ASTVผู้จัดการรายวัน-“เฉลิม”ยันรัฐบาลไม่ปล่อยเกิดเหตุระเบิดปีใหม่ซ้ำ โว"เพรียวพันธ์"วางแผนรับมือเรียบร้อยแล้ว ย้ำคดี 3 จุดกทม. ไม่มีจับแพะ ผบช.น.ชี้ได้เบาะแสคนร้าย 3-4 คน เร่งล่าตัวดำเนินคดี กมธ.ตำรวจ หยันรัฐจัดฉากวางบึ้ม เย้ยทำเองจับเอง ชี้พิรุธครอบครัวระบุ “จิรวัฒน์” ไม่รู้เรื่องระเบิด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิด 3 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (20 ธ.ค.) ว่า ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ หลักฐานครบถ้วน แต่ว่าในทางคดี เขาจะไม่เอารายละเอียดสำนวนคดีมาพูด นักการเมืองบางคนไม่เข้าใจ เอารายละเอียดสำนวนที่ถือเป็นความลับราชการมาเปิดเผย ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ งานนี้ไม่มีจับแพะจับแกะ แต่จับคนเลย ทีนี้บังเอิญเขาบอกเขาเคยเลี้ยงแพะ ในความเป็นจริงตนอยากจะบอกว่าไม่มีใครเสี่ยงที่จะยอมติดคุก เพื่อให้สร้างสถานการณ์ ยืนยันว่าตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อย ยังไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า แผนรับมือในช่วงปีใหม่ กังวลว่าสถานการณ์ระเบิดจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้วางแผนไว้เรียบร้อย ซึ่ง ผบ.ตร.รายงานให้ตนทราบ ถือว่าใช้ได้ ซึ่งตนค่อนข้างมั่นใจว่าจะรักษาสถานการณ์ไว้ได้ และคิดคนดีๆ จะไม่ให้ความร่วมมือกับพวกก่อกวนหรอก ถ้าประชาชนให้ความเป็นหูเป็นตา ทุกอย่างก็สามารถแก้ไขได้
ถามต่อว่า มีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อดูแลความปลอดภัยโดยเฉพาะหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ตำรวจทำอยู่แล้ว แต่ตนก็ได้ให้นโยบายกว้างๆ ว่า ความปลอดภัยต้องมี เหตุร้ายอย่าให้เกิด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ ซึ่งตนได้ให้การบ้านไป 3 ข้อให้ตำรวจไปทำเป็นแผนและดำเนินการแล้ว
ถามต่อว่า พื้นที่ 10 จุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษมีการออกปฏิบัติการในเชิงป้องปราบอย่างไรบ้าง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า 10 จุดนั้น เกิดเมื่อปี 2550 ปีนี้เกิดไม่ได้ เพราะรัฐบาลนี้ไม่ให้เกิด และพวกที่ทำ พวกนั้นก็ล่มสลายไปแล้ว เพราะทะเลาะกันเอง เดี๋ยวนี้ประชาชนเป็นหูเป็นตาเยอะ เพราะตนได้รับโทรศัพท์บ่อย เขาจะบอกเบาะแส ตนก็เลยบอกตำรวจไป สังเกตได้จากการจับยาบ้า จับได้ล็อตหนึ่งมหึมา เพราะประชาชนเขาแจ้งเบาะแส
เมื่อถามว่า ทางฝ่ายท่องเที่ยวได้ออกมาเตือนว่า ถ้าพูดเรื่องระเบิดมากๆ กลัวนักท่องเที่ยวยกเลิกกันหมด ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนเห็นใจท่องเที่ยว ถึงพยายามไม่พูดแล้ว แต่ถ้าไม่ระวังไว้บ้างก็ไม่ได้เหมือนกัน ก็จะต้องระมัดระวัง มันเป็นเส้นคาบเกี่ยวกัน ตนก็ได้บอกตำรวจไว้แล้วว่าเจอของซุกซ่อน ถ้ามันไม่ใช่ระเบิดอย่าไปพูด อย่าไปให้ข่าว ก็รู้ว่ามันไม่ใช่ เอาถุงไปยัด เอาอะไรไปยัด ก็ต้องพูดน้อยๆ
**"วินัย"เร่งจับกุมทีมบึ้มที่เหลือ**
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิด 3 จุดว่า ขณะนี้ได้เบาะแสคนร้ายพอสมควร โดยมีด้วยกัน 3-4 คน ซึ่งคนร้ายใช้รถยนต์ 2 คัน เป็นพาหนะในการก่อเหตุ หากสามารถติดตามจับกุมตัวได้ จะนำผลตรวจรอยนิ้วมือในที่เกิดเหตุ รวมถึงผลตรวจดีเอ็นเอจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) นำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งเชื่อว่า เป็นฝีมือการก่อเหตุของกลุ่มผู้ที่ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง ต้องการสร้างสถานการณ์ให้ปั่นป่วน ซึ่งเป็นกลุ่มพวกเดิมหน้าเดิมๆ ที่เคยวางระเบิดคาร์บอมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามตัวอยู่ และอยากให้จับกุมตัวได้เร็วๆ เช่นกัน
