00...เหตุของคดีที่สร้างความสะเทือนขวัญ ต่อประชาชนที่ติดตามอ่านข่าวอาชญากรรมในรอบสัปดาห์นี้ คงไม่พ้นคดีฆาตกรรมเผาอำพราง "พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้" อดีต รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ถูกไฟคลอกไหม้ดำเป็นตอตะโก อยู่ทางประตูเข้าห้องนอน ที่บ้านเลขที่ 47/131 หมู่ 7 หมู่บ้านกฤษฎานคร 10 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กองปราบปรามร่วมสืบเหตุดังกล่าวหลังพบเงื่อนงำการเสียชีวิต อีกทั้งผลชันสูตรพลิกศพระบุพบมีบาดแผล 7-8 แห่งบริเวณแผ่นหลัง แถมในลำคอไม่พบเขม่าไฟ เชื่อเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง คนร้ายหวังเผาบ้านของผู้ตาย เพื่อทำลายหลักฐาน...
พาดหัว “จงรัก” โชว์จับสาวคนสนิทฆ่าเผาอดีตรอง ผบช.ภ.7 รับลงมือคนเดียว มือสังหารโหดรายนี้ คือ นางสาวภรณ์ภัสสรณ์ หรือบ๋อม ศิริวงศ์ อายุ 24 ปี ตำรวจจับได้พร้อมของกลางมีดพับ 1 เล่ม สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท 1 เส้น, 5 บาท 1 เส้น และสร้อยคออีก 4 เส้น นาฬิกาข้อมือยี่ห้อโรเล็กซ์ฝังเพชร 1 เรือน พระสมเด็จฯ พร้อมตลับทอง 1 รายการ เหรียญสมเด็จโตพร้อมตลับทอง 1 องค์ แหวนเพชร 3 วง เงินสด 2 แสนบาท อื่น ๆ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ จ.เพชรบูรณ์....ประชาชนเข้ามาอ่านข่าวนี้ส่วนใหญ่เชื่อฝีมือการติดตามจับกุมคนร้ายของตำรวจแค่ไหน ไปติดตามแสดงความคิดเห็นห้อยท้ายข่าวกัน.....ว่า.....
"ลงมือคนเดียว โธ่! เอาอีกแล้วจงรัก"
"เป็นข้อพิสูจน์ที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนแล้วว่า แพะไม่ได้มีแต่ "ตัวผู้" ........."
"เจ้าของร้านทองโทร.ไปแจ้งไม่ใช่เหรอครับ ต้องเป็นฝีมือประชาชนสิ"
"ไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของผู้หญิงทำคนเดียวครับ คำให้การยังไม่มีน้ำหนักครับ"
"นายตำรวจหน้าขาวทำผลงานสะท้านเมือง...แล้วคดีของ สนธีอ่ะ ทำไมเงียบไปเลยทีคดีอย่างนี้กลับโชว์เทพ"
"ขยันจับแพะจับแกะอีกแย้วซวยเลยสาวคนนี้"
"ผู้หญิง อายุ 24 ทำงานร้านอาหาร เหรอ จะกล้าฆ่า กระหน่ำแทง ชิงทรัพย์ แถมเผาบ้านซ๊ำ อำพรางคดี นายพลตำรวจ ด้วยตัวคนเดียวล้วนๆใครอยากเชื่อก็เชื่อ แต่ผมไม่เชื่อ"
"เห็นชื่อนายตำรวจที่จับแล้วรู้สึกแปล่ง ๆ ไม่ค่อยเชื่อ....นี้.....ชอบจับแพะ ค่อนข้างเชื่อยาก"
00....คดีตายธรรมดา ตายพิสดารปริศนา ตายเพราะถูกฆาตกรรมอำพราง หรือคดีอื่น ๆ ดัง ๆ ใหญ่ ๆ ที่อุกฉกรรจ์ ไล่ลงมาจนถึงอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเล็ก ๆ ในแต่ละวัน ฝีมือตำรวจไทยยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะสร้างความเชื่อถือในฝีไม้ลายมือที่สามารถควบคุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีและเร่งคลี่คลายสางคดีได้ แม้ตามจับตัวคนร้ายในแต่ละคดีมาได้แล้ว แถมคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ถึงกระนั้นประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่าจับคนร้ายถูกคน...ไม่ใช่แพะ แกะ อย่างที่ชอบมองกัน ซึ่งตรงนี้อยากจะฝากผ่านไปยังท่าน "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" ผบ.ตร. ที่นั่งเฉย ๆ จริง ๆ เพื่อให้ถึงวันที่ 30 ก.ย. ครบเกษียณอายุราชการ คงไม่ทันการแล้วกระมัง คงต้องฝากท่าน ผบ.ตร.คนที่ 7 ที่จะขึ้นมาแทนที่ "พัชรวาท" ให้ทบทวนปรับปรุงศักยภาพในการปราบปราบปัญหาอาชญากรรมครองเมือง และให้เร่งกอบกู้ภาพลักษณ์การทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้น่าเชื่อถือกว่าที่เป็นอยู่จะเป็นพระคุณยิ่ง........
