xs
xsm
sm
md
lg

คำชี้แจง “ปูแดงขาเก” ของ มช.?!

เผยแพร่:   โดย: ปิยะโชติ อินทรนิวาส

หน้าเว็บไซต์ของสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้ขึ้นคำชี้แจงไว้โดดเด่น แต่ทั้งหน้าก็มีข้อมูลเท่าที่เห็น
มีคำชี้แจงออกมาแล้วกรณี มช.ยกยอปอปั้นสรรเสริญเทิดทูน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เป็น “นักศึกษาเก่าผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต” ซึ่งจะมีพิธีประกาศเกียรติคุณและรับโล่จากอธิการบดี มช.ในระหว่างการจัดงานพิธีรับพระราชทานปริญญาเดือนมกราคม 2555 นี้

คำชี้แจงดังกล่าวเป็นของ “สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่” ที่ทำเป็นไฟล์แนบอยู่ที่หน้าเว็บของสมาคมฯ เป็นหนังสือลงวันที่ 22 ธันวาคม 2554 เสียดายที่พื้นที่บทความมีไม่มาก จึงไม่สามารถนำเนื้อหามาแสดงได้ทั้งหมด แต่สามารถเข้าไปอ่านฉบับเต็มได้ที่ http://alumni.cmu.ac.th/province/chiangmai/ ในที่นี้ขอยกเฉพาะส่วนที่กำลังกล่าวขานกันหนาหู

หนังสือชี้แจงฉบับนี้ขึ้นต้นก็จงใจบอกทันทีเลยว่า “จากการที่มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน” ก่อนที่จะตามด้วยข้อชี้แจงการมอบรางวัลนักศึกษาเก่าดีเด่นฯ ว่าดำเนินมาตั้งแต่ปี 2526 ปัจจุบันมีการคัดเลือกศิษย์เก่าที่มีอยู่ราว 1.4 แสนคนให้ได้รับรางวัลนี้ไปแล้ว 196 คน (รวม 13 คนในปี 2554) ซึ่งประเด็นนี้ไม่ใครติดใจอะไรเลย

แต่สิ่งที่ผู้คนในสังคมจำนวนมากเกิดความรู้สึกรับไม่ได้คือ การมอบรางวัลนักศึกษาเก่าผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รหัส 28 (สิงห์ขาวรุ่นที่ 21) แบบคนเดียวโดดๆ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผู้บริหารทั้งในส่วนของสถาบันและสมาคมฯ ยอมจำนนต่ออำนาจ สยบให้กับนักการเมือง โดยเฉพาะกับระบอบทักษิณที่กำลังกลืนกินสังคมไทย

เราลองฟังเหตุผลของสมาคมฯ ดูนะครับ ตอนหนึ่งในหนังสือชี้แจงระบุว่า...

“รางวัลนักศึกษาเก่าผู้ประสบความเสร็จในชีวิต เป็นรางวัลที่สมาคมฯ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2544 พิจารณามอบให้นักศึกษาเก่าที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ของชาติ เช่น องคมนตรี รัฐมนตรี อธิบดี อธิการบดี ฯลฯ รวมถึงนักศึกษาเก่าผู้ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางแล้วในสังคม เช่น การได้รับรางวัลซีไรต์ รางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น เป็นต้น”

อีกตอนหนึ่งชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นรางวัลที่จัดขึ้นพิเศษเป็นการเฉพาะในปีนี้เท่านั้น ที่ผ่านมามีศิษย์เก่าได้รางวัลนี้แล้ว 18 คน (รวม น.ส.ยิ่งลักษณ์) ก่อนตบท้ายด้วยข้อความว่า...

“กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับรางวัลนักศึกษาเก่าผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตปีนี้ สมาคมฯ ได้พิจารณาแล้วถึงสถานะความเป็นนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ของเธอ ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงเป็นอื่นใดได้ และ ณ โอกาสที่เธอสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของประเทศ ทั้งยังเป็นบันทึกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทยในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกด้วย จึงเป็นเหตุผลสมควรที่จะได้รับการแสดงความยินดีให้เป็นที่ปรากฏ ดังเช่นนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่รุ่นก่อนๆ ที่เคยได้รับรางวัลนี้ในโอกาสที่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ของชาติ”

ฟังดูดีและมีเหตุผลนะครับ แต่หากพิจารณาเอาเฉพาะที่ขีดเส้นใต้ไว้ ไม่ทราบมีใครรู้สึกแปลกแปร่งและเห็นว่าผิดเพี้ยนไปจาก “หลักการ” ที่ทั้งสถาบันและสมาคมฯ ประกาศไว้เหมือนผมหรือเปล่า

เอาแค่เรื่องฮือฮาในสังคมไทย ผู้บริหาร มช.คงไม่รู้จักอาหารชนิดใหม่ “ส้มตำ Eโง่” กระมั่ง

