"แทนคุณ จิตต์อิสระ" ชำแหละอิทธิพลมืดดอนเมือง ปมสังหารหัวคะแนนคนสนิท

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองขึ้นมาทันทีในเหตุการณ์สะเทือนขวัญ กรณีเกิดคดีสังหารโหด “นายชุติเดช สุวรรณเกิด” คนสนิทของ “นายแทนคุณ จิตต์อิสระ” หรือ “อี้” อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลานจอดรถตลาดโกสุมรวมใจ เขตดอนเมือง กทม. เมื่อเย็นวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา

แน่นอนสำหรับ อี้-แทนคุณแล้วเขามั่นใจในข้อมูลและพยานหลักฐานสำคัญที่ส่วนหนึ่งที่เชื่อได้ว่าอาจจะเกี่ยวพันกับผู้มีอิทธิพลมืดซึ่งเกี่ยวพันกับ ส.ส.บางคน ในเขตดอนเมือง เขาเชื่อว่าคนตัวย่ออักษร ว. ผู้มีอิทธิพลเป็นมือขวานักการเมือง ก. จัดหามือปืนจากซุ้มสุโขทัยมาเอาชีวิตลูกน้องคนสนิท และเชื่อว่าตนเองคือ 1 ใน 5 ของเป้าสังหาร ที่จะถูกตามเก็บต่อจากนี้

ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าว อี้-แทนคุณ ได้เปิดใจกับ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ถึงความน่าจะเป็นของสาเหตุการฆ่าสังหารโหดครั้งนี้

** จากการที่ได้ประมวลหลักฐานและพยานทั้งหมด เชื่อว่ามูลเหตุจากการเสียชีวิตของนายชุติเดช ลูกน้องคนสนิทมาจากอะไร

ผมเชื่อว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่คุณชุติเดช ผู้ตายได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอิทธิพลบางอย่างที่มีผลประโยชน์ในพื้นที่ดอนเมืองมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะบ่อนการพนัน ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นประเด็นใหญ่ เนื่องจากสมัยก่อนผู้ตายเคยทำงานในแวดวงเหล่านี้ หรืออาจเรียกว่าสายนักเลง ก็จะแบ่งออกเป็น 3 สาย 1. สายหาเงิน จะทำงานเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหวยใต้ดิน ตู้ม้า บ่อนการพนัน 2.สายการใช้เงิน เช่นว่าจะเอาเงินไปทางไหน จะใช้อย่างไร 3. สายบริหารคน จะเป็นพวกนักเลง หัวคะแนน ผู้มีอิทธิพล มันเป็นระบบอุปถัมภ์ในสังคมไทย ที่คนพวกนี้ก็จะไปขอพึ่งพานักการเมือง ยิ่งนักการเมืองที่ไม่มีความเข้มแข็งในคุณธรรมพอ ก็จะโน้มเอียงไปสู่สิ่งเหล่านั้นได้ง่าย เพราะว่าต้องใช้เงินเช่นกัน ยกตัวอย่าง ชาวบ้านมาขอเงิน ขอของใช้ ฉะนั้นก็ดูเหมือนว่า นักการเมืองเป็นผู้มีอันจะกิน และดูจะมีอิทธิพลในทางลับบางอย่าง

ผมว่าการตายของคุณชุติเดชก็ดูจะมีนัยบางอย่างเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ เพราะเติบโตมาทางสายของการคุมคน อีกทั้งในแต่ละสายก็มีการแก่งแย่งที่จะเติบใหญ่ หรือผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่พอถึงจุดหนึ่งเมื่อแก่ตัวขึ้น คุณชุติเดชก็คิดที่จะถอยออกมา เขาก็เคยไปสมัคร สก.อิสระ แต่ในใจก็ยังมีความรักด้านการเมืองอยู่เสมอ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า คุณชุติเดชมีวิธีคิดหลายอย่างที่น่าสนใจ ตอนหลังก็ไปสมัครในนามพรรคการเมืองใหม่ด้วย สุดท้ายผมก็ได้ชวนมาร่วมงานกัน ช่วงที่ช่วยผมอย่างเข้มข้นที่สุดจะเป็นช่วงหาเสียง ก็เหมือนเป็นหัวคะแนนคนหนึ่ง คล้ายกับว่ามีหน้าที่วางกลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ วิธีคิดต่างๆ

