"เพรียวพันธุ์"ปล่อยแถวตำรวจตามโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจกฎ งดสุรา ไป-มาปลอดภัย” เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมสั่งเข้มเคาท์ดาวน์เซ็นทรัลเวิลด์
วานนี้ (23 ธ.ค.) ที่ ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. และคณะตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาการ ร่วมพิธีปล่อยแถวรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 ภายใต้แนวความคิด “ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจกฎ งดสุรา ไป-มาปลอดภัย” โดยเชิญภาคีเครือข่ายจากองค์กรภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี หน่วยงานที่เข้าร่วมในครั้งนี้ ได้แก่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), บริษัท วิริยะประกันภัย,อาสาจราจร มอเตอร์ริ่ง, สมาคมรถจักรยานยนต์, ชมรมแท็กซี่อาสา,บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย ฯลฯ
ทั้งนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจัดรถจักรยานยนต์สายตรวจจราจร จำนวน 435 คัน รถยนต์สายตรวจจราจร จำนวน 10 คัน รถสายตรวจ บก.ทล., ทท., ป. รวมจำนวน 30 คัน โรงพยาบาลตำรวจจัดรถพยาบาลพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ จำนวน 3 คัน และหน่วยงานอื่นประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ จำนวน 505 คัน, รถยนต์สายตรวจ จำนวน 59 คัน, อาสากู้ชีพรถยนต์ จำนวน 10 คัน, รถยก 8 คัน,แท็กซี่ จำนวน 20 คัน, รถมอเตอร์ไซด์ จำนวน 200 คัน โดยมีการกำหนดมาตรการและวางแผนป้องกันด้านการปราบปราม และป้องกันเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2554 - 3 ม.ค. 2555 นี้
สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มีความเป็นห่วงใยพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งในปีนี้หน่วยราชการและภาคเอกชนหยุดติดต่อกันหลายวัน ในเรื่องการเดินทางของประชาชน ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายจราจร โดยเฉพาะเรื่อง “ดื่มไม่ขับ” “โทรไม่ขับ” เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ลดจำนวนคนเจ็บ คนตาย ลงให้ได้มากที่สุด และเน้นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางทั้งไปและกลับ ให้ข้อมูลที่ชัดเจนแก่ประชาชน โดยต้องคำนึงถึงความสะดวก ปลอดภัย ของประชาชนเป็นสำคัญ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า สถานการณ์การสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นนโยบายที่จะต้องดำเนินการ ลดอุบัติภัยและความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เหลือน้อยที่สุด ส่งเสริมการเรียนรู้การเดินทางและการใช้การขนส่งอย่างปลอดภัย โดยน้อมนำหลักการแก้ไขปัญหาจราจรตามแนวพระราชดำริไปสู่การปฎิบัติอย่างจริงจัง และถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี จะมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับไปเฉลิมฉลองรื่นเริงยังภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก อาจมีเหตุให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต หรือพิการ เป็นจำนวนมาก
ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า โดยในช่วงปีใหม่ 2554 ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ถึง 4 มกราคม 2554 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 3,497 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3,750 ราย และเสียชีวิต 358 ราย ซึ่งปัญหาหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นสาเหตุของการได้รับบาดเจ็บและการตาย คือ อันดับแรกผู้ขับขี่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันดับที่สองขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และสุดท้ายผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ซ้อนท้ายไม่สวมหมวกนิรภัย ดังนั้นเพื่อให้อัตราการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บพิการจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ลดน้อยลง สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ทุกภาคส่วน จะต้องประสานการปฎิบัติแบบบูรณาการเพื่อรณรงค์กวดขัน และดำเนินการสร้างจิตสำนึกให้แก่ประชาชนด้านการขับขี่ปลอดภัย และมีส่วนร่วมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวอีกว่า ขอให้ข้าราชการตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละอย่างเต็มกำลังความสามารถ และขอขอบคุณทุกองค์กรทั้งจากภาครัฐและภาคีส่วนของเอกชน พี่น้องประชาชน ศิลปินดารา นักแสดง ตลอดจนสื่อมวลชนทุกแขนงทุกท่าน ที่เสียสละมาร่วมดำเนินการรวมพลังแบบบูรณาการ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ในครั้งนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า บริเวณเซ็นทรัลเวิลด์เป็นจุดใหญ่ที่จะมีการเคาท์ดาวน์ทางตำรวจวางมาตรการการป้องกันเหตุร้ายอย่างไร พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.ได้มอบหมายให้ทุก สน. เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการย่านราชประสงค์แล้ว อีกทั้งมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ว่าหลังจากงานเลิกแล้วจะเดินทางกลับในเส้นทางไหนได้บ้างเพื่ออำนวยความสะดวก คงไม่ถึงกับต้องใช้เจ้าหน้าที่จาก (EOD) เข้าไปสแกนพื้นที่ก่อน แต่ถังขยะต้องเป็นแบบใสหมด และเข้มงวดในการตรวจตราบริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะ เรื่องความปลอดภัยคิดว่าไม่มีปัญหา
เมื่อถามอีกว่า ทางกระทรวงมหาดไทยออกมาตรการไม่ให้สถานบันเทิงเปิดเกินเวลาในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ทางตำรวจมีมาตรการอย่างไร พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า คงเป็นบางจุด เพราะเป็นช่วงฉลองปีใหม่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรผ่อนผันกันไปเท่าที่ทำได้หากไม่เกินเลย ปีใหม่แล้วอย่าไปเคร่งครัดหรือเครียดอะไรมาก