**หยันรัฐจัดฉากวางบิ้ม**
วันเดียวกันนี้ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการลอบวางระเบิดในที่สาธารณะหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ว่า แม้ทางรัฐบาลจะสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว แต่มีพฤติกรรมหลายอย่างที่ทำให้รู้สึกน่าสงสัย และมีการตั้งข้อสังเกตไปในทำนองที่ว่าทำเองจับเอง เพื่อหวังสร้างผลงาน หรือหวังผลประโยชน์บางอย่าง โดยเฉพาะกรณีของนายจิรวัฒน์ จันทร์เพ็ง ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิด 3 จุด ที่ไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้นในวันแถลงข่าว มีเพียง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่คอยแย่งพูดและให้ข้อมูลฝ่ายเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้สื่อข่าวไปสอบถามทางครอบครัว ก็ไม่พบข้อมูลที่บ่งบอกว่า นายจิรวัฒน์ เป็นคนที่นำระเบิดไปวางตามจุดต่างๆ เนื่องจากไม่มีความรู้หรือความสนใจในเรื่องนี้มาก่อนเลย จึงเกรงจะเป็นการจัดฉากขึ้นมาเท่านั้น
"คนที่จะวางระเบิดที่มีอานุภาพความรุนแรงขนาดนี้ได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก และคงไม่ทำงานผิดพลาดจนถูกจับตัวได้ง่ายๆ แบบนี้ เพราะน่าจะต้องเป็นคนระดับมืออาชีพที่ทำอะไรรัดกุม"นายสมชายระบุ
นอกจากนี้ จุดที่นำระเบิดไปวางระเบิด ก็เป็นนอกย่านชุมชน หรือตามพงหญ้าต่างๆ เท่านั้น เหมือนกับการทำไปเพียงแค่ต้องการจะให้เป็นข่าว เนื่องจากไม่มีความสมเหตุสมผล หรือมีความชัดเจนที่เพียงพอ ต่างกับสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ซึ่งมีการวางระเบิดตามย่านชุมชน ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อได้ว่าเป็นฝีมือของคนร้ายตัวจริงอย่างชัดเจนแน่นอน และกว่าจะจับคนร้ายมาได้แต่ละราย ก็ต้องใช้ระยะเวลานาน อย่างไรก็ตาม ในการประชุม กมธ.ตำรวจ สัปดาห์นี้ อาจจะมีการหยิบยกเรื่องเหตุวางระเบิดดังกล่าวเข้าหารือด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิด 3 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (20 ธ.ค.) ว่า ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ หลักฐานครบถ้วน แต่ว่าในทางคดี เขาจะไม่เอารายละเอียดสำนวนคดีมาพูด นักการเมืองบางคนไม่เข้าใจ เอารายละเอียดสำนวนที่ถือเป็นความลับราชการมาเปิดเผย ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ งานนี้ไม่มีจับแพะจับแกะ แต่จับคนเลย ทีนี้บังเอิญเขาบอกเขาเคยเลี้ยงแพะ ในความเป็นจริงตนอยากจะบอกว่าไม่มีใครเสี่ยงที่จะยอมติดคุก เพื่อให้สร้างสถานการณ์ ยืนยันว่าตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อย ยังไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า แผนรับมือในช่วงปีใหม่ กังวลว่าสถานการณ์ระเบิดจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้วางแผนไว้เรียบร้อย ซึ่ง ผบ.ตร.รายงานให้ตนทราบ ถือว่าใช้ได้ ซึ่งตนค่อนข้างมั่นใจว่าจะรักษาสถานการณ์ไว้ได้ และคิดคนดีๆ จะไม่ให้ความร่วมมือกับพวกก่อกวนหรอก ถ้าประชาชนให้ความเป็นหูเป็นตา ทุกอย่างก็สามารถแก้ไขได้
ถามต่อว่า มีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อดูแลความปลอดภัยโดยเฉพาะหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ตำรวจทำอยู่แล้ว แต่ตนก็ได้ให้นโยบายกว้างๆ ว่า ความปลอดภัยต้องมี เหตุร้ายอย่าให้เกิด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ ซึ่งตนได้ให้การบ้านไป 3 ข้อให้ตำรวจไปทำเป็นแผนและดำเนินการแล้ว
