00 เห็นวิธีคิดวิธีการสร้างผลงานของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วชวนสมเพชเวทนา มานั่งนึกว่า ทำไมเราโชคร้ายถึงได้มีรัฐมนตรีประเภทนี้มาบริหารบ้านเมือง ไม่นึกว่าจะเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ กล้าทำผิดกฎหมาย ย่ำยีหัวใจคนไทยได้ถึงขนาดนั้น ยังคิดว่าคนไทยยังโง่ไปเสียทั้งหมด คิดว่าทำอะไรชั่วๆ เอาไว้แล้วกลบเกลื่อน ตบตาได้ไปเสียทั้งหมด
00 สมเพชเวทนายิ่งขึ้นไปอีก เมื่อได้ยินคำพูดของ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่อ้างว่า เวลานี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังถูกบ่อนทำลายจากฝ่ายตรงข้าม อ้างว่ามี “ แผน 9 ขั้น ” อะไรนั่น พูดเป็นตุเป็นตะ ว่าทำเป็นขบวนการ เป็นขั้นเป็นตอน แม้ว่าไม่อยากเถียงว่าขบวนการที่ว่านั้นมีจริงหรือไม่ก็ตาม แต่ความหมายก็คือ ต้องถามว่าที่ผ่านมารัฐบาล ตัวนายกฯยิ่งลักษณ์ และบรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย ได้ทำงานได้คุ้มค่ากับความไว้วางใจของประชาชน มีภาวะผู้นำสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ชาวบ้านแค่ไหน ถ้ามี ต่อให้แผน 10 ขั้น แผน 20 ขั้น ก็ไม่มีความหมาย รัฐบาลจะมีความมั่นคง แข็งแกร่งแน่นอน
00 แต่นี่มันตรงกันข้าม มีแต่เรื่อง “ห่วยแตก-เอาเปรียบ-ย่ำยีก.ม.-ทุจริต” ตลอดเวลาที่เข้ามาบริหารบ้านเมือง กุมอำนาจรัฐ แล้วอย่างนี้มีใครวางแผนทำลาย มีแต่ทำลายตัวเองทั้งสิ้น ถามว่า การบริหารจัดการน้ำท่วม ทั้งการรับมือป้องกัน และบรรเทาความเสียหายทั้งก่อนและหลังน้ำลด สร้างความประทับใจอะไรได้บ้าง ที่สัญญาว่าน้ำจะแห้งสนิททุกพื้นที่ วันนี้ทำได้ตามที่โม้หรือยัง เรื่องข้าวยากหมากแพง แก้ไขให้เห็นแล้วยัง มีเรื่องอะไรบ้างที่ทำเพื่อประชาชน แม้แต่คนเสื้อแดงปลายแถว ได้ไปช่วยเหลือทั่วถึงแค่ไหน
00 ตลอดเวลามีแต่เรื่องส่วนตัว ทำทุกทางเพื่อช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแอบสอดไส้ขอพระราชทานอภัยโทษ คืนพาสปอร์ต แอบอ้างชื่ออมของบริจาค แต่งตั้งข้าราชการที่เป็นญาติสนิทของตัวเอง นั่งตำแหน่งสำคัญ เว็บหมิ่นฯ พวกจาบจ้วงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ย่ำยีหัวใจคนไทย ย่ำยีระบบศาลยุติธรรมไม่จบสิ้น ที่สำคัญหากย้อนกลับไปมีการแต่งตั้ง รมต.ห่วยแตก มีแต่คนด้อยสติปัญญาตั้งแต่ นายกฯยิ่งลักษณ์ลงมา ล้วนแล้วแต่สร้างความรวดร้าวใจทั้งสิ้น แบบนี้หรือที่เรียกว่าฝ่ายตรงข้ามจ้องล้ม... ทุด !!
00 ถามว่าคนทั่วไปรู้สึกอย่างไรกับการทำหน้าที่รมต.ของ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หรือ พิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นต้น คิดว่าคนเหล่านี้ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง หรือทำงานเพื่อสนองความต้องการของทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น ที่ผ่านมามีแววพอมีความหวังมากน้อยแค่ไหน และถ้าพูดให้ตรงเข้าไปอีกก็คือ คนพวกนี้แหละที่เป็นสาเหตุทำให้รัฐบาลล้มครืนในวันหน้า
00 ข่าวสภาอุตฯ เตรียมหาช่องฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้ระงับการบังคับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ที่จะนำร่องใน 7 จังหวัดในวันที่ 1 เมษายน ปีหน้า ถือเป็นสิ่งสะท้อนถึงปัญหาของนโยบายประชานิยมของรัฐบาล และงานนี้ทำท่าจะเป็น “เรื่องยาว” เสียด้วย เพราะเหมือนกับว่า เป็นการบังคับเอกชนที่อ่วมอยู่แล้วให้เข้าขั้นวิกฤติหนักลงไปอีก แม้อีกด้านหนึ่ง ในฐานะหัวอกลูกจ้างด้วยกันอยากได้ค่าแรงสูง แต่นาทีนี้ลองไปถามใครก็ต้องบอกว่า แค่มีงานทำก็บุญโขแล้ว !!
