เหลืออีกไม่กี่วันจะสิ้นปี คำถามที่ชาวบ้านอยากรู้คำตอบคือ “อะไร” จะเกิดขึ้นในปี 2555 หลังจากสิ่งบอกเหตุและสถานการณ์การเมืองชี้ให้เห็นว่าจะเกิดปัญหาความขัดแย้ง ส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงสภาวะเศรษฐกิจ สังคม
จะนำไปสู่วิกฤตความมั่นคงของชาติ สถาบันหลัก ซึ่งเป็นเป้าหมายของการทำลายโดยขบวนการการเมือง ภายใต้ “แผนล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า” หรือไม่
ทั้งเรื่องความพยายามของกลุ่มก๊วนต่างๆ ในพรรคเพื่อเหลี่ยมร้าย แดงอำมาตย์ แดงไพร่ แดงซ้ายหลงยุค แดงสู้แล้วรวย ในขบวนการตีกิน ล้วนแต่มุ่งเอาประโยชน์ส่วนตัว เฉพาะกลุ่ม มีจุดศูนย์รวมคุมโดยเหลี่ยมร้ายเร่ร่อน
โดยพฤติกรรมต่างๆ ขบวนการเหล่านี้ดำเนินการทั้งแยก และร่วมกันเดินหน้าตามแผนช่วยเหลือเหลี่ยมร้ายอย่างผยองลำพองอำนาจ ไม่แยแสต่อความรู้สึกของประชาชน ย่ำยีกฎหมาย และกลไกของความเป็นนิติรัฐ
การออกหนังสือเดินทางแบบธรรมดาให้เหลี่ยมร้ายโดยฝีมือของ “ปึ๋ง โม่แป้ง” ใช้เหตุผลแบบข้างๆ คูๆ เอาสีข้างเข้าถู เสี่ยงต่อการละเมิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้ง ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ก็ยังทำ คงมองว่าคุ้ม ได้เป็นถึงรัฐมนตรี
โดยปกติ เดินข้างถนน หมู หมา กา ไก่ไม่ชำเลืองมอง เมื่อนายทาสแต่งตั้งให้เป็นผีโม่แป้ง ทำงานเข้าตา ย่อมมีอำนาจ วาสนา เงินตรา ลาภ ยศ ไม่สนใจว่าชาวบ้านจะดูหมิ่น เหยียบหยามว่า เป็นคนละเมิดกฎหมาย
ไร้เกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำลายอำนาจศาล!
ยุคนี้เราเห็นข้าราชการแบ่งเป็นประเภทผีโม่แป้ง ก้มหัวยอมกราบกราน รับใช้เครือข่ายเหลี่ยมร้าย ทุ่มเททั้งกายใจ ไม่สนใจกฎหมาย ศีลธรรม คุณธรรม ตราบใดที่ได้รับผลตอบแทนในตำแหน่งงาน และรายได้
เสียงแช่งด่าของประชาชนถูกมองว่าเป็นปัจจัยเสริมความหน้าด้าน!
อีกพวกยอมหลบ สยบไม่มีปากเสียง ขอให้เอาตัวรอด ไม่โดนรังควาญ ไม่ห่วงผลกระทบต่อชาติ ความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ความสงบในบ้านเมือง
ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศส่วนหนึ่งต้องอยู่กับความอัปยศอดสู ไม่กล้าสู้กับความไม่ถูกต้อง เมื่อเป็นตัวอย่างไม่ดี หน่วยงานอื่นก็เอาเยี่ยง สังคมข้าราชการอยู่ในสภาพการแข่งขันเพื่อรับใช้คนชั่วให้ได้ดี
“ปึ๋ง โม่แป้ง” เป็นตัวอย่างของการไม่เห็นกลไกกฎหมาย ระเบียบอยู่ในสายตา อยู่ในอีหรอบเดียวกับเหลี่ยมร้าย ซึ่งมองว่ากฎหมายผิด ตัวเองถูกต้อง
วิกฤตจากความพยายามแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 112 กรณีหมิ่นสถาบัน แก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม การนิรโทษกรรม เป็นจุดเปราะบางสำหรับชนวนเหตุร้าย ทั้งความเคลื่อนไหวตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดง การหมิ่นสถาบัน
กว่า 4 เดือนที่รัฐบาลนารีหน้าขาว ตัวแทนหุ่นเชิดเหลี่ยมร้ายกุมอำนาจบ้านเมือง ไม่มีอะไรดีขึ้น วิกฤตอภิมหาอุทกภัยสร้างความเสียหายยังประเมินไม่ได้ นอกจากยังไม่แก้ปัญหาสำเร็จ ยังมีภัยแล้ง ภัยหนาว ภัยมรสุมในภาคใต้
ขอเพียงแค่อยู่รอด เผชิญปัญหาต่างๆ แต่ละวัน ไม่โดนด่า ก็บุญแล้ว!
