30 กันยายนของทุกปี เป็นวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งข้าราชการทุกกระทรวงของไทย เมื่ออายุครบ 60 ปี ถือเป็นวันเกษียณอายุราชการ และวันที่ 1 ตุลาคม เป็นวันแรกของปีงบประมาณใหม่ที่ข้าราชการเข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่ทดแทนข้าราชการที่ปลดเกษียณในวันที่ 30 กันยายน
การแต่งตั้งข้าราชการเข้ามาทดแทน หลักการทั่วไปจะแต่งตั้งข้าราชการในตำแหน่งที่สูงก่อน จากนั้นก็จะพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการในระดับรองๆ ลงไปตามลำดับ ข้าราชการมหาดไทยก็ใช้แนวทางการแต่งตั้งเช่นนี้
มหาดไทยได้ชื่อว่าเป็นกระทรวงต้นแบบของการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยเฉพาะในตำแหน่งสำคัญๆ บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจะได้รับการยอมรับจากสังคมและเป็นที่ยอมรับในหมู่ของข้าราชการมหาดไทยด้วยกัน ด้วยหลักความรู้ความสามารถและอาวุโส หลายปีที่ผ่านมานักการเมืองเข้ามามีอำนาจในมหาดไทยกลับทิ้งระบบคุณธรรมในการสรรหาบุคคล การแต่งตั้งข้าราชการที่ปราศจากระบบคุณธรรมจึงปรากฏให้เห็นมีการใช้เงินในการซื้อตำแหน่งแต่งตั้งบุคคลอาวุโสน้อยข้ามหัวผู้มีอาวุโส ได้บุคคลที่ไม่มีความรู้ความสามารถที่เพียงพอเข้ามาบริหารงาน ข้าราชการที่ดีๆ มีคุณธรรม มีอาวุโสจึงถูกละเลยมิได้รับการแต่งตั้งแต่อย่างใด
ความล่าช้าในการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ในปีงบประมาณ 2555 เป็นสิ่งที่ต้องจับตาดู เพราะมีผู้ตรวจราชการกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัดครบเกษียณอายุหลายคน ในวันที่ 30 กันยายน 2554 จำเป็นต้องแต่งตั้งข้าราชการขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนในวันที่ 1 ตุลาคม 2554 จนถึงขณะนี้ผ่านมาเกือบสามเดือนแล้วมหาดไทยยังไม่สามารถสรรหาข้าราชการดังกล่าวให้เสร็จสิ้นได้ จึงเป็นความเสื่อมประการแรก
เพราะทางปฏิบัติที่ผ่านมา การสรรหาข้าราชการจะทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน หรืออย่างช้าต้นเดือนตุลาคมของปี และข้าราชการเหล่านี้จะสามารถไปปฏิบัติงานในตำแหน่งใหม่ได้ในต้นเดือนตุลาคม
ความสำคัญของผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการพลเรือนในส่วนภูมิภาคที่จะต้องประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาในวัน 5 ธันวาคม ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ 5 ธันวาคมปีนี้ มีจังหวัดไม่น้อยกว่า 16 จังหวัดที่ไม่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในพิธี เพราะเกษียณอายุเมื่อ 30 กันยายน จึงมีเพียงรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่มิได้เป็นผู้ได้รับการโปรดเกล้าฯ ทำหน้าที่ประธานในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาแทน เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่เพียงใด จึงเป็นความเสื่อมประการที่สอง
หันมามองดูการสรรหาตำแหน่งผู้ว่าฯ แทนตำแหน่งที่ว่างในปี 2555 แม้จะใช้ข้ออ้างว่าเป็นเพราะภาวะน้ำท่วมก็ตาม แต่เบื้องหลังของความล่าช้าอยู่ที่
