“เฉลิม” ใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจการจับโจรซ้ำเติมผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมทั้งตั้งศูนย์รักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินและจราจรเพิ่ม วอนประชาชนให้อพยพหนีน้ำแล้วฝากบ้านไว้กับตำรวจ
วานนี้ (31 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 13.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รอง นายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. เดินทางมาประชุมมอบนโยบายป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในช่วงน้ำท่วม โดยมี พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รักษาการ ผบช.น.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชน พร้อมทั้งวางมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินพี่น้องประชาชน กทม. ป้องกันปราบปรามปัญหาอาชญากรรมช่วงน้ำท่วม และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่เดินทางเข้าออก กทม.ภายหลังประกาศวันหยุดยาวต่อเนื่อง 5 วัน
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการขึ้นมาเพิ่มเติม นอกจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แล้วยังมีศูนย์รักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินและการจราจร โดยให้ตนเองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รับผิดชอบจะเปิดวันพรุ่งนี้ เวลา 18.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นศูนย์รวมของตำรวจทั้งหมด ทั้งใน กทม. บช.ภ.1 บช.ภ.2 บช.ภ.7 และพื้นที่อื่นที่ถูกน้ำท่วม โดยจะรวมผลงานการทำงานทั้งหมดไว้ที่ศูนย์นี้
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า ทางด้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ได้มอบเรือท้องแบนและเรือเจ็ตสกี โดยได้จัดสายตรวจทางแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้เฮลิคอปเตอร์ออกตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่น้ำท่วมมากๆ และที่สำคัญจะระดมกำลังตำรวจทุกภาคส่วนที่มีอยู่ ไปตรวจพื้นที่น้ำท่วมมาก น้ำท่วมน้อย และยังไม่ท่วม โดยนำกำลัง ตชด. และตำรวจภูธรภาค 1, 4 มาช่วยประสานประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ก่อน
“ชาวบ้านที่ไม่ยอมออกมากจากพื้นที่เนื่องจากเกรงปัญหามิจฉาชีพ เราต้องสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้านก่อน และต้องบอกให้รู้ว่าได้มีการระดมกำลังทุกภาคส่วนมาดูแลความปลอดภัยให้แล้ว หากยังอยู่อาจเกิดเหตุร้ายได้ ให้อพยพหนีออกมา และฝากบ้านกับตำรวจ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและสบายใจได้” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังได้สั่งการให้ 1.ตั้งศูนย์ความมั่นคง ความปลอดภัยและการจราจร ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นเวรอำนวยประสานงาน 2.มีเบอร์โทรศัพท์ที่ประชาชนสามารถแจ้งแหตุได้ 3.นำข้าราชการตำรวจจาก บช.น.บช.ตชด.มาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ใช้ชุดกีฬาหรือครึ่งท่อนได้ 4.การแก้ไขปัญหาความมั่นคง ความปลอดภัยและการจราจร ต้องบูรณาการกำลังพล การปฏิบัติไม่ให้เขตพื้นที่รับผิดชอบเป็นอุปสรรค 5.เตรียมความพร้อมของเครื่องมือสื่อสาร กำลังพลและข้อมูล 6.จัดยานพาหนะเรือ เจ็ตสกี สปีดโบต ที่ได้รับการสนับสนุน และในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดศูนย์ ตร.หน่วยต่างๆ และมีการส่งนายตำรวจประสานงานประจำศูนย์ ตร.
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะรอง ผอ.ศปภ.ตร.เปิดเผยว่า การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปภ.ตร.) เพื่อสนับสนุนการทำงานของ ศปภ.ใหญ่ ที่ปัจจุบันตั้งอยู่ที่อาคารเอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน โดยย้ายมาอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 20 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนกลาง ในการรวบรวมปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ มาวิเคราะห์วิจัย ทั้งนี้ ผบ.ตร. มีการประชุมเวลา 10.00 น.ทุกวัน ตั้งแต่พรุ่งนี้ เป็นต้นไป (1 พ.ย.)
พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า ศปภ.ตร.จะเป็นศูนย์ที่บริหารจัดการ บูรณาการหน่วยงานในองค์กรตำรวจให้มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย คือ 1.ปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่สำคัญ เช่น ป้องกันอาชญากรรม ทรัพย์สินของประชาชน ดูแลความสะดวกทางจราจร ประสานงานกับส่วนต่างๆที่เข้ามาติดต่อ 2.ช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากขณะนี้ถนนหลายสายชำรุด มีน้ำท่วมขัง ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ รวมถึงการเข้มงวดในเรื่องของราคาสินค้า
พล.ต.อ.เอกกล่าวต่อว่า จากนี้ไปตำรวจจะจับกุมกลุ่มพ่อค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าเฉพาะกิจที่ขายเกินราคาไม่เป็นไปตามประกาศของกรมการค้าภายใน 3.ห่วงใยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยครอบครัวของเจ้าหน้าที่เองได้รับผลกระทบจึงทำให้บางคนอาจเห็นว่าตำรวจไม่ทำอะไร แต่จริงๆ แล้วในสถานการณ์เช่นนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างเช่นกลุ่มคนที่เข้ามาพังคันกั้นน้ำ อยากให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของตำรวจ การบังคับใช้กฎหมายบางทีอาจไม่เด็ดขาด เพราะเห็นใจในความเดือดร้อนของชาวบ้าน
“แม้ตำรวจเองจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมด้วย แต่ยืนยันว่าตำรวจมีหน้าที่อยู่ ไม่ต้องกังวลว่าจะช่วยเหลือตำรวจก่อน เราจะช่วยเหลือประชาชนเป็นอันดับแรก และศูนย์จะมีการประชุมคอนเฟอร์เรนซ์ทุกวัน พร้อมที่จะปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลา” พล.ต.อ.เอกกล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม จะมีการบริหารกำลังตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพ โดยจะดึงกำลังตำรวจที่ไม่ประสบอุทกภัยมาร่วมด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่าตำรวจเองก็ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมด้วยเช่นกัน ซึ่งจากนี้ไปจะมีความชัดเจนที่จะช่วยเหลือตำรวจที่ได้รับผลกระทบ หรืออาจมีการเปิดศูนย์พักพิงให้ตำรวจด้วย