เงื่อนไขกำหนดโดยเหลี่ยมร้ายเป็นตัวเร่งการเกิดวิกฤตการเมือง การเผชิญหน้ารอบใหม่ เมื่อตัวเองดิ้นรนต้องการอิสรภาพ แต่อยู่ในภาวะจำยอม ทำให้ต้องหาทางพ้นโทษโดยเร็ว แม้โอกาสจะกลับมาบ้านเกิดไม่ง่ายนัก
ตารางวางไว้โดยเหลี่ยมร้ายคือแผนจะกลับประเทศไทยเดือนมีนาคม หลังจากการปรับคณะรัฐมนตรี หลังจากหลายคนสอบตก ไร้ปัญญา ฝีมือ
มีตัวฉุด เติมความเสื่อมให้นารีหน้าขาว ตัวเองอยู่ไปแต่ละวันโดยหางานแบบอีเวนท์ เปิดกิจกรรมสังคมโดยไม่ต้องใช้สติปัญญา เน้นการตบตา แหกตาตีกินคะแนนความนิยมในสังคมบ้องตื้นให้ดูว่ามีความรู้ ความสามารถ
โพลต่างๆ ไร้ความน่าเชื่อถือ เป็นตัวเสริม ฟื้นสร้างภาพลักษณ์!
ต้องดูว่าการปรับ ครม.กลางเดือนมกราคม จะมีคนดี มีฝีมือเข้าร่วมหรือไม่ เพราะคนเก่ง เคารพตัวเอง ย่อมไม่ต้องการเกลือกกลั้วกับอัปมงคล
แผนเหลี่ยมร้ายคือการคืนสู่เหย้าเดือนมีนาคม ยอมถูกขังในคุกพิเศษสั้นๆ แล้วขอพระราชทานอภัยโทษ ปรับสภาพให้เป็นคนไร้มลทิน คดีอาญา
ความห่วงใยของคนดีว่าบ้านเมืองจะเป็นรัฐล้มเหลว เกิดมิคสัญญีเพราะคนชั่วกุมอำนาจ จะมีความขัดแย้งรุนแรง ใช้กำลังตัดสินกันหรือไม่
มีพวกแดงคอมมิวนิสต์หลงยุค ต้องการเปลี่ยนแปลง ล้มสถาบัน อาศัยเงินและตัวของเหลี่ยมร้ายเป็นเครื่องมือให้บรรลุเป้าหมาย หลังจากต่างฝ่ายหลอกใช้กัน ทำให้บ้านเมืองมีปัญหาความมั่นคงเริ่มในยุคเหลี่ยมร้ายเป็นใหญ่ ถ้าคนดีเพิกเฉย นารีหน้าขาวมีโอกาสได้อยู่ยาวเกินคาด อาศัยความไม่รู้ปูทางเสริมฐาน เอาบ้านเมืองฝึกงาน ให้รู้ว่าตระกูลเหลี่ยมเป็นผู้นำ 2 รุ่นแล้ว
พระสงฆ์ นักวิชาการ อาจารย์ เคยเป็นที่พึ่งพิงด้านปัญญา ทุกวันนี้ยินยอมเต็มใจแปรสภาพเป็นผีโม่แป้ง เพราะสยบต่ออำนาจเงินเหลี่ยมร้าย
เมืองไทยเคยสุขสงบร่มเย็นมายาวนาน ตกอยู่ในสภาวะแปรปรวน เสื่อมโทรม อำนาจอธรรมครองเมือง! รัตนโกสินทร์จะสิ้นคนดีจริงๆ หรือนี่!