00...ทิ้งทวน....ก่อนอำลาตำแหน่งปลายกันยายนนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" ผบ.ตร. นั่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติผู้ได้รับการแต่งตั้งโยกย้าย หรือบอร์ดกลั่นกรอง และในช่วงบ่ายวันเดียวกัน "สุเทพ เทือกสุบรรณ" รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวาระการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย โดยมี ผบ.ตร. รองผบ.ตร. จตช.และคณะกรรรมการ ก.ตร. ร่วมพิจารณาด้วย.....ไปติดตามพาดหัว... แบ่งเค้กลงตัวโยก 100 กว่านายพลตำรวจ “เด็กแม้ว” ยังผงาด! ระดับบิ๊กตำรวจแบ่งเค้กลงตัว ส่งเด็ก สนง.ยึดเก้าอี้ใหญ่ โยก พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ตชด.เป็น ผบช.ภ.2 นั่ง ผบช.กำลังพล ดัน ตชด.คุมพื้นที่ มีผล 16 ส.คพร้อมส่งสัญญาณแต่งตั้งรองผบก.-ประทวน แฉ “สุชาติ เหมือนแก้ว” ขอกลับ บช.น.ไม่ได้ เหตุ “วรพงษ์” ขอ ผบ.ตร.ทำงานต่อ เผยแต่งตั้งครั้งนี้ อยู่นอกเหนือกฏ ก.ตร.เพราะเป็นการแต่งตั้งพิเศษเพื่อปรับโครงสร้าง ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นทักษิณ “พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์” ออกจากกรุเป็นรองสันติบาล “พล.ต.ต.วินัย ทองสอง” คว้ารอง ผบช.ก.ขณะที่ผู้การ 191 โยกคุมศูนย์สืบนครบาล ส่วน “ปรีชา ธิมามนตรี” ขยับใหญ่ขึ้นเป็น ผู้การศูนย์สืบ สตม. ไปติดตามความคิดเห็นกับข่าวระดับตัวใหญ่เปลี่ยนกันนั่งเก้าอี้ตามโควต้าโยกย้ายครั้งนี้ ว่า....
"ผิดหวังกับ พรรคประชาธิปัตย์ มาก และมากยิ่งขึ้น ครับ แค่ 6 เดือน ยังบริหารห่วยแตก แบบนี้ ขืนปล่อยให้อีก 3 เดือน 6 เดือน ยังนึกภาพไม่ออกว่า พี่น้องไทยจะจนลงอีกเพียงใด"
"ผมขอเสนอให้ตำรวจทุกนาย ต้องหมุนเวียนไปประจำ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คนละ 6 เดือน เริ่มจากสน.ทองหล่อ มักกะสัน หรือ สน.ที่่โดนกองปราบจับบ่อนได้ ก่อนเลย รับรองว่าตำรวจที่ไม่ดีจะลาออกไปเอง(เพราะตำรวจที่ไม่ดีเค้าจะกลัวตายครับ) แล้วให้ตำรวจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาปราบยาเสพติด ปราบโต๊ะบอล ปราบบ่อน จะดีกว่ามากๆ"
"อยากบอกว่า ตำรวจทุกวันนี้ทำหน้าที่ตามที่ถวายสัตย์ปฏิญาณไว้หรือไม่ คิดถึงประชาชนหรือไม่ ทำดีเพื่อพ่อแล้วหรือยังคะ"
"เอาตำรวจเลวออกไป เอาตำรวจห่วยมาแทน ทำได้แค่นี้เรอะ ผบ.ตร."
"อนาจ . . . . สืบทอดทายาทอสูร พร้อมกับสร้าง ตร.เลวรุ่นใหม่ ๆ ไม่ขาดสาย"
00...ขยันขันแข็ง ไม่หยุดนิ่ง จะเป็นการนำนโยบายแนวคิดเก่าของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาปัดฝุ่น กระตุ้นต่อมความกระตือรือล้น ในการทำงาน หรือจะพยายามมองให้เป็นแนวคิดใหม่ "พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา" ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังคงไม่มองข้ามลายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะให้บริการประชาชนประทับใจกับการทำงานของตำรวจอย่างสม่ำเสมอ ล่าสุด นครบาลเปิด ONE STOP SERVICE เพิ่มความฉับไวบริการประชาชน โดยท่าน "วรพงษ์" เดินทางไปเปิด ONE STOP SERVICE ณ สน.พลับพลาไชย 1 ด้วยตนเอง ซึ่งจะบริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการแก่ประชาชน นอกจากนี้ท่าน "วรพงษ์" ยังเน้นสร้างสะอาดพื้นที่โดยรอบจุดบริการ สร้างความเจริญหูเจริญตาแก่ประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการมากขึ้น และฝันว่าการบริการจะครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่รับแจ้งความ เปรียบเทียบปรับ ให้คำปรึกษาข้อกฎหมาย ประกันตัวผู้ต้องหา ถอนประกัน แจ้งเอกสารหาย ตลอดจนการขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง เพื่อกิจการต่างๆ เช่น เล่นงิ้ว.........ลองไปติดตามความรู้สึกของประชาชนกับเรื่องนี้ดูว่า .....