ว่าด้วยภาพการประสบความสำเร็จในชีวิต มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางแล้วในสังคม ซึ่งผู้บริหาร มช.เห็นว่ามีพร้อมสรรพในตัวตนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้วนั้น ทำไมมันช่างขัดแย้งกับสายตาผู้คนส่วนใหญ่ทั้งในประเทศไทยและนานาชาติยิ่งนัก

เป็นที่รับรู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วมิใช่หรือว่า เธอมีวันนี้ได้เพราะมีพี่ชายที่เป็นนักโทษหนีคุกชื่อ “ทักษิณ ชิวัตร” ผู้สร้าง “ระบอบทักษัณ” ขึ้นมาครอบงำสังคมไทย และใช้ “เครือข่ายเสื้อแดง” เป็นหอกดาบทำร้ายทำลายฝ่ายตรงข้าม แถมยังมีเป้าพุ่งตรงไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย

ความเป็นนักธุรกิจของเธอนะหรือ ใครๆ ก็รู้ว่าถูกสร้างภาพขึ้นจากการโอบอุ้มไว้แบบไข่แดง ในอ้อมกอดของขุมข่ายอาณาจักรผู้ขาดตัดตอนสัมปทานรัฐของพี่ชาย

แต่ที่ตลกสิ้นดีคือ ความเป็นนักการเมืองของเธอ ภาพนี้ถูกอุปโลกน์ขึ้นได้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งแค่ 49 วันก่อนที่จะสปริงไปนั่งเป็นผู้นำรัฐบาล แล้วเพียงแค่ 4 เดือนก็เป็นที่ประจักษ์ว่า บ้านเมืองทั้งสูญเสียโอกาส และเสียหายไปกับน้ำมือการบริหารจัดงานของเธออย่างมากมายมหาศาล ชนิดว่ายากที่จะคำนวณเป็นตัวเลขออกมาได้ครบถ้วน

น่าอนาถหรือไม่ที่สื่อต่างประเทศรายงานข่าวแต่ละครั้งมักบอกว่า เธอคือโคลนนิ่งของพี่ชาย พร้อมชี้ว่าแม้เธอจะนั่งเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่เจ้าของรัฐบาลและพรรคตัวจริงก็คือ สัมภเวสีที่เร่ร่อนอยู่นอกประเทศ

กลางเดือนมกราคม 2555 นี้คงจะได้ยินเสียงสรรเสริญเยินยออีกครั้งใหญ่ที่ มช.จะได้ทำพิธีประกาศเกียรติคุณและมอบโล่ให้กับศิษย์เก่า “ผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต” ที่ได้เป็น “นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย” เพราะขนาดสื่อมวลชนและนักวิชาการยังให้สมญานามเธอแบบเสียดแทงไปถึงขั้วหัวใจเวลานี้ว่า “นายกฯ นกแก้ว” และ “ดาวดับ” หรือรัฐนาวาที่เธอกุมบังเหียนอยู่ว่า “ทักษิณส่วนหน้า” และ “ปูอบวุ้นเส้น” หรือสภาที่เธอกุมเสียงข้างมากว่า “กระดองปูแดง” หรือ “สภาจิ้งหรีด” แม้พรรคเพื่อไทยที่เธอนั่งเป็นหัวหน้าก็ได้ฉายา “นักประดาน้ำ”

หากนำหลักการของทั้งสถาบันและสมาคมฯ มาพิจารณา ยิ่งเห็นความไม่ลงตัวต่อการมอบรางวัลให้กับเธอ ลองพิจารณากันดูนะครับว่า สอดรับกับตัวตนและระบอบที่โอบอุ้มรุมล้อมเธออยู่หรือไม่

ในเว็บไซต์ มช. (http://www.cmu.ac.th/info_desc.php?id=2) มีการตั้งปณิธานไว้ว่า บัณฑิตแห่ง มช.พึงฝักใฝ่ในการฝึกฝนตน เป็นผู้รู้จริง คิดเป็น ปฏิบัติได้ สามารถครองตน ครองคน ครองงาน ด้วยมโนธรรมและจิตสำนึกต่อสังคม และแสดงวิสัยทัศน์ไว้ว่า ผลิตบัณฑิตที่มีคุณธรรมและคุณภาพ มีการบริหารจัดการที่ดีตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ที่ในเว็บไซต์สมาคมฯ ยังประกาศบทบาทไว้ว่า มีกิจกรรมคัดเลือกศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในวิชาชีพและมีคุณธรรม..เพื่อประกาศให้สังคมได้รับทราบ

เธอเป็นดั่งเช่นข้อความที่ขีดเส้นใต้ไว้หรือไม่ ผมเชื่อว่าคำตอบอยู่ในใจของทุกคนแล้ว

จึงไม่แปลกที่ มช.มอบรางวัลให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในครั้งนี้จะถูกมองว่า กลุ่มผู้บริหารแสดงอาการเชลียร์ระบอบทักษิณที่กำลังใหญ่คับบ้านคับเมืองแบบออกหน้าออกตา คำชี้แจงที่แถลงไขออกมานี้จึงสมควรถูกให้คุณค่าไปในลักษณะเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น