จะนำไปสู่วิกฤตความมั่นคงของชาติ สถาบันหลัก ซึ่งเป็นเป้าหมายของการทำลายโดยขบวนการการเมือง ภายใต้ “แผนล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า” หรือไม่
ทั้งเรื่องความพยายามของกลุ่มก๊วนต่างๆ ในพรรคเพื่อเหลี่ยมร้าย แดงอำมาตย์ แดงไพร่ แดงซ้ายหลงยุค แดงสู้แล้วรวย ในขบวนการตีกิน ล้วนแต่มุ่งเอาประโยชน์ส่วนตัว เฉพาะกลุ่ม มีจุดศูนย์รวมคุมโดยเหลี่ยมร้ายเร่ร่อน
โดยพฤติกรรมต่างๆ ขบวนการเหล่านี้ดำเนินการทั้งแยก และร่วมกันเดินหน้าตามแผนช่วยเหลือเหลี่ยมร้ายอย่างผยองลำพองอำนาจ ไม่แยแสต่อความรู้สึกของประชาชน ย่ำยีกฎหมาย และกลไกของความเป็นนิติรัฐ
การออกหนังสือเดินทางแบบธรรมดาให้เหลี่ยมร้ายโดยฝีมือของ “ปึ๋ง โม่แป้ง” ใช้เหตุผลแบบข้างๆ คูๆ เอาสีข้างเข้าถู เสี่ยงต่อการละเมิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้ง ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ก็ยังทำ คงมองว่าคุ้ม ได้เป็นถึงรัฐมนตรี
โดยปกติ เดินข้างถนน หมู หมา กา ไก่ไม่ชำเลืองมอง เมื่อนายทาสแต่งตั้งให้เป็นผีโม่แป้ง ทำงานเข้าตา ย่อมมีอำนาจ วาสนา เงินตรา ลาภ ยศ ไม่สนใจว่าชาวบ้านจะดูหมิ่น เหยียบหยามว่า เป็นคนละเมิดกฎหมาย
ไร้เกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำลายอำนาจศาล!
ยุคนี้เราเห็นข้าราชการแบ่งเป็นประเภทผีโม่แป้ง ก้มหัวยอมกราบกราน รับใช้เครือข่ายเหลี่ยมร้าย ทุ่มเททั้งกายใจ ไม่สนใจกฎหมาย ศีลธรรม คุณธรรม ตราบใดที่ได้รับผลตอบแทนในตำแหน่งงาน และรายได้
เสียงแช่งด่าของประชาชนถูกมองว่าเป็นปัจจัยเสริมความหน้าด้าน!
อีกพวกยอมหลบ สยบไม่มีปากเสียง ขอให้เอาตัวรอด ไม่โดนรังควาญ ไม่ห่วงผลกระทบต่อชาติ ความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ความสงบในบ้านเมือง
ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศส่วนหนึ่งต้องอยู่กับความอัปยศอดสู ไม่กล้าสู้กับความไม่ถูกต้อง เมื่อเป็นตัวอย่างไม่ดี หน่วยงานอื่นก็เอาเยี่ยง สังคมข้าราชการอยู่ในสภาพการแข่งขันเพื่อรับใช้คนชั่วให้ได้ดี
“ปึ๋ง โม่แป้ง” เป็นตัวอย่างของการไม่เห็นกลไกกฎหมาย ระเบียบอยู่ในสายตา อยู่ในอีหรอบเดียวกับเหลี่ยมร้าย ซึ่งมองว่ากฎหมายผิด ตัวเองถูกต้อง
วิกฤตจากความพยายามแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 112 กรณีหมิ่นสถาบัน แก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม การนิรโทษกรรม เป็นจุดเปราะบางสำหรับชนวนเหตุร้าย ทั้งความเคลื่อนไหวตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดง การหมิ่นสถาบัน
กว่า 4 เดือนที่รัฐบาลนารีหน้าขาว ตัวแทนหุ่นเชิดเหลี่ยมร้ายกุมอำนาจบ้านเมือง ไม่มีอะไรดีขึ้น วิกฤตอภิมหาอุทกภัยสร้างความเสียหายยังประเมินไม่ได้ นอกจากยังไม่แก้ปัญหาสำเร็จ ยังมีภัยแล้ง ภัยหนาว ภัยมรสุมในภาคใต้
ขอเพียงแค่อยู่รอด เผชิญปัญหาต่างๆ แต่ละวัน ไม่โดนด่า ก็บุญแล้ว!
