ASTV ผู้จัดการรายวัน – ตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน- ผงซักฟอก คึกคักรับอานิสงส์น้ำท่วม คนแห่ซื้อล้างบ้าน ฆ่าเชื้อโรค -รา ทัพสินค้าเร่งเพิ่มกำลังผลิตหลังสินค้าขาดตลาด “ไลอ้อน”ชี้ตลาด2,500ล้านบาท โตพรวด 10-20% ช่วงเดือนพย.-ธค. แก้เกี้ยวโรงงานรับจ้างผลิตน้ำท่วม ดึงโรงงานศรีราชาผลิตลุคเต็มสูบ มั่นใจยอดโต 20%
“เป็ด-มิสเตอร์มัสเซิล”ย้ายเครื่องจักรน้ำท่วมนวนครสู่บางปะกง หวังเพิ่มกำลังผลิตป้อนตลาด
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคในเครือสหพัฒน์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านลุค เปิดเผยว่า จากการที่สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายในหลายพื้นที่ โดยขณะนี้ผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ระหว่างการทำความสะอาดบ้านเรือนที่โดยน้ำท่วมร่วม 1-2 เดือน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านลุค
และผงซักฟอกเปาและโปร มียอดขายเติบโตถึง 20% เมื่อเทียบกับภาวะปกติเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว โดยความต้องการสินค้าที่มีมากกว่าปกติ ส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายในบ้านมูลค่า 2,500 ล้านบาท และตลาดผงซักฟอก 1.4 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10-20% จากปกติโตต่ำกว่า 10%
สำหรับด้านกำลังการผลิตน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำและทำความสะอาดลุค ขณะนี้บริษัทได้วางแผนนำสินค้ามาผลิตเอง หลังจากก่อนหน้านี้ได้จ้างบริษัทอื่นเป็นผู้ผลิตให้ แต่เนื่องจากโรงงานประสบกับปัญหาน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าให้ได้ บริษัทจึงกลับมาผลิตเพื่อให้สินค้าสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ โดยพบว่า
พฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านเริ่มมีความต้องการมากขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ และคาดว่าการซื้อสินค้าจะเริ่มชะลอสิ้นเดือนธันวาคม นี้ โดยขณะนี้ถือว่าเป็นช่วงขาขึ้นของตลาด เนื่องจากผู้บริโภคต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากกว่าปกติ ทำให้ปัจจัยการตัดสินใจซื้อไม่คำนึงถึงแบรนด์มากนัก
“สินค้าแบรนด์ไหนที่ผลิตทันตามความต้องการ และนำมาวางจำหน่ายทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรด หรือเทรดิชันนัล ได้ทันตามความต้องการ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะซื้อหมด ไม่คำนึงถึงแบรนด์ เพราะคุณสมบัติการใช้งานไม่แตกต่างกันมากนัก ในเวลานี้ของให้มีของวางจำหน่ายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ”
***เป็ด-มัสเซิลโยกการผลิตรง.บางปะกง***
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท เอส.ซี.ยอห์นสัน จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายในบ้านมิสเตอร์มัสเซิลและเป็ด เปิดเผยว่า โรงงานของบริษัทที่ตั้งอยู่นวนคร ประสบกับอุทกภัย ทำให้ล่าสุดบริษัทได้ตัดสินใจเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้วางแผนย้ายเครื่องจักร เพื่อนำไปผลิตที่โรงงานบางปะกงแทน ปัจจัยที่บริษัทต้องโยกเครื่องจักร
เนื่องจากกำลังการผลิตน้ำยาทำความสะอาดบ้านทั้งเป็ดและมิสเตอร์มัสเซิล โดยเฉพาะน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด โดยขณะนี้ยอดการสั่งซื้อสินค้าทางโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่ายอดขายในช่วงนี้จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายในบ้านมีมูลค่า 2,500 ล้านบาท เติบโตต่ำกว่า 10% โดยแบ่งเป็นน้ำยาทำความสะอาดในห้องน้ำ มูลค่า 1,250 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 50% รองลงมา คือ น้ำยาทำความสะอาดพื้น 30% น้ำยาทำความสะอาดในครัว 3% และอื่นๆ เช่น น้ำยาทำความสะอาดกระจก, น้ำยาทำความสะอาดท่อตัน 17% โดยปัจจุบันบริษัท เอส.ซี.ยอห์นสัน