ยิ่งช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา ผมนับถือน้ำใจแกมาก แกทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ ผมเชื่อว่าการตายของแกเกี่ยวข้องกับการย้ายขั้วและการเก็บข้อมูลบางอย่างไว้ เป็นข้อมูลที่โยงใยไปถึงผู้มีอิทธิพลที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจจะโยงใยไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐด้วย ทำให้คดีมีความซับซ้อนมากขึ้น และเมื่อดูจากการตายก็จะเห็นสัญลักษณ์บางอย่างที่มีการยิงที่ปาก เหมือนกับจะสื่อว่าอย่าปากโป้ง

แต่ก็แปลกใจเช่นกันว่าทำไมตำรวจถึงรีบชิงสรุปว่าไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง ประเด็นการเสียชีวิตผมก็ไม่ได้ตัดเรื่องส่วนตัวไปเสียทีเดียว อย่างกรณีเสธ.บ.ไปสืบมาก็ปรากฏว่าไม่ได้มีความขัดแย้งรุนแรงมากมาย เมื่อปี2553 มีลูกน้องทหารที่รับใช้เสธ.บ. อยู่ได้ขโมยพระเครื่องมาขายให้คุณชุติเดช คุณชุติเดชก็ไม่รู้ว่าเป็นการรับซื้อของโจร เสธ.บ.ก็ตามมาทวงคืน แต่พระองค์นั้นก็ปล่อยไปแล้ว จึงได้ให้องค์อื่นคืนไปแทน พระองค์นั้นเป็นพระพุทธชินราชใบเสมาพิมพ์เล็ก ทราบราคารู้สึกว่าจะแค่หลักหมื่น ไม่ได้ถึงหลักล้าน ต่อมาก็มีการเคลียร์กันเรียบร้อย แต่ผมก็ไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้งไป ส่วนเรื่องชู้สาว คุณชุติเดชก็ได้หย่าขาดภรรยาคนแรกเรียบร้อยแล้ว กรณีนี้เชื่อว่าเป็นการจ้างวานฆ่าลักษณะฝีมือเป็นมืออาชีพยิงตามใบสั่ง แต่ประเด็นต่างๆ ผมก็ยังไม่ได้ทิ้ง ไม่อยากมองว่าเป็นเรื่องการเมืองอย่างเดียว มีคนที่ใกล้ชิดกับคุณชุติเดชที่สุด 3 คน คือภรรยา สก.หนุ่ย และผม ซึ่งเราก็ได้คุยกันตลอดถึงสาเหตุการตายว่ามาจากอะไร ก็งงว่าไม่ได้ขัดแย้งกับใครถึงกับต้องมีการถูกจ้างวานมายิงกลางตลาดสด ซึ่งมันไม่ธรรมดา คนที่ยิงมี 2 อย่าง ไม่เสียสติก็กล้ามาก เพราะว่าอาจมีผู้สนับสนุนอยู่เลยไม่เกรงกลัว

**คุณชุติเดชก่อนมาทำงานกับคุณอี้เคยเป็นมือขวาของเก่ง การุณ?

เคยมีคนเล่าให้ฟัง เคยทำงานกับคุณเก่งช่วยบุกเบิกกันมาหลายปี แต่ผมเชื่อว่าอาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่อาจจะเกี่ยวกับการที่คุณชุติเดชไปรู้ความลับของผู้มีอิทธิพลมืด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ซึ่งคุณชุติเดชถึงกับรับไม่ได้ ถึงกับต้องปลีกตัวออกมา และอยากกลับตัวกลับใจ ซึ่งตอนที่มาทำงานกับผม ผมก็คุยอย่างเปิดใจว่า ผมไม่เอาเรื่องผิดกฎหมาย และถ้าใครทำผิดกฎหมายผมจะดำเนินการด้วยตัวเอง

*เหตุผลอะไรที่คุณชุติเดชตัดสินใจมาร่วมงานการเมืองกับคุณอี้?