ถามต่อว่า พื้นที่ 10 จุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษมีการออกปฏิบัติการในเชิงป้องปราบอย่างไรบ้าง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า 10 จุดนั้น เกิดเมื่อปี 2550 ปีนี้เกิดไม่ได้ เพราะรัฐบาลนี้ไม่ให้เกิด และพวกที่ทำ พวกนั้นก็ล่มสลายไปแล้ว เพราะทะเลาะกันเอง เดี๋ยวนี้ประชาชนเป็นหูเป็นตาเยอะ เพราะตนได้รับโทรศัพท์บ่อย เขาจะบอกเบาะแส ตนก็เลยบอกตำรวจไป สังเกตได้จากการจับยาบ้า จับได้ล็อตหนึ่งมหึมา เพราะประชาชนเขาแจ้งเบาะแส
เมื่อถามว่า ทางฝ่ายท่องเที่ยวได้ออกมาเตือนว่า ถ้าพูดเรื่องระเบิดมากๆ กลัวนักท่องเที่ยวยกเลิกกันหมด ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนเห็นใจท่องเที่ยว ถึงพยายามไม่พูดแล้ว แต่ถ้าไม่ระวังไว้บ้างก็ไม่ได้เหมือนกัน ก็จะต้องระมัดระวัง มันเป็นเส้นคาบเกี่ยวกัน ตนก็ได้บอกตำรวจไว้แล้วว่าเจอของซุกซ่อน ถ้ามันไม่ใช่ระเบิดอย่าไปพูด อย่าไปให้ข่าว ก็รู้ว่ามันไม่ใช่ เอาถุงไปยัด เอาอะไรไปยัด ก็ต้องพูดน้อยๆ
**"วินัย"เร่งจับกุมทีมบึ้มที่เหลือ**
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิด 3 จุดว่า ขณะนี้ได้เบาะแสคนร้ายพอสมควร โดยมีด้วยกัน 3-4 คน ซึ่งคนร้ายใช้รถยนต์ 2 คัน เป็นพาหนะในการก่อเหตุ หากสามารถติดตามจับกุมตัวได้ จะนำผลตรวจรอยนิ้วมือในที่เกิดเหตุ รวมถึงผลตรวจดีเอ็นเอจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) นำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งเชื่อว่า เป็นฝีมือการก่อเหตุของกลุ่มผู้ที่ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง ต้องการสร้างสถานการณ์ให้ปั่นป่วน ซึ่งเป็นกลุ่มพวกเดิมหน้าเดิมๆ ที่เคยวางระเบิดคาร์บอมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามตัวอยู่ และอยากให้จับกุมตัวได้เร็วๆ เช่นกัน
**หยันรัฐจัดฉากวางบิ้ม**
วันเดียวกันนี้ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการลอบวางระเบิดในที่สาธารณะหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ว่า แม้ทางรัฐบาลจะสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว แต่มีพฤติกรรมหลายอย่างที่ทำให้รู้สึกน่าสงสัย และมีการตั้งข้อสังเกตไปในทำนองที่ว่าทำเองจับเอง เพื่อหวังสร้างผลงาน หรือหวังผลประโยชน์บางอย่าง โดยเฉพาะกรณีของนายจิรวัฒน์ จันทร์เพ็ง ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิด 3 จุด ที่ไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้นในวันแถลงข่าว มีเพียง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่คอยแย่งพูดและให้ข้อมูลฝ่ายเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้สื่อข่าวไปสอบถามทางครอบครัว ก็ไม่พบข้อมูลที่บ่งบอกว่า นายจิรวัฒน์ เป็นคนที่นำระเบิดไปวางตามจุดต่างๆ เนื่องจากไม่มีความรู้หรือความสนใจในเรื่องนี้มาก่อนเลย จึงเกรงจะเป็นการจัดฉากขึ้นมาเท่านั้น
"คนที่จะวางระเบิดที่มีอานุภาพความรุนแรงขนาดนี้ได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก และคงไม่ทำงานผิดพลาดจนถูกจับตัวได้ง่ายๆ แบบนี้ เพราะน่าจะต้องเป็นคนระดับมืออาชีพที่ทำอะไรรัดกุม"นายสมชายระบุ
นอกจากนี้ จุดที่นำระเบิดไปวางระเบิด ก็เป็นนอกย่านชุมชน หรือตามพงหญ้าต่างๆ เท่านั้น เหมือนกับการทำไปเพียงแค่ต้องการจะให้เป็นข่าว เนื่องจากไม่มีความสมเหตุสมผล หรือมีความชัดเจนที่เพียงพอ ต่างกับสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ซึ่งมีการวางระเบิดตามย่านชุมชน ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อได้ว่าเป็นฝีมือของคนร้ายตัวจริงอย่างชัดเจนแน่นอน และกว่าจะจับคนร้ายมาได้แต่ละราย ก็ต้องใช้ระยะเวลานาน อย่างไรก็ตาม ในการประชุม กมธ.ตำรวจ สัปดาห์นี้ อาจจะมีการหยิบยกเรื่องเหตุวางระเบิดดังกล่าวเข้าหารือด้วย