"one stop service นี่มันเก่ามากแล้วนะ ประเทศอื่นๆในโลกนี้เขาก็เลิกไปหมดแล้ว เอามาทำทำไม เอาแค่ให้บริการเดิมไห้มีคุณภาพ ทำกฏหมายให้เป็นกฏหมาย ก็พอแล้ว"
"แจ้งความขอปลด ผบ.ตร. ได้ที่นี่เลยหรือเปล่าฮับ"
"ไถครบวงจรว่างั้นนนน เถอะ"
"ควรเปลี่ยนชื่อองค์กรใหม่ คำว่าตำรวจ มันเสื่อมไปจากสังคมไทยแล้ว ไม่มีใครเขาอยากเรียกกัน ควรเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ เปลี่ยนบุคลากรใหม่ และเปลี่ยนชื่อใหม่ คนเก่าโละทิ้ง รีไทร์ออก ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ทัศนคติเดิมๆ"
"ตั้งด่าน แจ้งข้อกล่าวหา ขู่ จำคุก จ่ายเงิน ปล่อย ณ.จุด one step service"
"one stop ยัดข้อหา รีด ปรับ ซ้อม ติดคุก ที่เดียวพร้อม"
"มาทำ วันสต๊อป ที่ สน.คลองตันบ้างยาบ้า เอกมัย 30 ซื้อ-ขายรับ-ส่ง ตร.คุ้มครองเองซื้อยา-ส่งยา ที่ เซเว่น ฯ ได้ทั้งวันกลางคืน มอเตอร์ไซค์, สามล้อ,แท๊กซี่, รถเก๋ง วิ่งวนซอย ทั้งคืน"
00...เพราะเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานหรือไม่ กับความที่ไม่ย้ำอยู่กับที่คอยกระทุ้งให้ตำรวจตื่นตัวทำงานบริการประชาชนตลอดเวลา ขอปรบมือให้ "พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา" อีกครั้ง แม้จะมีเสียงแว่ว ๆ กระแนะ กระแน ว่าการสร้างผลงานผักชีโรยหน้าทำเพราะกลัวตำแหน่งหลุด เหตุ "พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว" เจ้าเก่าวิ่งสุดฝีตีนขอกลับนครบาล แต่กินแห้วไปแล้ว หรือเป็นเพราะใกล้ช่วงฤดูโยกย้ายจำเป็นต้องหมั่นปั่นผลงานช่วงโปรโมชั่นสุดท้ายก็ตาม...แต่เราเชื่อมือท่านนะ "วรพงษ์".......
00...จับได้แล้ว! คนเลวในคราบโจรแท๊กซี่...ที่ขับรถหลอกพาไกด์สาว ลูกสาว "พันโท" ไปข่มขืนถ่ายคลิปไว้ข่มขู่ โดยไกด์สาวแจ้งความกับตำรวจสน.พหลโยธิน ช่วยตามไล่ล่าแท็กซี่หื่นกามล่อลวงขืนใจชิงทรัพย์ ผู้เสียหายรายนี้ คือ น.ส.บี(นามสมมติ) อดีตนักศึกษาคณะการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสามเสน ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นไกด์ทัวร์ เป็นลูกสาวนายทหารบกยศ พันโท สังกัดหน่วยรบพิเศษ ใน จ.สระบุรี
สาวเจ้าเล่าว่า เวลาประมาณ 22.00 น. ได้โบกรถแท็กซี่สีชมพูคาดน้ำเงิน ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่นจากลาดพร้าวซอย 1 ให้ไปส่งที่บ้านพักในซอยพัฒนาการ 38 โดยคนร้ายในคราบโชเฟอร์เป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ใบหน้ารูปไข่ ไว้ผมยาว ผิวคล้ำ รูปร่างท้วม ได้กดปุ่มเซ็นทรัลล็อกประตูไว้ทั้ง 4 ด้าน ก่อนขับรถพาออกนอกเส้นทางไปตามถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี เมื่อสอบถามโชเฟอร์บอกเป็นเส้นทางลัด จากนั้นก็พาขับไปในทางเปลี่ยว คนร้ายใช้กำลังปลุกปล้ำและลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไป 2 ครั้ง หนำซ้ำยังใช้โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายกดถ่ายคลิปวิดีโอขณะข่มขืนเอาไว้ แล้วพามาส่งที่จุดเดิมบริเวณปากซอยลาดพร้าว 1 ในช่วงเช้าแล้วขับหลบหนีไป