ตอนแรกแกก็ทำงานการเมืองมาก่อน ผมก็ได้ไปคุยแกก็ยินดีมาทำงานร่วมกับผม ซึ่งช่วยได้มากในการอุดจุดบอดที่ผมไม่มี เช่นแกเป็นคนเก่งคล่องแคล่ว ว่องไวในการลงพื้นที่ การเข้าถึงกลุ่มคน โดยบางเรื่องต้องอาศัยนิสัยใจนักเลง อย่างผมเคยผ่านงานด้านวิชาการ งานด้านสื่อ จึงยังไม่คุ้นเคยในด้านนี้ อย่างคนในพื้นที่ก็จะมีการดื่มเหล้า เฮฮาถึงไหนถึงกัน ซึ่งช่วยผมได้มากในเรื่องการเข้าถึงคน ครั้งหนึ่ง ตอนช่วงเลือกตั้ง คุณชุติเดชเคยเตือนผมว่าพื้นที่นี้มันแรง ตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยเชื่อ อาจจะเป็นเพราะความอ่อนประสบการณ์ แต่แกก็พูดหลายอย่าง ซึ่งตอนหลังมาก็เป็นความจริง เช่น ถ้าคุณอี้ไม่ได้เป็น ส.ส.ผมคงตายอย่างแน่นอน ผมก็คิดว่าจะเป็นวิธีที่แกกระตุ้นให้ผมขยันแต่ไม่ใช่ ยิ่งวันที่เกิดเหตุผมจึงรู้เลยว่าสิ่งที่แกพูดคืออะไร ครั้งหนึ่งแกเคยพูดว่าผมคือ1ใน5ที่ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ ก็มีคุณชุติเดช เพื่อนสนิทคุณชุติเดช ส.ก.หนุ่ย ส.ข.อีกคนหนึ่ง และผมเป็นคนสุดท้าย

ที่คุณชุติเดชมาถูกเก็บในช่วงนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเรื่องการเมืองซาลง ซึ่งอาจจะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของใครบางคน เนื่องจากว่าผมกับคุณชุติเดชก็ทำงานร่วมกันมาหลายเดือน เจอกับเกือบทุกวัน ผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมาด้วยกัน เราจึงมั่นใจในข้อมูลของเรา เชื่อว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง และมีการเมืองเข้ามายุ่ง อย่างวันแรกท่านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจมากออกมาให้สัมภาษณ์ชี้นำว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ยิ่งท่านชี้นำไปในลักษณะนั้นมันยิ่งน่ากลัวว่า หากผู้ใต้บังคับบัญชาไปตรวจสอบหลักฐาน แล้วเจอบางสิ่งบางอย่างแต่ว่าดันไปขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชา จะทำยังไง มันมีระบบแบบนี้อยู่ กลไกต่างๆ ก็ยิ่งน่าตลกทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจสอบก่อนอย่างเข้มงวดมีการออกมาพูดว่าเป็นการยิงมาจากข้างหลังบ้าง ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองบ้าง

มีสิ่งที่น่าแปลกใจหลายอย่างเช่น วันที่ผมไปที่เกิดเหตุเราก็ไปดูแผลผู้ตายผู้ตายว่าถูกยิงกี่นัดที่ไหนบ้าง เช่นทะลุหน้าอก1นัด ปากด้านล่าง ด้านบน ทั้งหมด 5 นัด เข้า 4 นัด แต่ที่แน่ๆ ผมมั่นใจว่ายิงจากด้านหน้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกว่าบางนัดอาจจะฝังใน วันรุ่งขึ้นผมก็ได้แถลงข่าวว่า การตายเกี่ยวข้องกับประเด็นการเมือง ต่อมาก็มีตำรวจท่านหนึ่งออกมาให้ข่าวว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรอก กระสุนถูกยิงจากข้างหลังมาจากท้ายทอยทะลุปาก ไม่เกี่ยวกับยิงปากคิดมากไปเองหรือเปล่า ปรากฏว่าสถาบันนิติเวชได้สรุปผลว่ายิงจากด้านหน้าจริงๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องสืบสวนสอบสวน แต่ก็ออกมาถูกต้อง

ที่น่าตกใจก็คือวันที่ 10 ธันวาที่เกิดเหตุ ผมก็อยู่ในเหตุการณ์ที่จะพาคุณชุติเดชไปโรงพยาบาลก็มีสายจากตำรวจบอกให้รอก่อน เพราะตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะมา ผมก็รอพร้อมกับผู้อำนวยการ ผมก็ถามว่าเคยเจอกรณีแบบนี้ไหม เขาก็บอกว่าไม่เคยเจอ แต่ลักษณะการตรวจศพก็เป็นไปอย่างลุกรี้ลุกรน ก็มีการแปะสติ๊กเกอร์ตามจุดต่างๆ ของร่างกายแล้วถ่ายรูป ผมก็งงว่าทำไมไม่ให้นิติเวชตรวจให้เรียบร้อยไปเลยทีเดียว มองในแง่บวกอาจจะเป็นการใส่ใจเป็นพิเศษ

