สมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ตั้งฉายาองค์กรการเมืองประจำปี อาทิ รัฐบาลได้ฉายา "ปูอบวุ้นเส้น" โดยสภาพการณ์ของรัฐบาลชุดปัจจุบันเปรียบได้กับปูอบวุ้นเส้น ซึ่งประกอบขึ้นด้วยวัตถุดิบ อุปกรณ์ และกระบวนการเฉพาะที่ลงตัว กล่าวคือ "ปู" ถูกยกขึ้นมามีบทบาทนำ เป็นส่วนประกอบที่เหมือนกับมีความสำคัญที่สุด ด้วยความโดดเด่นและสีสัน รวมทั้งราคา ขณะที่วุ้นเส้น เปรียบได้กับมวลชนที่ให้การสนับสนุนรัฐบาล และยังประกอบไปด้วยเครื่องเทศที่มีรสชาติเผ็ดร้อน และซอสปรุงรสสีคล้ำ หม้อที่มีฝาปิด เปรียบได้กับสภาพแวดล้อมที่ห่อหุ้มรัฐบาลและมวลชนผู้สนับสนุน ซึ่งทั้งหมดนี้กลายเป็นสิ่งหล่อหลอมให้เกิดรสชาติของอาหารจานนี้ ส่วนจะอ่อนเค็ม อ่อนหวาน หรืออ่อนเผ็ด ก็แล้วแต่ชิวหา (ลิ้น) ของผู้ชิม
ส่วนรัฐสภา ได้ฉายา "สภาจิ้งหรีด" โดยรัฐสภา (Parliament) ในรอบปีที่ผ่านมาทำหน้าที่แย่ยิ่งกว่ารากศัพท์ในภาษาฝรั่งเศส ที่ Parliament นั้น หมายถึงการพูด เพราะในปัจจุบันยังถูกจำกัดลงแต่เพียงเรื่องอันมีผลกระทบ หรือเป็นประโยชน์ต่อรัฐ ไม่ใช่เรื่องที่มีแก่นสาร ฟังไปก็ดังแสบแก้วหู ไม่ได้ภาษา ประหนึ่งกับเป็นเสียงจิ้งหรีด
นอกจากนี้ สมาคมรัฐศาสตร์ฯ ยังตั้งให้พรรคเพื่อไทยได้ฉายา "นักประดาน้ำ" เพราะนับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งและเข้ารับตำแหน่ง ประกอบกับสถานการณ์วิกฤตอุทกภัยอย่างหนักหน่วง พรรคเพื่อไทยแทนที่จะมีบทบาทในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยกลไกของรัฐ ในฐานะที่ตนเองเป็นรัฐบาล แต่กลับฉวยโอกาสขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเดือดร้อน และมุ่งความสนใจอยู่กับปัญหาเฉพาะหน้า
โดยเรื่องที่เห็นได้อย่างชัด คือเรื่องการเนียนของบริจาคที่ ศปภ.ประหนึ่งกับเป็นนักประดาน้ำ พร้อมกับอุปกรณ์ทันสมัยครบชุดไปอย่างเงียบเชียบ ไร้ร่องรอย อาศัยช่วงน้ำหลากขับเคลื่อนวาระแอบแฝงอย่างรวดเร็วและแนบเนียน
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ได้ฉายา "หล่อรอเสียบ" ซึ่งภาพลักษณ์สำคัญที่ถือเป็นจุดขายหลักของพรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน คือเรื่องของความหล่อ ทั้งในแง่รูปธรรม คือรูปร่างหน้าตา เสื้อผ้า หน้าผม ส่วนนามธรรม คือคำพูดคำจา กิริยาท่าทาง การศึกษา หรือแม้กระทั่งชาติตระกูล สมญานามในพรรคจึงมีทั้งหล่อใหญ่ หล่อเล็ก หล่อจิ๋ว แต่ลงเลือกตั้งคราวใดก็มักจะแพ้และไม่ได้รับการลงคะแนนให้มีเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้สักที เอาแต่จะรอเสียบด้วยสารพัดเทคนิควิธี
ส่วนรัฐสภา ได้ฉายา "สภาจิ้งหรีด" โดยรัฐสภา (Parliament) ในรอบปีที่ผ่านมาทำหน้าที่แย่ยิ่งกว่ารากศัพท์ในภาษาฝรั่งเศส ที่ Parliament นั้น หมายถึงการพูด เพราะในปัจจุบันยังถูกจำกัดลงแต่เพียงเรื่องอันมีผลกระทบ หรือเป็นประโยชน์ต่อรัฐ ไม่ใช่เรื่องที่มีแก่นสาร ฟังไปก็ดังแสบแก้วหู ไม่ได้ภาษา ประหนึ่งกับเป็นเสียงจิ้งหรีด
นอกจากนี้ สมาคมรัฐศาสตร์ฯ ยังตั้งให้พรรคเพื่อไทยได้ฉายา "นักประดาน้ำ" เพราะนับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งและเข้ารับตำแหน่ง ประกอบกับสถานการณ์วิกฤตอุทกภัยอย่างหนักหน่วง พรรคเพื่อไทยแทนที่จะมีบทบาทในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยกลไกของรัฐ ในฐานะที่ตนเองเป็นรัฐบาล แต่กลับฉวยโอกาสขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเดือดร้อน และมุ่งความสนใจอยู่กับปัญหาเฉพาะหน้า
โดยเรื่องที่เห็นได้อย่างชัด คือเรื่องการเนียนของบริจาคที่ ศปภ.ประหนึ่งกับเป็นนักประดาน้ำ พร้อมกับอุปกรณ์ทันสมัยครบชุดไปอย่างเงียบเชียบ ไร้ร่องรอย อาศัยช่วงน้ำหลากขับเคลื่อนวาระแอบแฝงอย่างรวดเร็วและแนบเนียน
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ได้ฉายา "หล่อรอเสียบ" ซึ่งภาพลักษณ์สำคัญที่ถือเป็นจุดขายหลักของพรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน คือเรื่องของความหล่อ ทั้งในแง่รูปธรรม คือรูปร่างหน้าตา เสื้อผ้า หน้าผม ส่วนนามธรรม คือคำพูดคำจา กิริยาท่าทาง การศึกษา หรือแม้กระทั่งชาติตระกูล สมญานามในพรรคจึงมีทั้งหล่อใหญ่ หล่อเล็ก หล่อจิ๋ว แต่ลงเลือกตั้งคราวใดก็มักจะแพ้และไม่ได้รับการลงคะแนนให้มีเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้สักที เอาแต่จะรอเสียบด้วยสารพัดเทคนิควิธี