โจรชั่วในคราบแท๊กซี่ คือ นายทองมี ค้อนจัตุรัส อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ 4 ถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยตำรวจกองปราบปราม จับกุมนายทองมี ได้ที่ ถนนสามัคคี ซอย 21 อ.ท่าทราย จ.นนทบุรี ขณะกำลังขับรถแท็กซี่สีชมพู-น้ำเงิน ทะเบียน ทน 1721 กทม.คันที่ใช้ก่อเหตุ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนยังบก.ป. จากการสอบปากคำผู้ต้องหาแท๊กซี่ให้การรับสารภาพว่า ก่อคดีลักษณะนี้มาหลายครั้งโดยเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2551 ได้ก่อเหตุข่มขืนที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างรอลงอาญา จากนั้นจึงออกมาขับรถแท็กซี่ ก่อนจะลงมือก่อเหตุกับ น.ส.บีเป็นเหยื่อรายล่าสุด จนกระทั่งถูกจับกุมตัว......ไปติดตามแสดงความคิดเห็นกับข่าวที่สร้างความหวาดกลัวกับผู้คนที่ต้องใช้บริการแท๊กซี่สัญจรกันว่า...ประชาชนส่วนใหญ่คิดกันอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น......
"คุกในประเทศไทย ไม่มีจะให้พวกนี้อยู่แล้ว ประหารชีวิตมันไปเหอะ"
"กฏหมายไทย ศาล อัยการ และตำรวจ อ่อนมาก ๆ ๆ ครับ"
"คดีแบบนี้ รอลงอาญา กฎหมายบ้านเรายังไงนิ"
"มันรับสารภาพว่าทำมาหลายครั้งแล้ว ยังจะรอลงอาญาหาพระแสงอะไรอีก ความผิดขนาดนี้ควรประหารชีวิตมันเลย กฏหมายเมืองไทยแสดงความศักดิ์สิทธิ์บ้างสักครั้ง(ถ้ามี)"
"ก่อเหตุข่มขืน แล้วได้รับรอลงอาญา...ถ้ารอบนี้ได้รับรอลงอาญาอีก รบกวนช่วยไปข่มขืนลูกสาวคนที่ให้รอลงอาญานะครับ โดนกับตัวเองจะได้สำนึกพวกข่มขืนต้องลงโทษหนักๆ ไม่ใช่ปล่อยออกมาทำร้ายคนบริสุทธิ์"
"รอลงอาญา = รอให้มันทำอีก ??? โอวววว กำของเมืองไทย"
"กม.มันเบาจนอยากทำอีก....กฏหมายล้าสมัย คนใช้กฏหมายหย่อน สังคมทราม นักสิทธิมนุษย์เสื่อม"
"ทำมาหลายครั้งแล้ว สมควร "ประหารชีวิต" ในที่สาธารณะ เหมือนที่ประเทศ เยเมน อยากเห็นกฏหมายไทยเอาจริงอย่างเยเมนบ้าง"
"ออกกฏหมายใหม่เถอะ......ประหารชีวิต เท่านั้น จึงจะสาสมจะเก็บมันเ อาไว้ทำบิดา ท่านหรือ(ผู้มีอำนาจ)"
00...คดีนี้ถือว่าตำรวจเอาใจใส่ต่อสารทุกข์สุขดิบประชาชน ให้ความใส่ใจแกะรอยตามจับจนได้ตัวแท๊กซี่หื่นกามมาได้ ขอปรบมือให้อย่างไม่รีรอ....อย่างนี้ซิถึงเรียกว่าไม่จับแพะ อย่างที่หลายฝ่ายปรามาสเอาไว้....แต่คนร้ายจะได้รับโทษหนักเบาแค่ไหนขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐานและดุลยพินิจของผู้ที่ดูแลควบคุมกฎหมาย หรือจะแค่รอลงอาญาดั่งเช่นการกระทำโฉดชั่วข่มขืนมั่วกามไม่เลือกลูกเค้าเมียใคร...ปลดเปลื้องความใคร่ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าอย่างย่ามใจเหมือนที่ผ่านมา...ถึงเวลากอบกู้ภาพลักษณ์ตำรวจไทย....ได้เวลาสลัดคำครหาจับแพะ และข้อครหาโจรในเครื่องแบบแล้วหรือยัง???