อีกเรื่องที่น่าตั้งข้อสังเกตมากๆ คือตำรวจที่มาในตอนนั้นได้เรียกให้ภรรยาคุณชุติเดช ไปให้ปากคำ แต่ว่าตอนนั้น ภรรยาคุณชุติเดชก็แค่อยากจะไปโรงพยาบาลพร้อมกับศพสามีก่อน ขัดไม่ได้ก็เลยต้องเข้าให้ปากคำกับตำรวจขณะเดียวกันก็ไปในสภาพเลือดของสามีท่วมตัว ที่น่าตกใจก็คือพอไปถึงที่นั้นกลับเจอคุณเก่ง การุณ นั่งรออยู่ ซึ่งภรรยาคุณชุติเดชถึงกับตกใจมาก เพราะปัจจุบันก็ได้ทำงานต่างขั้วกันแล้ว ก็แปลกใจว่าทำไมคุณเก่งถึงไปอยู่ตรงนั้นได้ มีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า ก็ไม่ได้อยากไปก้าวหาคุณเก่ง แต่ว่ามันบังเอิญขนาดนั้นเลยหรือ ต่อมาคุณเก่งก็ได้ออกมาแถลงข่าวแสดงความเหยียดหยามผู้ตายด้วยว่า เป็นคนส่งผู้ตายไปเป็นไส้ศึกในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติผู้ตายมาก ผมก็เลยบอกให้คุณเก่งขอขมาผู้ตาย แต่คุณเก่งก็ไม่ทำ เป็นการไม่แสดงความรับผิดชอบต่อคำพูด

** ตั้งแต่คุณชุติเดชย้ายมาทำงานด้วย ส่งผลให้คะแนนในพื้นดีขึ้นมากน้อยอย่างไร?

ผมเชื่อว่าเป็นไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก จากผลเลือกตั้งที่ผ่านมา ตัวเองได้สามหมื่นกว่าคะแนน ถือเป็นครึ่งหนึ่งของคะแนนทั้งหมด ห่างจากคุณเก่ง การุณ เพียงไม่กี่พันคะแนน ผมเชื่อว่าการได้คุณคมมาช่วยงานมีส่วนสำคัญตรงจุดนี้ อย่างที่บอกผมเป็นมือใหม่มากทางการเมือง และสำหรับดอนเมืองถือเป็นพื้นที่ที่แข็งเป็นอันดับต้นๆ ของ กรุงเทพมหานคร ผมเชื่อว่าก็มีนัยในส่วนของคุณชุติเดชที่ช่วยได้มาก ซึ่งแต่ก่อนคุณชุติเดชก็จะคอยบอกผมว่าเวลาไปหาเสียงที่ไหนให้พกกล้องไปด้วย เพราะพวกมือปืนมันกลัวกล้อง วันดีคืนดีคุณชุติเดชบอกว่ามีซุ้มมือปืนของเพชรบุรีเคลื่อนไหว ตอนนั้นผมก็ไม่เชื่อก็บอกแกกลับไปแบบติดตลกว่า โห พี่ดูหนังมากไปหรือเปล่า ก่อนเลือกตั้งคุณชุติเดชก็คอยดูลาดเลาครึ่งหนึ่งจับคนต้องสงสัยได้แต่ก็ได้ปล่อยตัวไป ช่วงเลือกตั้งเรียกว่าเจอมาทุกรูปแบบ

** คาดว่าคดีนี้จะจบลงแบบใด?

เรื่องนี้ผมเกรงว่ากรณีนี้จะเหมือนกรณีอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้น เพราะว่าเป็นคดีที่อาจเกี่ยวข้องกับนักการเมือง และมีการขอกันไปขอกันมา ให้เบี่ยงเป็นประเด็นอื่นไปเสีย ซึ่งในพื้นที่ดอนเมืองก็เคยมีให้เห็นอยู่ บ้านเราต้องยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้ยังมีอิทธิพลสูงอย่างจับแพะ จับปื้ด ได้ก็มีให้เห็นเป็นตัวอย่างอยู่ ไม่ใช่ว่าจะกล่าวหากัน และยิ่งมาเจอกับตัวมากขึ้นก็ยิ่งนึกถึงคำพูดที่คุณชุติเดชพูดย้ำเตือนบ่อยๆ ก็กลัวว่าเรื่องนี้จะเป็นเหมือนคดีอื่นๆที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเหมือนกัน

**ตัวคุณชุติเดชเป็นคนกุมความลับในเขตดอนเมืองไว้มาก?

ใช่ครับ คุณชุติเดชเป็นคนกว้างขวาง โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มคน เช่นใครอยู่สีไหน คนนี้เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายอะไร พูดถึงเรื่องหลักๆ บ่อนการพนันเงินหมุนเวียนเดือนนึงไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน เพราะมันเชื่อมโยงกับเครือข่ายบ่อนอื่นด้วย คนที่จะทำบ่อนได้ต้องมีอิทธิพลและเงินถึงพอสมควร แม้กระทั่งยังเคยมีนักการเมืองคนหนึ่งพูดในที่สาธารณะว่าเขาจ่ายให้คนมีสีในพื้นที่เดือนละ 1 ล้าน และต้องจ่ายตามเรี่ยไร่รายทางอีกมากมาย ซึ่งคนที่สุจริตจะอยู่ยาก ยิ่งมีข้อมูลความลับเรื่องพวกนี้มากก็ยิ่งน่ากลัวต่อตัวเอง สิ่งเหล่านี้ผมไม่เอาด้วยอยู่แล้ว ซึ่งผมก็จะหาช่องทางอย่างทีมงานในพรรคประชาธิปัตย์ หรือประชาชนมาร้องเรียน ซึ่งเราจะอยู่เฉยคงไม่ได้ เพราะชาวบ้านก็ทราบดีถึงผลร้ายของบ่อนการพนัน เช่นเกิดการลักขโมยกัน เกิดปัญหาครอบครัว การติดยาเสพติด และที่ส่วนตัวได้คลุกคลีกับพื้นที่ก็ยิ่งปฏิเสธไปไม่ได้เลยมันเป็นวงจรใหญ่และมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

** ที่คุณอี้ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนักการเมืองที่มีชื่อย่อ ว. และชื่อย่อ ก. มันไปเกี่ยวโยงกับซุ้มมือปืนสุโขทัยอย่างไร

ตอนนี้ผมทำงานเชิงลึกในการหาข่าว อาศัยจากเพื่อน ลูกน้องคุณชุติเดช เพราะเขาเคยทำงานในพื้นที่นี้มาหลานสิบปี ก็มีไม่น้อยที่รับไม่ได้กับการตายของคุณชุติเดชก็ได้ให้ข้อมูลผมมา แต่ผมก็ไม่ใช่ว่าฟังแล้วจะเชื่อทันที ซึ่งบางสายก็ยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับตำรวจด้วย ตอนนี้ได้ทำงานคู่ขนานกัน ทั้งฟังข้อมูลของทางตำรวจที่ยืนยันว่าคดีไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง หรือจะเป็นของส่วนตัวเอง บางทีคนชื่อย่อ ก.อาจจะไม่มีส่วนก็ได้ แต่อาจจะมีการเกี่ยวข้องทางหนึ่งทางใด

ผมมองว่าการฆ่ามันโจ่งแจ้งมากและอุกอาจเกินไป เอาแค่ง่ายๆ การจะจ้างมือปืนที่ทำได้ขนาดที่กล้ายิงกลางตลาด ถามว่าแค่ทะเลาะกันจะยอมเสียเงินหลักแสน เพื่อเอาความสะใจเฉยๆ และต้องเสี่ยงกับการที่อาจถูกตามจับ เพราะฉะนั้นต้องมีความมั่นใจหรืออิทธิพลพอสมควรถึงกล้าทำแบบนี้ได้ ส่วนที่จะเกี่ยวข้องกับคนอักษรย่อ ก. ผมคิดว่าใกล้ชิดมาก