ความขัดแย้งของกลุ่มคนเสื้อแดงในแต่ละจังหวัดที่ให้การสนับสนุนรองผู้ว่าฯ แต่ละคนแตกแยกกัน
รองผู้ว่าฯ ที่รู้ว่าไม่มีชื่อได้รับการแต่งตั้ง วิ่งเต้นนักการเมืองให้ระงับการเสนอรายชื่อไว้ก่อนเพื่อจะได้วิ่งเต้นใหม่
ความพยายามของบางรายที่เสนอเงินให้แก่นักการเมืองในอัตราเลขแปดหลักเพื่อแลกกับการขอขึ้นเป็นผู้ว่าฯ
นักการเมืองที่มีอิทธิพลในตระกูลสำคัญ ใช้อำนาจจะเลือกแต่งตั้งบุคคลที่ตนได้รับผลประโยชน์ให้ไปดำรงตำแหน่ง
เพราะเหตุดังนี้จึงก่อให้เกิดกระแสความขัดแย้ง ความไม่ลงตัว การเล่นพวก การซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้น ความเสื่อมทั้งหมดเหล่านี้มิใช่เกิดจากนักการเมืองเท่านั้น แต่สิ่งเลวร้ายคือความอยากได้ใคร่มีของรองผู้ว่าฯ เอง ที่มีความต้องการจนลืมอุดมการณ์และศักดิ์ศรีของข้าราชการเพียงได้มาซึ่งตำแหน่ง กล้าทำสิ่งต่างๆ ที่ผิดทำนองคลองธรรมได้ไปหมด
ด้วยเพราะนักการเมืองถืออำนาจเหนือระบบคุณธรรม การประกาศระบบการสรรหาผู้ว่าราชการจังหวัดของมหาดไทยที่ประกาศใช้เกณฑ์ให้แสดงวิสัยทัศน์ การสัมภาษณ์ การพิจารณาความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของรองผู้ว่าฯ มาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินจึงเป็นเพียงภาพลวงตาของมหาดไทยที่แสดงต่อสาธารณชนเท่านั้น
วันนี้สิ่งที่มหาดไทยเหลืออยู่ และเป็นความหวังว่าจะสามารถกอบกู้นำคุณธรรมให้กลับคืนสู่มหาดไทยได้อยู่ที่
หนึ่ง ปลัดกระทรวงที่ชื่อพระนาย สุวรรณรัฐ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด จะต้องเป็นเสาหลักในการตัดสินใจด้วยตนเอง ในการคัดเลือกรองผู้ว่าฯ ที่มีความรู้ความสามารถในระบบราชการที่แท้จริง โดยไม่หวั่นไหวต่อนักการเมือง
สอง คณะกรรมการสรรหาฯ ที่มหาดไทยได้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ให้ทำหน้าที่เป็นผู้คัดเลือกรองผู้ว่าฯ จะต้องถือหลักความซื่อสัตย์ สุจริต และความเที่ยงธรรมในหน้าที่การสรรหาอย่างตรงไปตรงมาโดยปราศจากอคติและใบสั่งจากนักการเมืองอื่นใดทั้งสิ้น
นอกจากปัจจัยคุณลักษณะของปลัดกระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการสรรหาฯ ข้างต้นแล้ว การคัดเลือกและแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในครั้งนี้ จะสามารถเปลี่ยนรูปแบบให้ปรากฏและเป็นที่ยอมรับของสังคมทั่วไปว่า เป็นไปโดยหลักคุณธรรมอย่างแท้จริงแล้วก็ด้วย
การนำผลคะแนนของคณะกรรมการสรรหาฯ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์การทำงานตลอดจนวิสัยทัศน์ประกาศเปิดเผยให้สาธารณชนได้ทราบว่ารองผู้ว่าราชการจังหวัดท่านใดได้คะแนนมากน้อยเพียงใด ความอาวุโส และประสบการณ์ในระบบราชการที่ได้พิจารณาได้ใช้หลักเกณฑ์พิจารณาอย่างใดและรองผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละท่านได้รับคะแนนเท่าใด
การประกาศให้ทราบเช่นนี้แล้ว แม้จะไม่มีวิธีการอื่นใดที่จะทำได้ดีกว่าในขณะนี้ ก็เป็นวิธีการเดียวที่มหาดไทยจะได้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีความรู้ความสามารถที่แท้จริงสมดังเจตนาการประกาศการสรรหา ป้องกันนักการเมืองมิให้เข้ามาใช้อิทธิพลแทรกแซงในการแต่งตั้งได้ในระดับหนึ่ง