00...ทุกความคิดเห็นที่ได้แสดงผ่านเว็บ เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ หรือ WWW.MANAGER.CO.TH เราได้หยิบยกเพียงแค่บางพาดหัวข่าวที่น่าสนใจกับข้อความที่ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นโพสต์เข้ามาเท่านั้น ในเว็บดังกล่าวยังคงมีข่าวที่น่าติดตามกันอีกมาก ลองแวะเข้ามาเสิร์ตดูซิว่ามันน่าสนใจและน่าติดตามความเคลื่อนไหวต่อเหตุการณ์บ้านเมืองกันแค่ไหน???
พาดหัว “จงรัก” โชว์จับสาวคนสนิทฆ่าเผาอดีตรอง ผบช.ภ.7 รับลงมือคนเดียว มือสังหารโหดรายนี้ คือ นางสาวภรณ์ภัสสรณ์ หรือบ๋อม ศิริวงศ์ อายุ 24 ปี ตำรวจจับได้พร้อมของกลางมีดพับ 1 เล่ม สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท 1 เส้น, 5 บาท 1 เส้น และสร้อยคออีก 4 เส้น นาฬิกาข้อมือยี่ห้อโรเล็กซ์ฝังเพชร 1 เรือน พระสมเด็จฯ พร้อมตลับทอง 1 รายการ เหรียญสมเด็จโตพร้อมตลับทอง 1 องค์ แหวนเพชร 3 วง เงินสด 2 แสนบาท อื่น ๆ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ จ.เพชรบูรณ์....ประชาชนเข้ามาอ่านข่าวนี้ส่วนใหญ่เชื่อฝีมือการติดตามจับกุมคนร้ายของตำรวจแค่ไหน ไปติดตามแสดงความคิดเห็นห้อยท้ายข่าวกัน.....ว่า.....
"ลงมือคนเดียว โธ่! เอาอีกแล้วจงรัก"
"เป็นข้อพิสูจน์ที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนแล้วว่า แพะไม่ได้มีแต่ "ตัวผู้" ........."
"เจ้าของร้านทองโทร.ไปแจ้งไม่ใช่เหรอครับ ต้องเป็นฝีมือประชาชนสิ"
"ไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของผู้หญิงทำคนเดียวครับ คำให้การยังไม่มีน้ำหนักครับ"
"นายตำรวจหน้าขาวทำผลงานสะท้านเมือง...แล้วคดีของ สนธีอ่ะ ทำไมเงียบไปเลยทีคดีอย่างนี้กลับโชว์เทพ"
"ขยันจับแพะจับแกะอีกแย้วซวยเลยสาวคนนี้"
"ผู้หญิง อายุ 24 ทำงานร้านอาหาร เหรอ จะกล้าฆ่า กระหน่ำแทง ชิงทรัพย์ แถมเผาบ้านซ๊ำ อำพรางคดี นายพลตำรวจ ด้วยตัวคนเดียวล้วนๆใครอยากเชื่อก็เชื่อ แต่ผมไม่เชื่อ"
"เห็นชื่อนายตำรวจที่จับแล้วรู้สึกแปล่ง ๆ ไม่ค่อยเชื่อ....นี้.....ชอบจับแพะ ค่อนข้างเชื่อยาก"
00....คดีตายธรรมดา ตายพิสดารปริศนา ตายเพราะถูกฆาตกรรมอำพราง หรือคดีอื่น ๆ ดัง ๆ ใหญ่ ๆ ที่อุกฉกรรจ์ ไล่ลงมาจนถึงอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเล็ก ๆ ในแต่ละวัน ฝีมือตำรวจไทยยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะสร้างความเชื่อถือในฝีไม้ลายมือที่สามารถควบคุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีและเร่งคลี่คลายสางคดีได้ แม้ตามจับตัวคนร้ายในแต่ละคดีมาได้แล้ว แถมคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ถึงกระนั้นประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่าจับคนร้ายถูกคน...ไม่ใช่แพะ แกะ อย่างที่ชอบมองกัน ซึ่งตรงนี้อยากจะฝากผ่านไปยังท่าน "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" ผบ.ตร. ที่นั่งเฉย ๆ จริง ๆ เพื่อให้ถึงวันที่ 30 ก.ย. ครบเกษียณอายุราชการ คงไม่ทันการแล้วกระมัง คงต้องฝากท่าน ผบ.ตร.คนที่ 7 ที่จะขึ้นมาแทนที่ "พัชรวาท" ให้ทบทวนปรับปรุงศักยภาพในการปราบปราบปัญหาอาชญากรรมครองเมือง และให้เร่งกอบกู้ภาพลักษณ์การทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้น่าเชื่อถือกว่าที่เป็นอยู่จะเป็นพระคุณยิ่ง........