ในด้านคุณเก่ง การุณเองก็ได้ออกมาดักคอว่าไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งสิ้น กลายเป็นว่าคนมีรอยด่างถูกตัดหางปล่อยวัด มันน่าคิดเช่นกันว่า อย่างคุณชุติเดช ลูกน้องเก่าคุณเก่งก็ยังโยนว่าถูกส่งมาให้เป็นไส้ศึก ตอนนี้รู้สึกกลัวเช่นกัน แต่ว่าก็มีความกล้าที่อยากจะหาคำตอบในการแสวงหาความจริง เพราะผมถือว่าคุณชุติเดชให้ใจเต็มร้อย มาทำงานอยู่กินด้วยกัน ตอนนี้ก็ต้องช่วยเหลือครอบครัวคุณชุติเดชอย่างเต็มความสามารถ ถามว่ากลัวไหม แน่นอนว่ากลัว เพราะเล่นเอาถึงตาย ต่อหน้าลูกต่อหน้าเมีย ส่วนเรื่องลูกเมีย คุณชุติเดช ตอนนี้ไม่อยากให้ออกตัวมาก เพราะเกรงกลัวอันตราย ผมไม่ใช่พวกนักการเมืองที่เคี้ยวกรำชนิดที่ว่าจะต้องหาประเด็นอะไรมาเล่นให้ได้ ตอนนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ก็ช่วยดูแลในด้านการเงินต่างๆ ซึ่งก็จะช่วยให้ได้มากเต็มความสามารถ

* คิดว่าการตายของคุณชุติเดชจะช่วยให้คนชั่วหายไปจากเขตดอนเมืองตามคำปรารถนาของภรรยาคุณชุติเดชได้หรือไม่?

ผมไม่มั่นใจ ใจจริงไม่กล้าคิดไปถึงขั้นนั้น เพราะว่ามันเป็นอิทธิพลมืดที่ฝังรากมานาน ผมก็เช็กปฏิกิริยาของคนรอบข้างก็ปรากฏว่าไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้แล้ว มีคนอยากช่วยเราน้อยลง แนวร่วมก็หายไป เพราะความตายมันไม่เข้าใครออกใคร ผมถึงเน้นย้ำว่ามันมีนัยที่เกี่ยวข้องกับการเมือง และการที่ฝ่ายการเมืองออกมาชี้นำประเด็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะอาจกลัวจะมีการสืบสาวลงลึกไปถึงนักการเมืองหรือไม่

ยิ่งผมอยู่กับคุณชุติเดชมานานพอสมควรคิดไม่ออกเลยว่า คุณชุติเดชจะมีประเด็นอะไรขัดแย้งส่วนตัวถึงกับทำให้ถูกฆ่าได้โหดเหี้ยมขนาดนี้ ถ้าถูกยิง 1-2 นัด หรือถูกทุบตีให้ตาย ผมยังไม่แปลกใจเท่านี้เลย แต่นี้เป็นการฆ่าแบบอุจอาจกลางตลาดและเป็นเวลาที่คนพลุกพล่าน ทั้งที่จะเก็บก่อนมาตลาดหาที่คนอยู่น้อยๆ ก็ง่ายกว่า และที่สำคัญก็เลือกยิงปาก แทนที่จะยิงศีรษะหรือหัวใจ เหมือนจะเป็นการแสดงสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง

**เหมือนกับตอนนี้ทางตำรวจดูเหมือนจะรีบปิดคดีให้ได้โดยเร็ว?

ทำให้ผมนึกไปถึงคดีการร้องเรียนต่างๆ ที่ได้ร้องต่อไปก่อนหน้านี้เหมือนกัน เนื่องจากว่าคดีต่างๆแทบไม่มีความคืบหน้าไปไหนเลย อย่างบางเรื่องกกต.ทำสำนวนมา ซึ่งคุณเก่ง การุณก็ยอมรับว่าพูดจริง แต่พอมาถึงตำรวจก็มีคำสั่งไม่ฟ้อง ผมคิดว่าตรงนี้เป็นความท้าทายของกระบวนการตรวจสอบทางสังคมในการหาความจริงที่เกิดขึ้น คือไม่ได้อยากให้เชื่อในคำพูดผม และไม่อยากให้เชื่อในฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ก่อนหน้านี้ ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านรองนายกฯเฉลิม ก็พูด มันยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าระบบอุปถัมภ์คนก็เลยวิ่งเข้าหาศูนย์กลางอำนาจเพื่อที่จะได้มีแบ็คอัพ

