหายใจ ห้องไอซียู และสำรองเตียงผู้ป่วยรองรับเพิ่มขึ้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในวันที่ 31 ธันวาคมและ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้สำรองทีมแพทย์พยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 2-3 เท่าตัว

ด้านนพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการ รพ.สระบุรี กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมรับเทศกาลปีใหม่ 2555 เปิดวอร์รูมเฝ้าระวังและปรับแผนการทำงานทุกวันตลอด 7 วันอันตราย เตรียมพร้อมศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการการแพทย์ฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รถพยาบาล 5 คัน เพิ่มกำลังแพทย์ พยาบาลที่ห้องฉุกเฉิน 1-3 เท่าตัว สำรองเตียงผู้ป่วยในเพิ่ม 100 เตียง ห้องผ่าตัด 12 ห้อง เตียงผู้ป่วยหนัก เตียงเย็บแผล เตรียมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดทุกสาขา 21 คน แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน 2 คน พยาบาลวิชาชีพ 30 คน มีวิสัญญีแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง สำรองเลือดทุกหมู่ 100 ยูนิต
กำลังโหลดความคิดเห็น