00...ทิ้งทวน....ก่อนอำลาตำแหน่งปลายกันยายนนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" ผบ.ตร. นั่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติผู้ได้รับการแต่งตั้งโยกย้าย หรือบอร์ดกลั่นกรอง และในช่วงบ่ายวันเดียวกัน "สุเทพ เทือกสุบรรณ" รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวาระการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย โดยมี ผบ.ตร. รองผบ.ตร. จตช.และคณะกรรรมการ ก.ตร. ร่วมพิจารณาด้วย.....ไปติดตามพาดหัว... แบ่งเค้กลงตัวโยก 100 กว่านายพลตำรวจ “เด็กแม้ว” ยังผงาด! ระดับบิ๊กตำรวจแบ่งเค้กลงตัว ส่งเด็ก สนง.ยึดเก้าอี้ใหญ่ โยก พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ตชด.เป็น ผบช.ภ.2 นั่ง ผบช.กำลังพล ดัน ตชด.คุมพื้นที่ มีผล 16 ส.คพร้อมส่งสัญญาณแต่งตั้งรองผบก.-ประทวน แฉ “สุชาติ เหมือนแก้ว” ขอกลับ บช.น.ไม่ได้ เหตุ “วรพงษ์” ขอ ผบ.ตร.ทำงานต่อ เผยแต่งตั้งครั้งนี้ อยู่นอกเหนือกฏ ก.ตร.เพราะเป็นการแต่งตั้งพิเศษเพื่อปรับโครงสร้าง ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นทักษิณ “พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์” ออกจากกรุเป็นรองสันติบาล “พล.ต.ต.วินัย ทองสอง” คว้ารอง ผบช.ก.ขณะที่ผู้การ 191 โยกคุมศูนย์สืบนครบาล ส่วน “ปรีชา ธิมามนตรี” ขยับใหญ่ขึ้นเป็น ผู้การศูนย์สืบ สตม. ไปติดตามความคิดเห็นกับข่าวระดับตัวใหญ่เปลี่ยนกันนั่งเก้าอี้ตามโควต้าโยกย้ายครั้งนี้ ว่า....
"ผิดหวังกับ พรรคประชาธิปัตย์ มาก และมากยิ่งขึ้น ครับ แค่ 6 เดือน ยังบริหารห่วยแตก แบบนี้ ขืนปล่อยให้อีก 3 เดือน 6 เดือน ยังนึกภาพไม่ออกว่า พี่น้องไทยจะจนลงอีกเพียงใด"
"ผมขอเสนอให้ตำรวจทุกนาย ต้องหมุนเวียนไปประจำ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คนละ 6 เดือน เริ่มจากสน.ทองหล่อ มักกะสัน หรือ สน.ที่่โดนกองปราบจับบ่อนได้ ก่อนเลย รับรองว่าตำรวจที่ไม่ดีจะลาออกไปเอง(เพราะตำรวจที่ไม่ดีเค้าจะกลัวตายครับ) แล้วให้ตำรวจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาปราบยาเสพติด ปราบโต๊ะบอล ปราบบ่อน จะดีกว่ามากๆ"
"อยากบอกว่า ตำรวจทุกวันนี้ทำหน้าที่ตามที่ถวายสัตย์ปฏิญาณไว้หรือไม่ คิดถึงประชาชนหรือไม่ ทำดีเพื่อพ่อแล้วหรือยังคะ"
"เอาตำรวจเลวออกไป เอาตำรวจห่วยมาแทน ทำได้แค่นี้เรอะ ผบ.ตร."
"อนาจ . . . . สืบทอดทายาทอสูร พร้อมกับสร้าง ตร.เลวรุ่นใหม่ ๆ ไม่ขาดสาย"
00...ขยันขันแข็ง ไม่หยุดนิ่ง จะเป็นการนำนโยบายแนวคิดเก่าของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาปัดฝุ่น กระตุ้นต่อมความกระตือรือล้น ในการทำงาน หรือจะพยายามมองให้เป็นแนวคิดใหม่ "พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา" ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังคงไม่มองข้ามลายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะให้บริการประชาชนประทับใจกับการทำงานของตำรวจอย่างสม่ำเสมอ ล่าสุด นครบาลเปิด ONE STOP SERVICE เพิ่มความฉับไวบริการประชาชน โดยท่าน "วรพงษ์" เดินทางไปเปิด ONE STOP SERVICE ณ สน.พลับพลาไชย 1 ด้วยตนเอง ซึ่งจะบริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการแก่ประชาชน นอกจากนี้ท่าน "วรพงษ์" ยังเน้นสร้างสะอาดพื้นที่โดยรอบจุดบริการ สร้างความเจริญหูเจริญตาแก่ประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการมากขึ้น และฝันว่าการบริการจะครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่รับแจ้งความ เปรียบเทียบปรับ ให้คำปรึกษาข้อกฎหมาย ประกันตัวผู้ต้องหา ถอนประกัน แจ้งเอกสารหาย ตลอดจนการขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง เพื่อกิจการต่างๆ เช่น เล่นงิ้ว.........ลองไปติดตามความรู้สึกของประชาชนกับเรื่องนี้ดูว่า .....
