ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สภ.เมืองเชียงใหม่ตามรวบโจรต่างชาติหลังอาละวาดก่อเหตุลักทรัพย์ในเมืองเชียงใหม่ คดีแรกผัว-เมียปากีสถานทำทีขอแลกเงินตามร้านค้าก่อนแอบซุกเงินหนี เผย จนมุมหลังเจ้าทุกข์จำทะเบียนรถได้-มีภาพวงจรปิด ส่วนคดีที่สองสาวใหญ่เวียดนามนำทีมกรีดกระเป๋านักท่องเที่ยวที่ถนนคนเดิน แต่ไปไม่รอดหลังเหยื่อรู้ตัวแถมโดนทิ้งเพื่อนร่วมทีมเผ่นกระเจิง
วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ พ.ต.อ.พิษณุ อุณหเสรี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สวัสดิ์ หล้ากาศ รองผกก.สส. พ.ต.ท.ยุทธพงษ์ หอมจรรยา สว.สส.และ พ.ต.ต.ไกรศรี จุฬพรรค์ สว.สส.ร่วมแถลงข่าวการจับกุมชาวต่างชาติที่เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ 2 คดี
คดีแรกเป็นการจับกุมผู้ต้องหาชาวปากีสถานรวม 2 ราย คือ นายคาน โมซิน (Mr. Khan Mohsin) อายุ 24 ปี หมายเลขหนังสือเดินทาง XW4102642 และนางปูจา โมซิน (Ms. Pooja Mohsin) อายุ 23 ปี หมายเลขหนังสือเดินทาง AE0110942 ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน โดยสามารถสกัดจับได้ที่จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 76,000 บาท และรถยนต์โตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ 679 ระยอง ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากที่ผู้ต้องหาทั้งคู่ ได้ร่วมกันทำการลักทรัพย์ที่ร้านไทยล้านนาฟาร์มผึ้ง เลขที่ 92/9 ถ.ศรีดอนไชย ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีพฤติการณ์ทำการลักทรัพย์ ด้วยการใช้กลอุบายทำทีขอแลกเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินไทยครั้งละเป็นจำนวนมาก เมื่อผู้เสียหายเผลอก็จะลักลอบเก็บเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ก่อนจะหลบหนี
ในวันเกิดเหตุ นายวุฒิพงศ์ ธรรมธรศิริ ผู้เสียหายสามารถจดจำทะเบียนรถของผู้ต้องหาได้ ประกอบกับมีภาพวงจรปิดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนและติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวปากีสถานทั้งคู่ได้ดังกล่าว
นอกจากคดีลักทรัพย์ที่ร้านไทยล้านนาฟาร์มผึ้งแล้ว ในวันเดียวกันผู้ต้องหาทั้งสองราย ยังได้ร่วมกันลักทรัพย์ในลักษณะเดียวกันนี้ ที่ร้านเมกโซน จำกัด สาขาตาก ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาตาก ได้เงินสดจำนวน 48,000 บาท ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.คนร้ายยังได้ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ร้านบัวทอง ตั้งอยู่ที่บันไดทางขึ้นดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 21,000 บาทอีกด้วย
ส่วนคดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นางฟาง ฮอง ทิทุย อายุ 54 ปี ชาวเวียดนาม ได้ที่บริเวณสี่แยกกลางเวียง ในพื้นที่ถนนคนเดิน โดยผู้ต้องหาร่วมกับเพื่อนร่วมแก๊งชาวเวียดนามและกัมพูชาที่หลบหนีไปได้ก่อเหตุกรีดกระเป๋าลักทรัพย์นักท่องเที่ยว บริเวณถนนคนเดินวันอาทิตย์เชียงใหม่ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (26 ธ.ค.) ซึ่งเฉพาะเมื่อวานนี้เพียงวันเดียว มีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความว่าถูกกรีดกระเป๋าแล้วถึง 3 ราย
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของคดีแรกนั้น ผู้ต้องหาชาวปากีสถานทั้ง 2 ราย ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.54 โดยเช่ารถยนต์ที่พัทยา แล้วเดินทางไปจังหวัดภูเก็ตก่อนที่จะมาจังหวัดเชียงใหม่แล้วก่อเหตุ ซึ่งเชื่อว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ผู้ต้องหาน่าจะก่อเหตุมากกว่านี้ โดยหากมีผู้เสียหายรายอื่นก็สามารถเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ได้
ขณะที่คดีที่สอง ผู้ต้องหาได้ร่วมกับเพื่อนร่วมแก๊งก่อเหตุในพื้นที่จัดงานถนนคนเดิน โดยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เมื่อสบโอกาสจะลงมือก่อเหตุ ด้วยการให้เพื่อนร่วมแก๊งเดินชนผู้เสียหาย ขณะที่อีกคนกรีดกระเป๋า อีกคนล้วง และอีกคนรับทรัพย์สินและสิ่งของมีค่าที่ลักมาได้ไป ซึ่งขณะถูกจับกุมเมื่อวานนี้ ปรากฏว่าผู้เสียหายรายที่ 3 รู้ตัว จึงร้องขอความช่วยเหลือ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งหลบหนีไปได้
ทั้งนี้ คาดว่า ผู้ต้องหาน่าจะเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง หากมีผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าเคยตกเป็นเหยื่อของแก๊งดังกล่าว สามารถมาดูตัวผู้ต้องหาหรือสอบถามรายละเอียดกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ได้ นอกจากนี้ ยังขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังทรัพย์สินมีค่าเมื่ออยู่ในที่ทีมีผู้คนพลุกพล่าน เนื่องจากอาจถูกกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสลงมือในลักษณะเดียวกันนี้ได้