คนมหาดไทยในวันนี้จึงฝากความหวังไว้ที่
ปลัด มท.ที่ชื่อ พระนาย สุวรรณรัฐ และประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ที่ชื่อ นายสวัสดิ์ ส่งสัมพันธ์
การแต่งตั้งข้าราชการเข้ามาทดแทน หลักการทั่วไปจะแต่งตั้งข้าราชการในตำแหน่งที่สูงก่อน จากนั้นก็จะพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการในระดับรองๆ ลงไปตามลำดับ ข้าราชการมหาดไทยก็ใช้แนวทางการแต่งตั้งเช่นนี้
มหาดไทยได้ชื่อว่าเป็นกระทรวงต้นแบบของการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยเฉพาะในตำแหน่งสำคัญๆ บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจะได้รับการยอมรับจากสังคมและเป็นที่ยอมรับในหมู่ของข้าราชการมหาดไทยด้วยกัน ด้วยหลักความรู้ความสามารถและอาวุโส หลายปีที่ผ่านมานักการเมืองเข้ามามีอำนาจในมหาดไทยกลับทิ้งระบบคุณธรรมในการสรรหาบุคคล การแต่งตั้งข้าราชการที่ปราศจากระบบคุณธรรมจึงปรากฏให้เห็นมีการใช้เงินในการซื้อตำแหน่งแต่งตั้งบุคคลอาวุโสน้อยข้ามหัวผู้มีอาวุโส ได้บุคคลที่ไม่มีความรู้ความสามารถที่เพียงพอเข้ามาบริหารงาน ข้าราชการที่ดีๆ มีคุณธรรม มีอาวุโสจึงถูกละเลยมิได้รับการแต่งตั้งแต่อย่างใด
ความล่าช้าในการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ในปีงบประมาณ 2555 เป็นสิ่งที่ต้องจับตาดู เพราะมีผู้ตรวจราชการกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัดครบเกษียณอายุหลายคน ในวันที่ 30 กันยายน 2554 จำเป็นต้องแต่งตั้งข้าราชการขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนในวันที่ 1 ตุลาคม 2554 จนถึงขณะนี้ผ่านมาเกือบสามเดือนแล้วมหาดไทยยังไม่สามารถสรรหาข้าราชการดังกล่าวให้เสร็จสิ้นได้ จึงเป็นความเสื่อมประการแรก
เพราะทางปฏิบัติที่ผ่านมา การสรรหาข้าราชการจะทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน หรืออย่างช้าต้นเดือนตุลาคมของปี และข้าราชการเหล่านี้จะสามารถไปปฏิบัติงานในตำแหน่งใหม่ได้ในต้นเดือนตุลาคม
ความสำคัญของผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการพลเรือนในส่วนภูมิภาคที่จะต้องประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาในวัน 5 ธันวาคม ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ 5 ธันวาคมปีนี้ มีจังหวัดไม่น้อยกว่า 16 จังหวัดที่ไม่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในพิธี เพราะเกษียณอายุเมื่อ 30 กันยายน จึงมีเพียงรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่มิได้เป็นผู้ได้รับการโปรดเกล้าฯ ทำหน้าที่ประธานในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาแทน เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่เพียงใด จึงเป็นความเสื่อมประการที่สอง
หันมามองดูการสรรหาตำแหน่งผู้ว่าฯ แทนตำแหน่งที่ว่างในปี 2555 แม้จะใช้ข้ออ้างว่าเป็นเพราะภาวะน้ำท่วมก็ตาม แต่เบื้องหลังของความล่าช้าอยู่ที่
ความขัดแย้งของกลุ่มคนเสื้อแดงในแต่ละจังหวัดที่ให้การสนับสนุนรองผู้ว่าฯ แต่ละคนแตกแยกกัน
รองผู้ว่าฯ ที่รู้ว่าไม่มีชื่อได้รับการแต่งตั้ง วิ่งเต้นนักการเมืองให้ระงับการเสนอรายชื่อไว้ก่อนเพื่อจะได้วิ่งเต้นใหม่
