ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วละครับ สำหรับการล้างแค้นของฝ่ายรัฐบาล
เมื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก โดนอภิปรายถอดถอนในสภา
พรรคเพื่อไทยก็ออกมาแฉบ้างว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีพฤติกรรมแจกถุงยังชีพโดยเบียดบังของราชการ โดยมี ส.ส.ปชป. อีกท่านหนึ่งคือ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ไปบีบ ผวจ.พิษณุโลกเอาถุงยังชีพครับ
บีบมาเพื่อเอามาบริจาคแล้วแจกประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมนี่แหละครับ
เรื่องมันมีที่มาจากกระทรวงพลังงาน เพราะถุงยังชีพมันเป็นของกระทรวงพลังงาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้คือ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นำเรื่องนี้มาอภิปรายตอบโต้ในสภาเป็นการปูด และถูกปชป.กล่าวหาว่า ตนไปพูดว่าไปกดดัน ผวจ.พิษณุโลกว่า โดนกดดันว่าให้พรรค ปชป. ให้นำถุงยังชีพของกระทรวงพลังงานไปให้นายอภิสิทธิ์ผู้นำฝ่ายค้านไปแจกชาวบ้านที่โดนน้ำท่วม
ครับเรื่องนี้ รมว.พลังงาน ก็บอกว่าตนเป็นคนพูดเรื่องจริงมาตลอด เวลาพูดอะไรไปมันก็ต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่ไม่มีมายืนยันและต้องชัดเจนด้วย
จริงๆ แล้วตนยังอยากให้ศาลมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงด้วยซ้ำไป
และเรื่องนี้ตนดำเนินไปไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัว
แต่เป็นเรื่องของหลักการ
เพราะการที่ตนจะไปกล่าวหาว่าคนโน้นคนนี้มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
และเรื่องนี้ก็มีการพูดกันในคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีการซักถามถึงแหล่งที่มา
นายพิชัย รมว.พลังงาน ก็กล่าวว่ามันมีเอกสารรองรับ
เป็นเอกสารจากกระทรวงมหาดไทยครับ และหลักฐานก็ชัดเจน
อีกทั้งทางผู้ว่าราชการจังหวัดก็เคยเล่าให้คนอื่นฟังว่า ตนถูกบังคับและว่า ปชป.โทรมาขอถุงยังชีพของทางกระทรวง ตนบอกว่าไม่มี แต่พรรคปชป.บอกว่ามีและให้ตนมาเอาที่กระทรวง
และ นพ.วรงค์ ก็มาระบุว่าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงานบอกว่าส.ส.สามารถขอความช่วยเหลือจากกระทรวงได้ซึ่งก็หมายความว่าขอถุงยังชีพไปแจกประชาชนได้ แต่รมว.พลังงาน ก็โต้ว่าในรายงานของตนไม่มีรายงานเรื่องนี้
เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ได้เกี่ยวกับผู้ตรวจฯ กระทรวง ที่ชัดเจนก็คือมีการบอกว่าทำไมนายอภิสิทธิ์ผู้นำฝ่ายค้านจึงเอาถุงยังชีพของกระทรวงพลังงานไปแจกชาวบ้านได้
ตนจึงให้ปลัดกระทรวงพลังงานไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง
สอบสวนก็ได้เรื่องว่า เป็นเรื่องของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตนก็แจ้งไปว่าให้ผู้ว่าฯ ชี้แจงเรื่องนี้
ผู้ว่าก็ชี้แจงว่าเรื่องนี้ตนถูกบังคับและอึดอัดใจ
และความจริงตนไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นไปอภิปรายในสภาในเรื่องนี้เลย
แต่พล.ต.อ.ประชา รมว.ยุติธรรม และนายอภิสิทธิ์ได้พูดพาดพิงถึงตน ตนก็ต้องพูดบ้าง
และเมื่อมีเอกสารชัดเจนอยู่แล้ว คนที่ตายทางการเมืองอย่าง นพ.วรงค์ก็อย่าดิ้นรนเลย เสียเวลาเปล่าๆ
.............นี่แหละครับ เรื่องที่โต้แย้งกันเกี่ยวกับถุงยังชีพ ที่หัวหน้าฝ่ายค้านเอาไปแจกในคราวน้ำท่วมที่พิษณุโลก
มันเกิดมาจากการอภิปรายถอดถอน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
พรรคเพื่อไทยก็ถือว่าจะเอาเรื่องนี้มาถอดถอนนายอภิสิทธิ์ และนพ.วรงค์บ้าง
เป็นการแก้แค้นกันทางการเมือง
ว่าไปแล้วเรื่องนี้ก็เป็นการเปิดเผยให้เห็นธาตุแท้ของนักการเมืองทั้งสองฝ่าย
ว่าลงท้ายแล้วต่างก็หาประโยชน์จากประชาชนด้วยกันทั้งนั้น
การเมืองไทย เป็นการเมืองที่เล่นกันนอกกติกากันมานาน
และแต่ละฝ่ายก็ใช้ประชาชนเป็นเบี้ยเป็นหมากในการเดินเกมด้วยกันทั้งนั้น
แม้กระทั่งในยามวิกฤติน้ำท่วมก็ไม่เว้น
นักการเมืองจึงเป็นพวกนักฉวยโอกาส ฉวยโอกาสจากความทุกข์มาหาเสียงมาโจมตีเอาชนะกันอย่างผิดกาลเทศะ