"one stop service นี่มันเก่ามากแล้วนะ ประเทศอื่นๆในโลกนี้เขาก็เลิกไปหมดแล้ว เอามาทำทำไม เอาแค่ให้บริการเดิมไห้มีคุณภาพ ทำกฏหมายให้เป็นกฏหมาย ก็พอแล้ว"
"แจ้งความขอปลด ผบ.ตร. ได้ที่นี่เลยหรือเปล่าฮับ"
"ไถครบวงจรว่างั้นนนน เถอะ"
"ควรเปลี่ยนชื่อองค์กรใหม่ คำว่าตำรวจ มันเสื่อมไปจากสังคมไทยแล้ว ไม่มีใครเขาอยากเรียกกัน ควรเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ เปลี่ยนบุคลากรใหม่ และเปลี่ยนชื่อใหม่ คนเก่าโละทิ้ง รีไทร์ออก ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ทัศนคติเดิมๆ"
"ตั้งด่าน แจ้งข้อกล่าวหา ขู่ จำคุก จ่ายเงิน ปล่อย ณ.จุด one step service"
"one stop ยัดข้อหา รีด ปรับ ซ้อม ติดคุก ที่เดียวพร้อม"
"มาทำ วันสต๊อป ที่ สน.คลองตันบ้างยาบ้า เอกมัย 30 ซื้อ-ขายรับ-ส่ง ตร.คุ้มครองเองซื้อยา-ส่งยา ที่ เซเว่น ฯ ได้ทั้งวันกลางคืน มอเตอร์ไซค์, สามล้อ,แท๊กซี่, รถเก๋ง วิ่งวนซอย ทั้งคืน"
00...เพราะเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานหรือไม่ กับความที่ไม่ย้ำอยู่กับที่คอยกระทุ้งให้ตำรวจตื่นตัวทำงานบริการประชาชนตลอดเวลา ขอปรบมือให้ "พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา" อีกครั้ง แม้จะมีเสียงแว่ว ๆ กระแนะ กระแน ว่าการสร้างผลงานผักชีโรยหน้าทำเพราะกลัวตำแหน่งหลุด เหตุ "พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว" เจ้าเก่าวิ่งสุดฝีตีนขอกลับนครบาล แต่กินแห้วไปแล้ว หรือเป็นเพราะใกล้ช่วงฤดูโยกย้ายจำเป็นต้องหมั่นปั่นผลงานช่วงโปรโมชั่นสุดท้ายก็ตาม...แต่เราเชื่อมือท่านนะ "วรพงษ์".......
00...จับได้แล้ว! คนเลวในคราบโจรแท๊กซี่...ที่ขับรถหลอกพาไกด์สาว ลูกสาว "พันโท" ไปข่มขืนถ่ายคลิปไว้ข่มขู่ โดยไกด์สาวแจ้งความกับตำรวจสน.พหลโยธิน ช่วยตามไล่ล่าแท็กซี่หื่นกามล่อลวงขืนใจชิงทรัพย์ ผู้เสียหายรายนี้ คือ น.ส.บี(นามสมมติ) อดีตนักศึกษาคณะการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสามเสน ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นไกด์ทัวร์ เป็นลูกสาวนายทหารบกยศ พันโท สังกัดหน่วยรบพิเศษ ใน จ.สระบุรี
สาวเจ้าเล่าว่า เวลาประมาณ 22.00 น. ได้โบกรถแท็กซี่สีชมพูคาดน้ำเงิน ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่นจากลาดพร้าวซอย 1 ให้ไปส่งที่บ้านพักในซอยพัฒนาการ 38 โดยคนร้ายในคราบโชเฟอร์เป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ใบหน้ารูปไข่ ไว้ผมยาว ผิวคล้ำ รูปร่างท้วม ได้กดปุ่มเซ็นทรัลล็อกประตูไว้ทั้ง 4 ด้าน ก่อนขับรถพาออกนอกเส้นทางไปตามถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี เมื่อสอบถามโชเฟอร์บอกเป็นเส้นทางลัด จากนั้นก็พาขับไปในทางเปลี่ยว คนร้ายใช้กำลังปลุกปล้ำและลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไป 2 ครั้ง หนำซ้ำยังใช้โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายกดถ่ายคลิปวิดีโอขณะข่มขืนเอาไว้ แล้วพามาส่งที่จุดเดิมบริเวณปากซอยลาดพร้าว 1 ในช่วงเช้าแล้วขับหลบหนีไป
โจรชั่วในคราบแท๊กซี่ คือ นายทองมี ค้อนจัตุรัส อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ 4 ถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยตำรวจกองปราบปราม จับกุมนายทองมี ได้ที่ ถนนสามัคคี ซอย 21 อ.ท่าทราย จ.นนทบุรี ขณะกำลังขับรถแท็กซี่สีชมพู-น้ำเงิน ทะเบียน ทน 1721 กทม.คันที่ใช้ก่อเหตุ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนยังบก.ป. จากการสอบปากคำผู้ต้องหาแท๊กซี่ให้การรับสารภาพว่า ก่อคดีลักษณะนี้มาหลายครั้งโดยเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2551 ได้ก่อเหตุข่มขืนที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างรอลงอาญา จากนั้นจึงออกมาขับรถแท็กซี่ ก่อนจะลงมือก่อเหตุกับ น.ส.บีเป็นเหยื่อรายล่าสุด จนกระทั่งถูกจับกุมตัว......ไปติดตามแสดงความคิดเห็นกับข่าวที่สร้างความหวาดกลัวกับผู้คนที่ต้องใช้บริการแท๊กซี่สัญจรกันว่า...ประชาชนส่วนใหญ่คิดกันอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น......
