ASTVผู้จัดการรายวัน - แลนด์ฯแย้มแผนลงทุนปี 55 คาดโครงการคอนโดฯมีจำนวนมากขึ้น ทั้งโปรกเจกต์ใหม่และเลื่อนมาเปิดปีหน้า รุกเพิ่มโครงการต่างจังหวัด โบรกฯมองผลจากการเปิดคอนโดฯหนุนช่วยชดเชยยอดขาย
นายอดิศร ธนนันท์นราพูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี 2555 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ คาดว่าภายในสิ้นเดือนธ.ค.จะชัดเจน ซึ่งในเบื้องต้นภาพรวมการลงทุนจะมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้นเมื่อเทียบกับโครงการแนวราบ เนื่องจากมีโครงการคอนโดฯที่เลื่อนเปิดจากปี 54 ไปเปิดในปีหน้า
"ปี 55 อสังหาจะดีขึ้นตามภาพรวมเศรษฐกิจ และมองว่าผลกระทบน้ำท่วมน่าจะลากยาวไป 3- 6 เดือน อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทได้เลื่อนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการจากแผนเดิมปลายปี 54 ไปเป็นต้นปี 55 ได้แก่ โครงการย่านถนนสาทรและซอยอารีย์ เนื่องจากยังรอใบอนุญาตจากทางการ และผลพวงจากสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่ใช่ปัจจัยหลัก"นายอดิศรกล่าว
สำหรับโครงการลงทุนในต่างจังหวัด ทางแลนด์ฯยังศึกษาที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งในพื้นที่เดิมที่บริษัทมีที่ดินอยู่แล้ว เช่น จ.เชียงใหม่ ,ขอนแก่น และ ภูเก็ต เป็นต้น รวมทั้งพื้นที่ใหม่ เพราะช่วงที่ผ่านมาโครงการในต่างจังหวัดทำยอดขายได้ดี ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขาย 10-20% ของยอดขายรวม ถือว่าช่วยชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ระดับหนึ่ง รวมทั้งมองว่าภาพรวมจะดีขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศที่จะขยายตัวจากการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะส่งผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเม็ดเงินซื้อที่ดินในปี 55 ใกล้เคียงปี 54 หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท แต่ในการพิจาณาซื้อที่ดินทำเลใดนั้นจะมีความรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้น โดยจะนำประเด็นสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้มาใช้ในการตัดสินใจด้วย และมองว่าผลกระทบน้ำท่วมจะลากยาวต่อไปราว 3- 6 เดือน
ในส่วนภาพรวมของผลงานในปี 54 คาดว่ายอดยอดโอนจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่กว่า 7,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ปกติไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี ซึ่งจะทำรายได้ราว 4,000-5,000 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมส่งผลต่อยอดขายชะงักไป และส่งผลต่อรายได้ทั้งปีที่อาจจะไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ แต่ก็ถือว่ายังมากกว่าปีก่อน
ขณะที่นักโบรกเกอร์จากบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่า บริษัทแลนด์ฯ มีหวังในปี 55 ที่มีโอกาสฟื้นตัวตามอุตสาหกรรม จากปี 54 ที่คาดว่ารายได้จากการขายจะลดลง และมองว่าในปีหน้าบริษัทจะมีการเปิดขายโครงการคอนโดฯมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการนอนาคต
ทั้งนี้ ในปีหน้า แลนด์ฯ จะมีรายได้จากการโอนคอนโดฯ ต่อเนื่องจาก 4Q54 และมีกำหนดการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดฯ ใหม่อีก 2 โครงการช่วง 2Q55-3Q55 ได้แก่ The Key แจ้งวัฒนะ(ข้อมูลล่าสุด ณ สิ้น 3Q54 ขายแล้ว 61% ของมูลค่าโครงการ 1,860 ล้านบาท) และ The Key ประชาชื่น(ขายแล้ว 68% ของมูลค่าโครงการ 560 ล้านบาท) ขณะที่รายได้จากโครงการแนวราบเราคาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวในช่วง 2H55 รวมทั้งบริษัทมีแผนที่จะเปิดขายคอนโดฯมากขึ้นในปี 55 โดยบริษัทมีการซื้อที่ดินไว้แล้ว ซึ่งจะสามารถช่วยชดเชยการชะลอตัวของยอดขายที่อยู่อาศัยแนวราบได้
ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 54 แลนด์ฯจะมียอดขายรอรับรู้รายได้( Backlog) มูลค่า 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโด 5,000 ล้านบาท และแนวราบ 2,000 ล้านบาท โดยเราคาดว่าไตรมาส 4 ปีนี้ จะมีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดฯ ประมาณ 2,500 ล้านบาท จากการโอนโครงการใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ 1) The Room สาทร-ตากสิน 2) TheKey พหลโยธิน 3) โอกาส หัวหิน ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของบริษัทที่ 2,800 ล้านบาท เนื่องจากโครงการ The Key พหลโยธิน ประสบปัญหาน้ำท่วม
'ปริญสิริฯ'เร่งปิดยอดขาย'สมาร์ท วัชรพล'
นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สมาร์ท วัชรพล เป็นคอนโดที่มีข้อได้เปรียบ ด้วยโครงการมีจุดเด่นทำเลที่ตั้งซึ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์คนทำงานได้ดี เพราะแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ใกล้แหล่งชุมชนและแหล่งช้อปปิ้งหลากหลาย รวมทั้งสถาบันการศึกษาและสถานีรถไฟฟ้าในอนาคต และเพื่อเป็นการเร่งปิดยอดการขายจำนวนยูนิตที่เหลืออีกประมาณ 100 ยูนิตให้เร็วขึ้น ทางปริญสิริได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้สนใจที่จอง จะได้รับไอแพด 2 ทันที ภายในงานมีการเชิญลูกค้าที่ได้จองและทำสัญญาเรียบร้อยแล้วเข้าร่วมงานพร้อมทั้งนำอุปกรณ์เทคโนโลยีออนไลน์ที่ทันสมัยมาช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างลูกค้าและเจ้าหน้าที่ของโครงการ
ขณะเดียวกัน ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้าชมโครงการจากสถานที่จริงซึ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ พร้อมโอน อีกทั้งให้คำปรึกษาที่พร้อมสรรพทั้งด้านการวางแผนทางการเงินจากเจ้าหน้าที่ธนาคารจำนวน 4-5 แห่ง รวมทั้งให้คำปรึกษาด้านการตกแต่งห้องเพิ่มเติมจากบูธของผู้ประกอบการด้านการตกแต่งที่หลากหลาย
นายอดิศร ธนนันท์นราพูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี 2555 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ คาดว่าภายในสิ้นเดือนธ.ค.จะชัดเจน ซึ่งในเบื้องต้นภาพรวมการลงทุนจะมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้นเมื่อเทียบกับโครงการแนวราบ เนื่องจากมีโครงการคอนโดฯที่เลื่อนเปิดจากปี 54 ไปเปิดในปีหน้า
"ปี 55 อสังหาจะดีขึ้นตามภาพรวมเศรษฐกิจ และมองว่าผลกระทบน้ำท่วมน่าจะลากยาวไป 3- 6 เดือน อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทได้เลื่อนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการจากแผนเดิมปลายปี 54 ไปเป็นต้นปี 55 ได้แก่ โครงการย่านถนนสาทรและซอยอารีย์ เนื่องจากยังรอใบอนุญาตจากทางการ และผลพวงจากสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่ใช่ปัจจัยหลัก"นายอดิศรกล่าว
สำหรับโครงการลงทุนในต่างจังหวัด ทางแลนด์ฯยังศึกษาที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งในพื้นที่เดิมที่บริษัทมีที่ดินอยู่แล้ว เช่น จ.เชียงใหม่ ,ขอนแก่น และ ภูเก็ต เป็นต้น รวมทั้งพื้นที่ใหม่ เพราะช่วงที่ผ่านมาโครงการในต่างจังหวัดทำยอดขายได้ดี ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขาย 10-20% ของยอดขายรวม ถือว่าช่วยชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ระดับหนึ่ง รวมทั้งมองว่าภาพรวมจะดีขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศที่จะขยายตัวจากการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะส่งผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเม็ดเงินซื้อที่ดินในปี 55 ใกล้เคียงปี 54 หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท แต่ในการพิจาณาซื้อที่ดินทำเลใดนั้นจะมีความรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้น โดยจะนำประเด็นสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้มาใช้ในการตัดสินใจด้วย และมองว่าผลกระทบน้ำท่วมจะลากยาวต่อไปราว 3- 6 เดือน