นับว่าเป็นเรื่องอนาถใจ และน่าจะถึงคราวที่เราต้องเรียกหาจริยธรรมทางการเมืองได้แล้วครับ
เมื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก โดนอภิปรายถอดถอนในสภา
พรรคเพื่อไทยก็ออกมาแฉบ้างว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีพฤติกรรมแจกถุงยังชีพโดยเบียดบังของราชการ โดยมี ส.ส.ปชป. อีกท่านหนึ่งคือ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ไปบีบ ผวจ.พิษณุโลกเอาถุงยังชีพครับ
บีบมาเพื่อเอามาบริจาคแล้วแจกประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมนี่แหละครับ
เรื่องมันมีที่มาจากกระทรวงพลังงาน เพราะถุงยังชีพมันเป็นของกระทรวงพลังงาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้คือ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นำเรื่องนี้มาอภิปรายตอบโต้ในสภาเป็นการปูด และถูกปชป.กล่าวหาว่า ตนไปพูดว่าไปกดดัน ผวจ.พิษณุโลกว่า โดนกดดันว่าให้พรรค ปชป. ให้นำถุงยังชีพของกระทรวงพลังงานไปให้นายอภิสิทธิ์ผู้นำฝ่ายค้านไปแจกชาวบ้านที่โดนน้ำท่วม
ครับเรื่องนี้ รมว.พลังงาน ก็บอกว่าตนเป็นคนพูดเรื่องจริงมาตลอด เวลาพูดอะไรไปมันก็ต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่ไม่มีมายืนยันและต้องชัดเจนด้วย
จริงๆ แล้วตนยังอยากให้ศาลมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงด้วยซ้ำไป
และเรื่องนี้ตนดำเนินไปไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัว
แต่เป็นเรื่องของหลักการ
เพราะการที่ตนจะไปกล่าวหาว่าคนโน้นคนนี้มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
และเรื่องนี้ก็มีการพูดกันในคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีการซักถามถึงแหล่งที่มา
นายพิชัย รมว.พลังงาน ก็กล่าวว่ามันมีเอกสารรองรับ
เป็นเอกสารจากกระทรวงมหาดไทยครับ และหลักฐานก็ชัดเจน
อีกทั้งทางผู้ว่าราชการจังหวัดก็เคยเล่าให้คนอื่นฟังว่า ตนถูกบังคับและว่า ปชป.โทรมาขอถุงยังชีพของทางกระทรวง ตนบอกว่าไม่มี แต่พรรคปชป.บอกว่ามีและให้ตนมาเอาที่กระทรวง
และ นพ.วรงค์ ก็มาระบุว่าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงานบอกว่าส.ส.สามารถขอความช่วยเหลือจากกระทรวงได้ซึ่งก็หมายความว่าขอถุงยังชีพไปแจกประชาชนได้ แต่รมว.พลังงาน ก็โต้ว่าในรายงานของตนไม่มีรายงานเรื่องนี้
เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ได้เกี่ยวกับผู้ตรวจฯ กระทรวง ที่ชัดเจนก็คือมีการบอกว่าทำไมนายอภิสิทธิ์ผู้นำฝ่ายค้านจึงเอาถุงยังชีพของกระทรวงพลังงานไปแจกชาวบ้านได้
ตนจึงให้ปลัดกระทรวงพลังงานไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง
สอบสวนก็ได้เรื่องว่า เป็นเรื่องของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตนก็แจ้งไปว่าให้ผู้ว่าฯ ชี้แจงเรื่องนี้
ผู้ว่าก็ชี้แจงว่าเรื่องนี้ตนถูกบังคับและอึดอัดใจ
และความจริงตนไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นไปอภิปรายในสภาในเรื่องนี้เลย
แต่พล.ต.อ.ประชา รมว.ยุติธรรม และนายอภิสิทธิ์ได้พูดพาดพิงถึงตน ตนก็ต้องพูดบ้าง
และเมื่อมีเอกสารชัดเจนอยู่แล้ว คนที่ตายทางการเมืองอย่าง นพ.วรงค์ก็อย่าดิ้นรนเลย เสียเวลาเปล่าๆ
.............นี่แหละครับ เรื่องที่โต้แย้งกันเกี่ยวกับถุงยังชีพ ที่หัวหน้าฝ่ายค้านเอาไปแจกในคราวน้ำท่วมที่พิษณุโลก
มันเกิดมาจากการอภิปรายถอดถอน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
พรรคเพื่อไทยก็ถือว่าจะเอาเรื่องนี้มาถอดถอนนายอภิสิทธิ์ และนพ.วรงค์บ้าง
เป็นการแก้แค้นกันทางการเมือง
ว่าไปแล้วเรื่องนี้ก็เป็นการเปิดเผยให้เห็นธาตุแท้ของนักการเมืองทั้งสองฝ่าย
ว่าลงท้ายแล้วต่างก็หาประโยชน์จากประชาชนด้วยกันทั้งนั้น
การเมืองไทย เป็นการเมืองที่เล่นกันนอกกติกากันมานาน
และแต่ละฝ่ายก็ใช้ประชาชนเป็นเบี้ยเป็นหมากในการเดินเกมด้วยกันทั้งนั้น
แม้กระทั่งในยามวิกฤติน้ำท่วมก็ไม่เว้น
นักการเมืองจึงเป็นพวกนักฉวยโอกาส ฉวยโอกาสจากความทุกข์มาหาเสียงมาโจมตีเอาชนะกันอย่างผิดกาลเทศะ
นับว่าเป็นเรื่องอนาถใจ และน่าจะถึงคราวที่เราต้องเรียกหาจริยธรรมทางการเมืองได้แล้วครับ