เป็นผู้นำตลาดโดยมีผลิตภัณฑ์เป็ดและมิสเตอร์มัสเซิล ครองส่วนแบ่งมากกว่า 50% ในตลาดน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ ตามด้วยวิกซอล เป็นอันดับสอง ที่เหลือแบรนด์มาจิคลีน ลุค วิม เป็นต้น
“เป็ด-มิสเตอร์มัสเซิล”ย้ายเครื่องจักรน้ำท่วมนวนครสู่บางปะกง หวังเพิ่มกำลังผลิตป้อนตลาด
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคในเครือสหพัฒน์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านลุค เปิดเผยว่า จากการที่สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายในหลายพื้นที่ โดยขณะนี้ผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ระหว่างการทำความสะอาดบ้านเรือนที่โดยน้ำท่วมร่วม 1-2 เดือน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านลุค
และผงซักฟอกเปาและโปร มียอดขายเติบโตถึง 20% เมื่อเทียบกับภาวะปกติเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว โดยความต้องการสินค้าที่มีมากกว่าปกติ ส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายในบ้านมูลค่า 2,500 ล้านบาท และตลาดผงซักฟอก 1.4 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10-20% จากปกติโตต่ำกว่า 10%
สำหรับด้านกำลังการผลิตน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำและทำความสะอาดลุค ขณะนี้บริษัทได้วางแผนนำสินค้ามาผลิตเอง หลังจากก่อนหน้านี้ได้จ้างบริษัทอื่นเป็นผู้ผลิตให้ แต่เนื่องจากโรงงานประสบกับปัญหาน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าให้ได้ บริษัทจึงกลับมาผลิตเพื่อให้สินค้าสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ โดยพบว่า
พฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านเริ่มมีความต้องการมากขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ และคาดว่าการซื้อสินค้าจะเริ่มชะลอสิ้นเดือนธันวาคม นี้ โดยขณะนี้ถือว่าเป็นช่วงขาขึ้นของตลาด เนื่องจากผู้บริโภคต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากกว่าปกติ ทำให้ปัจจัยการตัดสินใจซื้อไม่คำนึงถึงแบรนด์มากนัก
“สินค้าแบรนด์ไหนที่ผลิตทันตามความต้องการ และนำมาวางจำหน่ายทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรด หรือเทรดิชันนัล ได้ทันตามความต้องการ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะซื้อหมด ไม่คำนึงถึงแบรนด์ เพราะคุณสมบัติการใช้งานไม่แตกต่างกันมากนัก ในเวลานี้ของให้มีของวางจำหน่ายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ”
***เป็ด-มัสเซิลโยกการผลิตรง.บางปะกง***
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท เอส.ซี.ยอห์นสัน จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายในบ้านมิสเตอร์มัสเซิลและเป็ด เปิดเผยว่า โรงงานของบริษัทที่ตั้งอยู่นวนคร ประสบกับอุทกภัย ทำให้ล่าสุดบริษัทได้ตัดสินใจเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้วางแผนย้ายเครื่องจักร เพื่อนำไปผลิตที่โรงงานบางปะกงแทน ปัจจัยที่บริษัทต้องโยกเครื่องจักร
เนื่องจากกำลังการผลิตน้ำยาทำความสะอาดบ้านทั้งเป็ดและมิสเตอร์มัสเซิล โดยเฉพาะน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด โดยขณะนี้ยอดการสั่งซื้อสินค้าทางโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่ายอดขายในช่วงนี้จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายในบ้านมีมูลค่า 2,500 ล้านบาท เติบโตต่ำกว่า 10% โดยแบ่งเป็นน้ำยาทำความสะอาดในห้องน้ำ มูลค่า 1,250 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 50% รองลงมา คือ น้ำยาทำความสะอาดพื้น 30% น้ำยาทำความสะอาดในครัว 3% และอื่นๆ เช่น น้ำยาทำความสะอาดกระจก, น้ำยาทำความสะอาดท่อตัน 17% โดยปัจจุบันบริษัท เอส.ซี.ยอห์นสัน
เป็นผู้นำตลาดโดยมีผลิตภัณฑ์เป็ดและมิสเตอร์มัสเซิล ครองส่วนแบ่งมากกว่า 50% ในตลาดน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ ตามด้วยวิกซอล เป็นอันดับสอง ที่เหลือแบรนด์มาจิคลีน ลุค วิม เป็นต้น