พูดง่ายๆ ว่าถ้าคดีนี้เอาจริง ตามจับคนที่อยู่เบื้องหลัง ตามจับตามสมมุติฐาน และตามหลักฐานที่ผมได้มา ก็จะพบว่ามันอาจไปเกี่ยวข้องกับนักการเมือง สิ่งผิดกฎหมายซึ่งถ้าจับได้จริงและสาวไปถึงต้นตอ ก็จะทำให้ดอนเมืองเปลี่ยนได้เลยทีเดียว และผมเชื่อว่าถ้าดอนเมืองเปลี่ยนได้ ประเทศไทยก็เปลี่ยนไปได้เหมือนกัน มีตำรวจท่านหนึ่งออกมาให้สัมภาษณ์ว่าดอนเมืองไม่มีบ่อนการพนัน ผมชี้ได้เลยว่าชื่อบ่อนแมนซิตี้ อยู่ตรงข้ามปั๊ม ปตท.ยังมีอีกหลายที่เช่นกัน คนที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ดอนเมืองก็จะทราบดี ไม่อยากเอาไปเปรียบเทียบกับการที่ ผบ.ตร.เพรียวพันธ์ ออกมาบอกว่าที่ผมบอกว่าติดอยู่ในรายชื่อ 5 คน ความจริงไม่มีอะไร คิดไปเอง ยิ่งท่านออกมาบอกเป็นประเด็นส่วนตัว ท่านก็ปิดกั้นความคิดเห็นไปในตัว แต่คนที่จะยืนยันได้ดีที่สุดก็คงเป็นภรรยาคุณชุติเดช ใช้ชีวิตร่วมกัน ผมก็ได้ยินได้ฟังข้อมูลจากคนใกล้ชิดข้อมูลที่สุดมา ทำให้ผมรู้สึกว่าทางตำรวจหรือผู้มีอำนาจน่าจะฟังผมบ้าง

** การที่คุณชุติเดชได้เข้ามาช่วยลงพื้นที่ช่วงน้ำท่วม ส่งผลให้คะแนนเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน?

ดีขึ้นมาก อย่างเรือกลำแรกที่ลงพื้นที่ก็เป็นของเขา อย่างการวางแผนจะช่วยประชาชนต่างๆ คุณชุติเดชก็คิดได้อย่างเบ็ดเสร็จว่าจะทำอย่างไร เช้า กลางวัน เย็น คุณชุติเดชต้องเข้ามาช่วยดูแลประชาชนที่เดือดร้อน ผมคิดว่าเรื่องคะแนนนิยมในช่วงน้ำท่วมไม่น่าจะมีส่วนมากเท่ากับการกุมความลับและเกรงว่าจะนำไปเปิดเผยข้อมูล หากมองกันอย่างแฟร์ช่วงนี้ก็ยังไม่ใช่ช่วงที่จะมีการแข่งขันการเมืองกันสูง ผมมองว่าน้ำหนักของการกลัวว่าคุณชุติเดชจะนำข้อมูลไปเปิดเผยมีสูงกว่า 90% ซึ่งกระบวนการลักษณะนี้มีมาก่อนช่วงเลือกตั้งเสียอีก มีการกวาดล้างเรื่องในลักษณะอิทธิพลมืด ช่วงหลังเลือกตั้งมันมีผลพวงที่ทำให้กลุ่มอิทธิพลบางกลุ่มได้เริ่มกลับมา

**บ่อนการพนันในพื้นที่ดอนเมือง มีมากขนาดไหน?

ส่วนใหญ่เป็นบ่อนวิ่ง พวกโต๊ะสนุกเกอร์ ใหญ่ๆก็มีบ่อนแมนชิตี้ หรือจะเป็นตรงสรงประภาก็มีเด่นๆ เลยคือชั้น 4 ของอยู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ผ่านไปสังเกตเลยจะเห็นนกแก้ว 2 ตัว คอยดูต้นทางให้ว่าใครมา เป็นบ่อนของคนที่ใกล้ชิดกับนักการเมือง ถามว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือไม่ ก็คงพูดไม่เต็มปาก แต่เกี่ยวข้องกับคนในธุรกิจมืดที่ไปเกี่ยวข้องกับนักการเมืองแน่นอน ซึ่งตอนนี้กำลังติดตามการแถลงข่าวของทาง ผบ.ตร. บอกว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างหัวคะแนนด้วยกัน ซึ่งผมมองว่าหัวคะแนนต้องเกี่ยวกับการทำงานให้พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง ตอนนี้เกรงว่าคดีนี้จะเป็นไปการจับแพะไป เนื่องด้วยมีคนจำนวนหนึ่งที่มีแผลอยู่เยอะ ชนิดที่หยิบไปไปตรงไหนก็โดนหมด เพียงแต่ว่าจะหาวิธีเชื่อมโยงอย่างไร

* มาถึงตอนนี้ยังเชื่อใจในการทำหน้าที่ของตำรวจ อยู่บ้างหรือไม่?