เงื่อนไขกำหนดโดยเหลี่ยมร้ายเป็นตัวเร่งการเกิดวิกฤตการเมือง การเผชิญหน้ารอบใหม่ เมื่อตัวเองดิ้นรนต้องการอิสรภาพ แต่อยู่ในภาวะจำยอม ทำให้ต้องหาทางพ้นโทษโดยเร็ว แม้โอกาสจะกลับมาบ้านเกิดไม่ง่ายนัก
ตารางวางไว้โดยเหลี่ยมร้ายคือแผนจะกลับประเทศไทยเดือนมีนาคม หลังจากการปรับคณะรัฐมนตรี หลังจากหลายคนสอบตก ไร้ปัญญา ฝีมือ
มีตัวฉุด เติมความเสื่อมให้นารีหน้าขาว ตัวเองอยู่ไปแต่ละวันโดยหางานแบบอีเวนท์ เปิดกิจกรรมสังคมโดยไม่ต้องใช้สติปัญญา เน้นการตบตา แหกตาตีกินคะแนนความนิยมในสังคมบ้องตื้นให้ดูว่ามีความรู้ ความสามารถ
โพลต่างๆ ไร้ความน่าเชื่อถือ เป็นตัวเสริม ฟื้นสร้างภาพลักษณ์!
ต้องดูว่าการปรับ ครม.กลางเดือนมกราคม จะมีคนดี มีฝีมือเข้าร่วมหรือไม่ เพราะคนเก่ง เคารพตัวเอง ย่อมไม่ต้องการเกลือกกลั้วกับอัปมงคล
แผนเหลี่ยมร้ายคือการคืนสู่เหย้าเดือนมีนาคม ยอมถูกขังในคุกพิเศษสั้นๆ แล้วขอพระราชทานอภัยโทษ ปรับสภาพให้เป็นคนไร้มลทิน คดีอาญา
ความห่วงใยของคนดีว่าบ้านเมืองจะเป็นรัฐล้มเหลว เกิดมิคสัญญีเพราะคนชั่วกุมอำนาจ จะมีความขัดแย้งรุนแรง ใช้กำลังตัดสินกันหรือไม่
มีพวกแดงคอมมิวนิสต์หลงยุค ต้องการเปลี่ยนแปลง ล้มสถาบัน อาศัยเงินและตัวของเหลี่ยมร้ายเป็นเครื่องมือให้บรรลุเป้าหมาย หลังจากต่างฝ่ายหลอกใช้กัน ทำให้บ้านเมืองมีปัญหาความมั่นคงเริ่มในยุคเหลี่ยมร้ายเป็นใหญ่ ถ้าคนดีเพิกเฉย นารีหน้าขาวมีโอกาสได้อยู่ยาวเกินคาด อาศัยความไม่รู้ปูทางเสริมฐาน เอาบ้านเมืองฝึกงาน ให้รู้ว่าตระกูลเหลี่ยมเป็นผู้นำ 2 รุ่นแล้ว
พระสงฆ์ นักวิชาการ อาจารย์ เคยเป็นที่พึ่งพิงด้านปัญญา ทุกวันนี้ยินยอมเต็มใจแปรสภาพเป็นผีโม่แป้ง เพราะสยบต่ออำนาจเงินเหลี่ยมร้าย
เมืองไทยเคยสุขสงบร่มเย็นมายาวนาน ตกอยู่ในสภาวะแปรปรวน เสื่อมโทรม อำนาจอธรรมครองเมือง! รัตนโกสินทร์จะสิ้นคนดีจริงๆ หรือนี่!