ในส่วนภาพรวมของผลงานในปี 54 คาดว่ายอดยอดโอนจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่กว่า 7,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ปกติไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี ซึ่งจะทำรายได้ราว 4,000-5,000 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมส่งผลต่อยอดขายชะงักไป และส่งผลต่อรายได้ทั้งปีที่อาจจะไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ แต่ก็ถือว่ายังมากกว่าปีก่อน
ขณะที่นักโบรกเกอร์จากบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่า บริษัทแลนด์ฯ มีหวังในปี 55 ที่มีโอกาสฟื้นตัวตามอุตสาหกรรม จากปี 54 ที่คาดว่ารายได้จากการขายจะลดลง และมองว่าในปีหน้าบริษัทจะมีการเปิดขายโครงการคอนโดฯมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการนอนาคต
ทั้งนี้ ในปีหน้า แลนด์ฯ จะมีรายได้จากการโอนคอนโดฯ ต่อเนื่องจาก 4Q54 และมีกำหนดการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดฯ ใหม่อีก 2 โครงการช่วง 2Q55-3Q55 ได้แก่ The Key แจ้งวัฒนะ(ข้อมูลล่าสุด ณ สิ้น 3Q54 ขายแล้ว 61% ของมูลค่าโครงการ 1,860 ล้านบาท) และ The Key ประชาชื่น(ขายแล้ว 68% ของมูลค่าโครงการ 560 ล้านบาท) ขณะที่รายได้จากโครงการแนวราบเราคาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวในช่วง 2H55 รวมทั้งบริษัทมีแผนที่จะเปิดขายคอนโดฯมากขึ้นในปี 55 โดยบริษัทมีการซื้อที่ดินไว้แล้ว ซึ่งจะสามารถช่วยชดเชยการชะลอตัวของยอดขายที่อยู่อาศัยแนวราบได้
ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 54 แลนด์ฯจะมียอดขายรอรับรู้รายได้( Backlog) มูลค่า 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโด 5,000 ล้านบาท และแนวราบ 2,000 ล้านบาท โดยเราคาดว่าไตรมาส 4 ปีนี้ จะมีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดฯ ประมาณ 2,500 ล้านบาท จากการโอนโครงการใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ 1) The Room สาทร-ตากสิน 2) TheKey พหลโยธิน 3) โอกาส หัวหิน ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของบริษัทที่ 2,800 ล้านบาท เนื่องจากโครงการ The Key พหลโยธิน ประสบปัญหาน้ำท่วม
'ปริญสิริฯ'เร่งปิดยอดขาย'สมาร์ท วัชรพล'
นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สมาร์ท วัชรพล เป็นคอนโดที่มีข้อได้เปรียบ ด้วยโครงการมีจุดเด่นทำเลที่ตั้งซึ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์คนทำงานได้ดี เพราะแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ใกล้แหล่งชุมชนและแหล่งช้อปปิ้งหลากหลาย รวมทั้งสถาบันการศึกษาและสถานีรถไฟฟ้าในอนาคต และเพื่อเป็นการเร่งปิดยอดการขายจำนวนยูนิตที่เหลืออีกประมาณ 100 ยูนิตให้เร็วขึ้น ทางปริญสิริได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้สนใจที่จอง จะได้รับไอแพด 2 ทันที ภายในงานมีการเชิญลูกค้าที่ได้จองและทำสัญญาเรียบร้อยแล้วเข้าร่วมงานพร้อมทั้งนำอุปกรณ์เทคโนโลยีออนไลน์ที่ทันสมัยมาช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างลูกค้าและเจ้าหน้าที่ของโครงการ
ขณะเดียวกัน ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้าชมโครงการจากสถานที่จริงซึ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ พร้อมโอน อีกทั้งให้คำปรึกษาที่พร้อมสรรพทั้งด้านการวางแผนทางการเงินจากเจ้าหน้าที่ธนาคารจำนวน 4-5 แห่ง รวมทั้งให้คำปรึกษาด้านการตกแต่งห้องเพิ่มเติมจากบูธของผู้ประกอบการด้านการตกแต่งที่หลากหลาย