ผมไม่มีทางเลือกมาก ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ถ้าเลือกได้คงต้องเชื่อไว้ก่อน มีตำรวจผู้ใหญ่หลายท่านที่ผมพูดคุยบอกว่าจะไม่มีทางทรยศต่อวิชาชีพ ผมก็อยากจะเห็นตามคำพูดของพวกท่าน เพราะไม่อยากให้เห็นว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปร อยากจะทำอะไรก็ได้ แล้วการออกมาพูดแบบลอยๆ ว่าไม่มีบ่อนการพนัน ลองไปถามประชาชนในพื้นที่ก็ได้ว่ามีหรือไม่ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่จึงต้องรีบกลบเกลื่อน ผมเชื่อว่าถ้าเป็นตำรวจที่ดี ไม่จำเป็นต้องทำให้ภาพมันดูใสสะอาดเสียหมด เพียงแต่ว่าต้องเข้าไปตรวจสอบปัญหาเสียก่อน ยิ่งถ้าเราสามารถหาข้อมูลมาหักล้างคำพูดของท่าน ท่านเองจะเสียความรู้สึกมากกว่า โดยก่อนที่ผมจะแถลงข่าวหรือทำสิ่งใดก็จะประสานงานกับทางตำรวจก่อน เพื่อที่จะได้ช่วยกันสองทาง ส่วนตัวเชื่อว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว

* ช่วงหลังจากนี้มีการระมัดระวังตัวมากขึ้นอย่างไร?

พูดยากนะ จะให้ตำรวจมาคุ้มกันเวลาไปไหนมาไหน ผมคิดว่าถ้าคนร้ายจะยิงยังไงก็ยิงได้อยู่แล้ว เพียงแต่จะตายช้า ตายเร็ว แต่ก่อนคุณชุติเดชก็เตือนผมบ่อยว่าให้ระวังตัวว่าจะไปไหนมาไหนให้ระวังตัว สุดท้ายก็พบว่าเป็นไปตามที่แกพูดไว้จริง แต่ก็ยังคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ส่วนตัวคิดว่าจะไปไหนมาไหนก็อยากจะบอกคนอื่นด้วยซ้ำว่าจะไปไหน เพราะคิดว่าทำความดีไม่ต้องไปกลัวอะไร

* การเมืองในสายตาของคุณอี้ ตอนนี้น่ากลัวกว่าแต่ก่อนมากแค่ไหน?

น่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะมาก เอากันถึงตาย การเมืองในประเทศไทยยังเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนและฝังรากลึก ผมเองก็ไม่ใช่ฮีโร่ที่จะมาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ อาจจะเปลี่ยนไปในช่วงที่ผมเสียชีวิตไปแล้ว ผมอยากให้ต่อไปสังคมเกิดการปลูกฝัง วุฒิภาวะทางประชาธิปไตย แปลว่า ทำอย่างไรให้เกิดการแสดงออกทางการเมือง การแสดงความคิด และแสดงความเคารพต่อความเห็นต่าง ที่จะทำให้อยู่ร่วมกันในสังคมกันได้อย่างดี และนักการเมืองก็ต้องมีระบบตรวจสอบที่เข็มแข็งที่จะคอยยืนยันว่าเรามีนักการเมืองที่จะช่วยทำงานให้กับบ้านเมืองจริงๆ รวมถึงประชาชนก็ต้องคิดไปให้ถึงคำว่าสิ่งที่นักการเมืองจะทำให้บ้านเมือง ไม่ใช่ทำอะไรให้กับเราฝ่ายเดียว ไม่ใช่สนว่าเธอให้เงินฉัน ฉันจะรักเธอโดยไม่สนใจว่าเบื้องหลังแล้วเงินมาจากไหน ได้มาโดยสุจริตหรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าขบคิดอย่างมากสำหรับประเทศของเรา