ความพยายามของบางรายที่เสนอเงินให้แก่นักการเมืองในอัตราเลขแปดหลักเพื่อแลกกับการขอขึ้นเป็นผู้ว่าฯ
นักการเมืองที่มีอิทธิพลในตระกูลสำคัญ ใช้อำนาจจะเลือกแต่งตั้งบุคคลที่ตนได้รับผลประโยชน์ให้ไปดำรงตำแหน่ง
เพราะเหตุดังนี้จึงก่อให้เกิดกระแสความขัดแย้ง ความไม่ลงตัว การเล่นพวก การซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้น ความเสื่อมทั้งหมดเหล่านี้มิใช่เกิดจากนักการเมืองเท่านั้น แต่สิ่งเลวร้ายคือความอยากได้ใคร่มีของรองผู้ว่าฯ เอง ที่มีความต้องการจนลืมอุดมการณ์และศักดิ์ศรีของข้าราชการเพียงได้มาซึ่งตำแหน่ง กล้าทำสิ่งต่างๆ ที่ผิดทำนองคลองธรรมได้ไปหมด
ด้วยเพราะนักการเมืองถืออำนาจเหนือระบบคุณธรรม การประกาศระบบการสรรหาผู้ว่าราชการจังหวัดของมหาดไทยที่ประกาศใช้เกณฑ์ให้แสดงวิสัยทัศน์ การสัมภาษณ์ การพิจารณาความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของรองผู้ว่าฯ มาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินจึงเป็นเพียงภาพลวงตาของมหาดไทยที่แสดงต่อสาธารณชนเท่านั้น
วันนี้สิ่งที่มหาดไทยเหลืออยู่ และเป็นความหวังว่าจะสามารถกอบกู้นำคุณธรรมให้กลับคืนสู่มหาดไทยได้อยู่ที่
หนึ่ง ปลัดกระทรวงที่ชื่อพระนาย สุวรรณรัฐ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด จะต้องเป็นเสาหลักในการตัดสินใจด้วยตนเอง ในการคัดเลือกรองผู้ว่าฯ ที่มีความรู้ความสามารถในระบบราชการที่แท้จริง โดยไม่หวั่นไหวต่อนักการเมือง
สอง คณะกรรมการสรรหาฯ ที่มหาดไทยได้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ให้ทำหน้าที่เป็นผู้คัดเลือกรองผู้ว่าฯ จะต้องถือหลักความซื่อสัตย์ สุจริต และความเที่ยงธรรมในหน้าที่การสรรหาอย่างตรงไปตรงมาโดยปราศจากอคติและใบสั่งจากนักการเมืองอื่นใดทั้งสิ้น
นอกจากปัจจัยคุณลักษณะของปลัดกระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการสรรหาฯ ข้างต้นแล้ว การคัดเลือกและแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในครั้งนี้ จะสามารถเปลี่ยนรูปแบบให้ปรากฏและเป็นที่ยอมรับของสังคมทั่วไปว่า เป็นไปโดยหลักคุณธรรมอย่างแท้จริงแล้วก็ด้วย
การนำผลคะแนนของคณะกรรมการสรรหาฯ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์การทำงานตลอดจนวิสัยทัศน์ประกาศเปิดเผยให้สาธารณชนได้ทราบว่ารองผู้ว่าราชการจังหวัดท่านใดได้คะแนนมากน้อยเพียงใด ความอาวุโส และประสบการณ์ในระบบราชการที่ได้พิจารณาได้ใช้หลักเกณฑ์พิจารณาอย่างใดและรองผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละท่านได้รับคะแนนเท่าใด
การประกาศให้ทราบเช่นนี้แล้ว แม้จะไม่มีวิธีการอื่นใดที่จะทำได้ดีกว่าในขณะนี้ ก็เป็นวิธีการเดียวที่มหาดไทยจะได้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีความรู้ความสามารถที่แท้จริงสมดังเจตนาการประกาศการสรรหา ป้องกันนักการเมืองมิให้เข้ามาใช้อิทธิพลแทรกแซงในการแต่งตั้งได้ในระดับหนึ่ง
คนมหาดไทยในวันนี้จึงฝากความหวังไว้ที่
ปลัด มท.ที่ชื่อ พระนาย สุวรรณรัฐ และประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ที่ชื่อ นายสวัสดิ์ ส่งสัมพันธ์