xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นผู้พัฒนานิคมฯเมินเงินกู้ออมสินสร้างคันกั้นน้ำถาวรเงื่อนไขยุ่งยาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ก.อุตฯ เตรียมประสานสิบทิศ หลังผู้พัฒนานิคมฯ ระบุเงินกู้ 1.5 หมื่นล้านบาทอาจไม่จำเป็นต้องใช้หากแผนจัดการน้ำระดับชาติชัดเจน ชี้สร้างแล้วข้างนอกท่วมไร้ประโยชน์ แถมเงื่อนไขกู้ออมสินยุ่งยาก "เจโทร" ตอกย้ำไทยยังเป็นฐานการผลิตญี่ปุ่นลงทุนยังมาไม่เปลี่ยนแต่น้ำต้อง ไม่ท่วมอีก

นายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้ช่วยรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในงานสัมมนา "ความร่วมมือรัฐบาล-เอกชนและนานาชาติเพื่อการบูรณะและการพัฒนาภาคการผลิตอุตสาหกรรมไทย อย่างยั่งยืน" ที่จัดโดย บ.รี้ดเทรดเด็กซ์ วานนี้(21 ธ.ค.) ว่า จากการหารือกับผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการส่วนใหญ่มองว่าวงเงินกู้ 1.5 หมื่นล้านบาทดอกเบี้ย 0.001% ระยะเวลา 7 ปีที่รัฐบาลให้การสนับสนุนผู้พัฒนา นิคมฯ กู้ไปสร้างเขื่อนถาวรกั้นน้ำรอบนิคมฯ นั้นอาจไม่จำเป็นต้องใช้เลยหากรัฐบาลมีแผนป้องกันและจัดการปัญหาน้ำท่วมที่ได้ผลและชัดเจน เนื่องจากเอกชนเห็นว่าหากสร้างกั้นนิคมฯ แต่ภายนอกน้ำยังท่วมอยู่ก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ

"ขณะนี้แผนบริหารจัดการน้ำระยะยาวที่จะสร้างความเชื่อมั่นรัฐบาลก็กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งคงจะต้องให้เห็นภาพที่ชัดเจนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นโดยล่าสุดทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเองก็ยืนยันว่าจะไม่ท่วมอีก" นายสุภาพกล่าว

นอกจากนี้ยังได้รับการร้องเรียน ถึงอุปสรรคการกู้เงินจากธนาคารออมสินดังกล่าวว่ามีเงื่อนไขที่ต้องให้ผู้ประกอบการในนิคมฯ ทั้งหมดมาร่วมเซ็นสัญญาเงินกู้เพื่อการันตีการจ่ายเงินคืน พร้อมกันนี้ส่วนของวงเงินที่รัฐบาลสนับสนุน 2.1 แสนล้านบาทที่ปล่อยกู้ผ่านธนาคารพาณิชย์ในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ถูกน้ำท่วมไปฟื้นฟูกิจการ ปรากฏว่ามีการแจ้งว่า ธนาคารสาขาบางแห่งต่อรองการปล่อยกู้ว่าหากต้องการเร็วจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็น 4% จากปกติดอกเบี้ยจะอยู่ที่อัตรา 3% ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรม จะได้หารือกับส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

นายเซ็ทซึโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กล่าวว่า ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มแข็งค่าที่ผ่านมาและมีแนวโน้มจะยังแข็งค่าอีกนั้นทำให้บริษัทญี่ปุ่นยังคงจำเป็นต้องมีการย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น และในภูมิภาคอาเซียนไทยมีความเข้มแข็งอย่างมาก จึงมองไทยยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ซึ่งผลการสำรวจเมื่อกลาง พ.ย.นี้พบว่านักลงทุนญี่ปุ่นไม่คิดที่จะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปประเทศอื่นๆ แต่อย่างใด โดยยังคงรอแผนการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลที่จะออกมาให้ชัดเจนว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก

"ผมคิดว่าไทยและญี่ปุ่นจะก้าวไปด้วยกัน เพราะไทยนั้นถือเป็นศูนย์กลางที่ติดต่อประเทศในแถบลุ่มน้ำโขง อาเซียน มีการเชื่อมโยงวัตถุดิบและสินค้าได้อย่างดี สิ่งที่ไทยต้องเร่งทำคือเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติเพราะหลายคนยังคิดว่าน้ำจะท่วมไทยอีก ซึ่งที่ผ่านมาเราเองก็พอใจแต่ต่อไปอย่าให้ท่วมอีกเป็น อันขาด" นายเซ็ทซึโอะกล่าว

นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า วันที่ 29 ธันวาคมนี้จะมีการประชุมบอร์ดบีโอไอเพื่อพิจารณา มาตรการฟื้นฟูกิจการที่ถูกน้ำท่วมเพิ่มเติม โดยเฉพาะการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อการปรับปรุงเครื่องจักรและซ่อมแซม ซึ่งจะรวมถึงผู้พัฒนานิคมฯ ที่จะลงทุนสร้างเขื่อนคันกั้นน้ำถาวรด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น