"คุกในประเทศไทย ไม่มีจะให้พวกนี้อยู่แล้ว ประหารชีวิตมันไปเหอะ"
"กฏหมายไทย ศาล อัยการ และตำรวจ อ่อนมาก ๆ ๆ ครับ"
"คดีแบบนี้ รอลงอาญา กฎหมายบ้านเรายังไงนิ"
"มันรับสารภาพว่าทำมาหลายครั้งแล้ว ยังจะรอลงอาญาหาพระแสงอะไรอีก ความผิดขนาดนี้ควรประหารชีวิตมันเลย กฏหมายเมืองไทยแสดงความศักดิ์สิทธิ์บ้างสักครั้ง(ถ้ามี)"
"ก่อเหตุข่มขืน แล้วได้รับรอลงอาญา...ถ้ารอบนี้ได้รับรอลงอาญาอีก รบกวนช่วยไปข่มขืนลูกสาวคนที่ให้รอลงอาญานะครับ โดนกับตัวเองจะได้สำนึกพวกข่มขืนต้องลงโทษหนักๆ ไม่ใช่ปล่อยออกมาทำร้ายคนบริสุทธิ์"
"รอลงอาญา = รอให้มันทำอีก ??? โอวววว กำของเมืองไทย"
"กม.มันเบาจนอยากทำอีก....กฏหมายล้าสมัย คนใช้กฏหมายหย่อน สังคมทราม นักสิทธิมนุษย์เสื่อม"
"ทำมาหลายครั้งแล้ว สมควร "ประหารชีวิต" ในที่สาธารณะ เหมือนที่ประเทศ เยเมน อยากเห็นกฏหมายไทยเอาจริงอย่างเยเมนบ้าง"
"ออกกฏหมายใหม่เถอะ......ประหารชีวิต เท่านั้น จึงจะสาสมจะเก็บมันเ อาไว้ทำบิดา ท่านหรือ(ผู้มีอำนาจ)"
00...คดีนี้ถือว่าตำรวจเอาใจใส่ต่อสารทุกข์สุขดิบประชาชน ให้ความใส่ใจแกะรอยตามจับจนได้ตัวแท๊กซี่หื่นกามมาได้ ขอปรบมือให้อย่างไม่รีรอ....อย่างนี้ซิถึงเรียกว่าไม่จับแพะ อย่างที่หลายฝ่ายปรามาสเอาไว้....แต่คนร้ายจะได้รับโทษหนักเบาแค่ไหนขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐานและดุลยพินิจของผู้ที่ดูแลควบคุมกฎหมาย หรือจะแค่รอลงอาญาดั่งเช่นการกระทำโฉดชั่วข่มขืนมั่วกามไม่เลือกลูกเค้าเมียใคร...ปลดเปลื้องความใคร่ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าอย่างย่ามใจเหมือนที่ผ่านมา...ถึงเวลากอบกู้ภาพลักษณ์ตำรวจไทย....ได้เวลาสลัดคำครหาจับแพะ และข้อครหาโจรในเครื่องแบบแล้วหรือยัง???
00...ทุกความคิดเห็นที่ได้แสดงผ่านเว็บ เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ หรือ WWW.MANAGER.CO.TH เราได้หยิบยกเพียงแค่บางพาดหัวข่าวที่น่าสนใจกับข้อความที่ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นโพสต์เข้ามาเท่านั้น ในเว็บดังกล่าวยังคงมีข่าวที่น่าติดตามกันอีกมาก ลองแวะเข้ามาเสิร์ตดูซิว่ามันน่าสนใจและน่าติดตามความเคลื่อนไหวต่อเหตุการณ์บ้านเมืองกันแค่ไหน???