00 สมเพชเวทนายิ่งขึ้นไปอีก เมื่อได้ยินคำพูดของ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่อ้างว่า เวลานี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังถูกบ่อนทำลายจากฝ่ายตรงข้าม อ้างว่ามี “ แผน 9 ขั้น ” อะไรนั่น พูดเป็นตุเป็นตะ ว่าทำเป็นขบวนการ เป็นขั้นเป็นตอน แม้ว่าไม่อยากเถียงว่าขบวนการที่ว่านั้นมีจริงหรือไม่ก็ตาม แต่ความหมายก็คือ ต้องถามว่าที่ผ่านมารัฐบาล ตัวนายกฯยิ่งลักษณ์ และบรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย ได้ทำงานได้คุ้มค่ากับความไว้วางใจของประชาชน มีภาวะผู้นำสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ชาวบ้านแค่ไหน ถ้ามี ต่อให้แผน 10 ขั้น แผน 20 ขั้น ก็ไม่มีความหมาย รัฐบาลจะมีความมั่นคง แข็งแกร่งแน่นอน
00 แต่นี่มันตรงกันข้าม มีแต่เรื่อง “ห่วยแตก-เอาเปรียบ-ย่ำยีก.ม.-ทุจริต” ตลอดเวลาที่เข้ามาบริหารบ้านเมือง กุมอำนาจรัฐ แล้วอย่างนี้มีใครวางแผนทำลาย มีแต่ทำลายตัวเองทั้งสิ้น ถามว่า การบริหารจัดการน้ำท่วม ทั้งการรับมือป้องกัน และบรรเทาความเสียหายทั้งก่อนและหลังน้ำลด สร้างความประทับใจอะไรได้บ้าง ที่สัญญาว่าน้ำจะแห้งสนิททุกพื้นที่ วันนี้ทำได้ตามที่โม้หรือยัง เรื่องข้าวยากหมากแพง แก้ไขให้เห็นแล้วยัง มีเรื่องอะไรบ้างที่ทำเพื่อประชาชน แม้แต่คนเสื้อแดงปลายแถว ได้ไปช่วยเหลือทั่วถึงแค่ไหน
00 ตลอดเวลามีแต่เรื่องส่วนตัว ทำทุกทางเพื่อช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแอบสอดไส้ขอพระราชทานอภัยโทษ คืนพาสปอร์ต แอบอ้างชื่ออมของบริจาค แต่งตั้งข้าราชการที่เป็นญาติสนิทของตัวเอง นั่งตำแหน่งสำคัญ เว็บหมิ่นฯ พวกจาบจ้วงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ย่ำยีหัวใจคนไทย ย่ำยีระบบศาลยุติธรรมไม่จบสิ้น ที่สำคัญหากย้อนกลับไปมีการแต่งตั้ง รมต.ห่วยแตก มีแต่คนด้อยสติปัญญาตั้งแต่ นายกฯยิ่งลักษณ์ลงมา ล้วนแล้วแต่สร้างความรวดร้าวใจทั้งสิ้น แบบนี้หรือที่เรียกว่าฝ่ายตรงข้ามจ้องล้ม... ทุด !!
00 ถามว่าคนทั่วไปรู้สึกอย่างไรกับการทำหน้าที่รมต.ของ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หรือ พิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นต้น คิดว่าคนเหล่านี้ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง หรือทำงานเพื่อสนองความต้องการของทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น ที่ผ่านมามีแววพอมีความหวังมากน้อยแค่ไหน และถ้าพูดให้ตรงเข้าไปอีกก็คือ คนพวกนี้แหละที่เป็นสาเหตุทำให้รัฐบาลล้มครืนในวันหน้า
00 ข่าวสภาอุตฯ เตรียมหาช่องฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้ระงับการบังคับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ที่จะนำร่องใน 7 จังหวัดในวันที่ 1 เมษายน ปีหน้า ถือเป็นสิ่งสะท้อนถึงปัญหาของนโยบายประชานิยมของรัฐบาล และงานนี้ทำท่าจะเป็น “เรื่องยาว” เสียด้วย เพราะเหมือนกับว่า เป็นการบังคับเอกชนที่อ่วมอยู่แล้วให้เข้าขั้นวิกฤติหนักลงไปอีก แม้อีกด้านหนึ่ง ในฐานะหัวอกลูกจ้างด้วยกันอยากได้ค่าแรงสูง แต่นาทีนี้ลองไปถามใครก็ต้องบอกว่า แค่มีงานทำก็บุญโขแล้ว !!