นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ รฟท.จะเข้าบริหารตลาดนัดจตุจักร ว่า ขอถามว่า 1. รฟท. มีแผนบริหารจัดการอย่างไรจึงจะได้ค่าเช่าประมาณ 400 กว่าล้านบาท 2. หากได้ 400 กว่าล้านบาท ผู้ค้าจะต้องจ่ายค่าเช่าเพิ่มเท่าใด และมีผลกระทบกับผู้คนที่ไปจับจ่ายใช้สอยเท่าใด หรือ หากจะรื้อตลาดนัดแล้วสร้างเป็นตึก และ 3. รฟท. มีอำนาจบริหารตลาดหรือไม่ ซึ่งกฎหมาย รฟท.ไม่ได้ระบุว่ารฟท. สามารถบริหารตลาดได้ แต่บริหารสินทรัพย์ได้ ดังนั้นจึงจะต้องให้เอกชนเช่า หรือให้เอกชนรับสัมปทานใช่หรือไม่ และจะแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเหมือนตลาดนัดซันเดย์ และตลาดคลองเตย ได้หรือไม่ รวมทั้งจะรักษาชื่อเสียงของตลาดนัดจตุจักร ที่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกไว้ได้หรือไม่
“คำถามทั้งหมดไม่มีคำตอบเลย แต่อยู่ดี ๆมีคำตอบหรือประโยคที่หลุดออกมา ซึ่งเป็นประโยคที่ผมตกใจ คือหลังจากที่ถูกถามเรื่องนี้ รมว.คมนาคม พูดสั้นๆว่า ถึงจะทำไม่ได้ ก็ไม่คืนให้กทม. สิ่งนี้เป็นการสะท้อนทัศนคติว่า ที่คิดทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องการเมือง คือต้องการยึดครองตรงนี้ ซึ่งก็มีการซุบซิบกันแล้วว่า เป็นการจัดสรรผลประโยชน์รอบใหม่ ดีไม่ดีจะโยงกับหลายๆ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คงจะมีเรื่องการเมือง สงสัยว่าต่อไปใครค้าขายอยู่ในนั้นได้ ก็ต้องเป็นบางสีหรือไม่ครับ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่รฟท.ทำ สวนทางกับแนวทางการกระจายอำนาจ และเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นได้เข้ามาดูแลเรื่องสำคัญๆ
“หลักของการกระจายอำนาจ คือ ต้องเอาภารกิจมาให้ กทม. มากขึ้น ดังนั้นการพยายามยึดครองส่วนต่าง ๆ กลับเข้าส่วนกลาง จึงสวนทางกับแนวคิดตรงนี้ ในขณะที่ในต่างจังหวัด อบต. อบจ. ก็ไปเพิ่มอำนาจให้ แต่พอมาถึงกทม. กลับกลายเป็นว่าจะไปลดหรือเปล่า"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
“คำถามทั้งหมดไม่มีคำตอบเลย แต่อยู่ดี ๆมีคำตอบหรือประโยคที่หลุดออกมา ซึ่งเป็นประโยคที่ผมตกใจ คือหลังจากที่ถูกถามเรื่องนี้ รมว.คมนาคม พูดสั้นๆว่า ถึงจะทำไม่ได้ ก็ไม่คืนให้กทม. สิ่งนี้เป็นการสะท้อนทัศนคติว่า ที่คิดทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องการเมือง คือต้องการยึดครองตรงนี้ ซึ่งก็มีการซุบซิบกันแล้วว่า เป็นการจัดสรรผลประโยชน์รอบใหม่ ดีไม่ดีจะโยงกับหลายๆ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คงจะมีเรื่องการเมือง สงสัยว่าต่อไปใครค้าขายอยู่ในนั้นได้ ก็ต้องเป็นบางสีหรือไม่ครับ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่รฟท.ทำ สวนทางกับแนวทางการกระจายอำนาจ และเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นได้เข้ามาดูแลเรื่องสำคัญๆ
“หลักของการกระจายอำนาจ คือ ต้องเอาภารกิจมาให้ กทม. มากขึ้น ดังนั้นการพยายามยึดครองส่วนต่าง ๆ กลับเข้าส่วนกลาง จึงสวนทางกับแนวคิดตรงนี้ ในขณะที่ในต่างจังหวัด อบต. อบจ. ก็ไปเพิ่มอำนาจให้ แต่พอมาถึงกทม. กลับกลายเป็นว่าจะไปลดหรือเปล่า"นายอภิสิทธิ์ กล่าว